'แรชฟอร์ด' เปิดตัว 'บาร์เซโลน่า' ทางการ ยืมตัว 1 ปีพร้อมออปชั่นซื้อขาด
สโมสร บาร์เซโลน่า แถลงยืนยันการเซ็นสัญญายืมตัว มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ร่วมทีมอย่างเป็นทางการตลอดฤดูกาล 2025-26 โดยกองหน้าปีศาจแดงเลือกสวมเสื้อหมายเลข 14 ให้กับทีมอาซูลกราน่า
หัวหอกวัย 27 ปี จะย้ายมาค้าแข้งในถิ่น คัมป์ นู ด้วยสัญญายืมตัว 1 ฤดูกาล โดยทีมเจ้าบุญทุ่มมีเงื่อนไขสามารถซื้อขาดได้ในราคา 35 ล้านยูโร หรือราว 1,324 ล้านบาท ในช่วงหน้าร้อนปี 2026 โดย บาร์ซ่า จะเป็นฝ่ายรับผิดชอบค่าเหนื่อยของ แรชฟอร์ดทั้งหมดตลอดระยะเวลาที่เขาร่วมทีม
ซึ่งตามรายงานข่าวระบุว่ากองหน้าทีมชาติอังกฤษยินยอมลดค่าเหนื่อยของตัวเองลงมา เพื่อโอกาสในการได้ย้ายมาเล่นให้กับ บาร์เซโลน่า นั่นทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้ถึง 14-15 ล้านปอนด์ (ราว 612-655 ล้านบาท) เลยทีเดียว
ทั้งนี้ แรชฟอร์ด ได้ลงฝึกซ้อมครั้งแรกกับ บาร์เซโลน่า ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันอังคารที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา และคาดว่าจะได้ร่วมเดินทางไปทัวร์ปรีซีซั่นในแถบเอเชียด้วย โดยเจ้าตัวได้ทำการเปิดตัวและเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการเมื่อวันพุธที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา และได้เลือกสวมเสื้อหมายเลข 14 ซึ่งเป็นหมายเลขที่ เธียร์รี่ อองรี อดีตกองหน้าระดับตำนานของทีมชาติฝรั่งเศสเคยสวมใส่ ระหว่างเล่นให้กับ บาร์เซโลน่า ในช่วงระหว่างปี 2007-2010
ขณะที่การย้ายทีมครั้งนี้ ถือเป็นการย้ายทีมออกนอกประเทศเป็นครั้งแรกของ แรชฟอร์ด และเป็นการย้ายทีมแบบยืมตัวเป็นครั้งที่สองของเขา หลังจากที่ช่วงครึ่งหลังของฤดูกาลก่อนได้ย้ายไปเล่นแบบยืมตัวกับ แอสตัน วิลล่า และโชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจ แต่สุดท้ายแล้วทีมสิงห์ผงาดไม่ได้ใช้เงื่อนไขซื้อตัวไปร่วมทีมเป็นการถาวร
สำหรับ แรชฟอร์ด ทำสถิติยิงไป 138 ประตูกับอีก 79 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 426 นัดรวมทุกรายการให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด นับตั้งแต่ประเดิมสนามครั้งแรกในปี 2016 และคว้าแชมป์ร่วมกับทีมหลายรายการ อาทิ แชมป์ เอฟเอ คัพ 2 สมัย, แชมป์ ลีก คัพ 2 สมัย และ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก 1 สมัย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ส่องประวัติ 'มาร์คัส แรชฟอร์ด' จากขวัญใจปีศาจแดงสู่การเป็นนักเตะที่ทีมไม่ต้องการ
- มาร์คัส แรชฟอร์ด ย้ายซบ บาร์ซ่า …. จุดเปลี่ยนสำคัญหรือแค่ทางเบี่ยงชั่วคราว!
- ลีกซาอุฯ บ้าเลือดทุ่ม 350 ล้านยูโรฉก 'วินิซิอุส'
- ส่องประวัติ อัลบาโร่ การ์เรราส ดาวรุ่งที่ได้หวนกลับสู่ราชันชุดขาวอีกครั้ง
- อนาคตที่ยังคงไม่แน่นอนของ ' วิคเตอร์ โอซิเมน'