น่านวิกฤต ประกาศแจ้งเตือน ระดับน้ำสูงสุด เชี่ยวกราก สั่งอพยพด่วน
วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 กรมประชาสัมพันธ์ แจ้งเตือนด่วนจาก ศูนย์บริหารจัดการน้ำจังหวัดน่าน คาดการณ์ว่าในช่วงเวลาประมาณ 04.00 - 06.00 น. ระดับน้ำแม่น้ำน่านบริเวณสะพานพัฒนาภาคเหนือจะพุ่งขึ้นแตะ 9.51 เมตรซึ่งสูงกว่าระดับน้ำเมื่อคืนเวลา 22.00 น. ถึง57 เซนติเมตร โดยกระแสน้ำจะแรงและเชี่ยวจัด อาจเกินจุดที่เคยท่วมในช่วงอุทกภัยครั้งใหญ่ก่อนหน้านี้
หน่วยงานในพื้นที่ขอความร่วมมือประชาชนอพยพทันที ย้ายสิ่งของมีค่า ยานพาหนะ และกลุ่มเปราะบางออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย พร้อมทั้งแนะนำให้เตรียมอาหาร น้ำดื่ม ยารักษาโรค และอุปกรณ์จำเป็นให้เพียงพออย่างน้อย 3-4 วัน เนื่องจากไฟฟ้าอาจถูกตัดกระแส
คืนที่ผ่านมาเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องหลายชั่วโมง ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในหลายจุด โดยเฉพาะใน เขตตัวเมืองน่าน มีรายงานว่าเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 23 ก.ค. น้ำได้ไหลหลากเข้าท่วมบริเวณรอบ วัดภูมินทร์ แหล่งท่องเที่ยวและโบราณสถานสำคัญประจำจังหวัด ลานพระอุโบสถและฐานเจดีย์บางส่วนมีน้ำท่วมขังแล้ว อย่างไรก็ตาม ยังไม่ถึงระดับของภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในวัด โดยเฉพาะภาพ กระซิบรักบันลือโลก ที่ยังคงปลอดภัยอยู่ในขณะนี้
สถานการณ์ในเขตเศรษฐกิจ วัด และสถานที่ราชการ ยังน่าเป็นห่วงอย่างมาก เจ้าหน้าที่ต้องเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง และเตรียมแผนช่วยเหลือเร่งด่วน โดยล่าสุดเพจ สวท.น่าน รายงานเมื่อเวลา 06:20 น. ว่า สถานีผาขวาง วัดระดับน้ำที่ 14.62 เมตร ขณะที่ สถานี N1 วัดได้9.24 เมตร พร้อมแจ้งว่า สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดน่าน FM 94.75 MHz ต้องงดออกอากาศชั่วคราว เนื่องจากไฟฟ้าดับ และเจ้าหน้าที่ต้องอพยพออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัย
ข้อมูลล่าสุดระบุว่า ระดับน้ำในแม่น้ำน่านขณะนี้ พุ่งสูงสุดในประวัติศาสตร์การบันทึกของจังหวัดหลายพื้นที่ของเมืองน่านจมอยู่ใต้น้ำ รวมถึงอาคารสถานีวิทยุและบ้านพักเจ้าหน้าที่ซึ่งถูกน้ำท่วมจนหมดชั้น 1
นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เผยว่าได้เรียกประชุมด่วนทุกหน่วยงานช่วงตี 4 เพื่อวางแผนรับมือสถานการณ์ โดยมีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยผู้ประสบภัย แม้จะประสบอุปสรรคจากกระแสน้ำเชี่ยวและอุปกรณ์ช่วยเหลือที่ยังไม่เพียงพอ
ขณะนี้มีหลายมูลนิธิและหน่วยกู้ภัยนำเรือเข้าช่วยในพื้นที่แล้ว พร้อมเปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวในหลายจุด หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือขอให้ติดต่ออำเภอ องค์กรบริหารส่วนตำบล หรือเทศบาลใกล้บ้านทันที