วัดประยูรฯ เรียก “เจ้าคุณประสิทธิ์” แจงสัมพันธ์ “สีกากอล์ฟ”
14 กรกฎาคม 2568 ความคืบหน้าคดี “สีกากอล์ฟ” ที่มีความสัมพันธ์กับพระสงฆ์ระดับสูงจำนวนหลายรูป จนถึงขั้นอาบัติปราชิก โดยอีกหนึ่งวัดในกรุงเทพมหานครที่ ตำรวจ ปปป.เตรียมจะเข้าตรวจสอบรายละเอียด เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลเส้นทางการเงินของวัดคือ วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพราะ “พระเทพปวรเมธี" หรือ เจ้าคุณประสิทธิ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาส เข้าไปเกี่ยวข้องและมีความสัมพันธ์กับ “สีกากอล์ฟ” ก่อนหายเงียบไปจากวัด และยังไม่มีข่าวเรื่องของการลาสิกขา
ล่าสุด ผู้สื่อข่าว ได้พูดคุยกับ “พระครูวินัยธรวิเชียร วชิรธัมโม” ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ในฐานะผู้แทนวัดประยุรวงศาวาสฯ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ “พระเทพปวรเมธี" หรือ เจ้าคุณประสิทธิ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาส ปรากฎคลิปและรายชื่อมีความสัมพันธ์กับ “สีกากอล์ฟ” และหายออกไปจากวัด และยังไม่มีการลาสิกขา โดยพระครูวินัยธรวิเชียร ระบุว่า ขณะนี้คณะสงฆ์ได้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการพิจารณาข้อเท็จจริง โดยจะมีการเรียก “พระเทพปวรเมธี” มาให้ข้อเท็จจริงกับคณะกรรมการ และเมื่อท่านมาให้การกับคณะกรรมการ ทางคณะกรรมการก็จะต้องมีข้อมูลที่เป็นนิติวิทยาศาสตร์ประกอบการพิจารณาทางพระวินัย
ซึ่งโทษทางพระวินัย หากละเมิดข้อกำหนดพระพุทธศาสนา ต้องอาบัติ ปาราชิก ประกอบด้วย เสพเมถุน , การลักขโมย , การฆ่ามนุษย์ หรือพูดให้คนอื่นฆ่าตัวตายสำเร็จ , ผู้อวดคุณวิเศษ หรืออวดอุตริ ดังนั้นถ้าพระรูปใดละเมิดใน 4 ข้อนี้ จะต้องสึกอย่างเดียว
แต่ถ้าภิกษุใดมีความสัมพันธ์ในการจับต้องกายสุภาพสตรีด้วยความกำหนัด พูดเกี้ยวพาราสี เซ็กโฟน เป็นพ่อสื่อแม่ชัก หรือช่วยตัวเองสำเร็จ จะถือว่าเป็นสังฆาทิเสส คือโทษทางวินัยอีกรูปแบบหนึ่ง
ส่วนโทษทางโลกก็จะเป็นคดีอาญา ซึ่งโทษทางโลกถือเป็นจริยาพระสังฆาธิการ สำหรับผู้ที่มีตำแหน่งตั้งแต่ผู้ช่วยเจ้าอาวาสขึ้นไป
ทั้งนี้ เจ้าคุณประสิทธิ์ท่านลาสิกขาหรือยังนั้น พระครูวินัยธรวิเชียร บอกว่า ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูล แต่การจะลาสิกขาจะต้องดูเงื่อนไขประกอบหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และมองว่าเงื่อนไขในแง่นิติวิทยาศาสตร์ ยังคงไม่ถึงต้องกับลาสิกขา โดยตอนที่ท่านออกไปจากวัด ส่วนตัวก็ไม่ทราบว่ามีการแจ้งกับท่านเจ้าอาวาสไว้หรือไม่
ส่วนจะเรียกเข้ามาให้ข้อมูลกับคณะกรรมการเมื่อไรนั้น เบื้องต้นคาดว่าไม่น่าจะเกิน 7 วัน ก็จะทราบผล การเรียกมาให้ข้อมูล เพราะขณะนี้เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ได้ติดต่อไปยังเจ้าคุณประสิทธิ์ เพื่อให้มาให้ปากคำกับคณะกรรมการที่ตั้งมาไว้เพื่อตรวจสอบแล้ว และส่วนตัวมั่นใจว่า เจ้าคุณประสิทธิ์ จะมาให้ข้อมูลกับคณะกรรมการอย่างแน่นอน แต่คงไม่มาพบเจอกับสื่อมวลชน
พระครูวินัยธรวิเชียร ยังบอกอีกว่า ด้วยลักษณะนิสัยของท่าน เป็นพระที่เรียบร้อย เอาจริงเอาจัง ยึดมั่นในกฎระเบียบ ระเบียบเป็นอย่างไรก็ต้องเอาอย่างนั้น เป็นพระที่กล้าชน และเป็นคนนิ่ง ตั้งแต่ที่เคยเห็นมาตลอด 40 ปี ท่านเป็นพระที่เป็นนักทำงาน
ส่วนการดูแลบัญชีของวัด และการเบิกจ่ายจะมีการกลั่นกรอง ซึ่งยืนยันได้ว่า ไม่เกี่ยวข้องกับเจ้าคุณประสิทธิ์ แน่นอน เพราะว่าท่านไม่ได้มีอำนาจในการเบิกจ่ายเงินวัด ซึ่งเงินที่ท่านใช้ท่านหามาเอง ไม่ได้ใช้เงินวัดแม้กระทั่งเงินซ่อมแซมกุฏิ รวมถึงท่านมักจะหาเงินเข้ามาวัดมากกว่าด้วย
ส่วนกรณีสีกากอล์ฟเคยมาที่วัดนี้หรือไม่นั้น พระครูวินัยธรวิเชียร บอกว่า จำได้ว่าเคยเห็น แต่หายไป 2 ปีแล้ว ตอนนั้นมีการตั้งโรงทานเลี้ยงน้ำปานะ ทั้งพระและโยม
“โยมผู้นี้เป็นโยมอุปถัมภ์ เป็นนักบุญ แต่งตัวโอเค โปรไฟล์ดี รถที่ใช้ก็ดี ซึ่งผู้ที่มาตั้งโรงทาน คืออดีตพระเทพวชิรธีราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย จ.สระบุรี นำพามา แต่ก็ไปหลายวัดไม่ใช่แค่ที่นี่ จึงเป็นที่คุ้นเคยของพระผู้ใหญ่หลายวัด เขาก็อาศัยคราบนักบุญ ขุดบ่อล่อปลาเพื่อจับพระตัวใหญ่ จึงเป็นที่มาของการรู้จักพระหลายวัด“ ส่วนจะมีสีกามาคลุกคลีกันหรือไม่นั้น ส่วนตัวไม่ทราบ และเท่าที่เห็น เจ้าคุณประสิทธิ์นั้น ก็ไม่เห็นมีสีกามาคลุกคลี