ผู้ว่าฯรับ ไม่เคยรู้ ‘ก่อสร้างล้ำคลอง’ ขวางอุโมงค์น้ำ ส.ก.เผยบางท่าเรือ เซ้งให้แรงงานข้ามชาติ
ผู้ว่าฯรับ ไม่เคยรู้มาก่อน ‘พีรพล’ เล่าเคสเอกชนก่อสร้างรุกล้ำคลอง กระทบอุโมงค์ระบายน้ำ – บางท่าเรือ ถูกเซ้งให้แรงงานเมียนมา
เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 ดินแดง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยฝ่ายบริหาร ข้าราชการและสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ทั้ง 50 เขต เข้าร่วม การประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่สาม (ครั้งที่ 3) พ.ศ. 2568 โดยมี นายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ส.ก.เขตลาดกระบัง ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม
ในตอนหนึ่ง นายพีรพล กนกวลัย ส.ก.เขตพญาไท ตั้งกระทู้ถามสดถึงปัญหาสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำและกีดขวางทางน้ำคลองบางซื่อ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการทำงานของอุโมงค์ระบายน้ำบางซื่อ แม้โครงการอุโมงค์จะแล้วเสร็จ แต่ยังใช้งานไม่ได้ เพราะน้ำไม่สามารถไหลเข้าสู่อุโมงค์ได้เต็มที่ เนื่องจากมีสิ่งกีดขวางในคลอง
นายพีรพล กล่าวว่า สาเหตุหนึ่งมาจากสะพานและท่าเรือที่เอกชนสร้างรุกล้ำคลอง โดยเฉพาะหลังตลาด อตก. บริเวณใกล้วัดไผ่ตัน ซึ่งอยู่ห่างจากปากอุโมงค์เพียง 200 เมตร หากมีสิ่งขวางแม้เพียงเล็กน้อย จะทำให้น้ำระบายไม่ได้
“ได้รับการร้องเรียนจากประชาชน และเคยแจ้งเรื่องไปยังสำนักงานเขตและสำนักระบายน้ำนานหลายเดือนแล้ว แต่กลับไม่มีการดำเนินการใดๆ ล่าสุดจากการลงพื้นที่ก็ยังพบสิ่งปลูกสร้างอยู่เหมือนเดิม เหตุใดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงเพิกเฉย ปล่อยปละละเลยถึงขนาดนี้ ทั้งที่เป็นคลองสาธารณะขนาดใหญ่ ผมไม่เชื่อว่าจะไม่มีเจ้าที่เห็น แต่ทำไมถึงเกิดสภาพแบบนี้มาหลายเดือนแล้ว” นายพีรพลกล่าว
นายพีรพลจึงสอบถามฝ่ายบริหารว่า ตอนนี้ที่มีสิ่งกีดขวางทางน้ำ 1.หน่วยงานไหนจะรับผิดชอบและจะดำเนินการ
ด้าน นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ชี้แจงว่า บริเวณจุดนี้ เป็นสะพานที่ กรมธนารักษ์ได้อนุญาตให้เอกชนก่อสร้างได้ แต่ยังไม่ได้ได้รับการอนุญาตจาก กทม. ซึ่งสำนักงานเขตพญาไท จึงมีคำสั่งให้รื้อถอนก่อนขออนุญาตให้ถูกต้องแล้ว
ทั้งนี้ นายพีรพล แย้งว่า ตนค่อนข้า ‘งง’ ที่กล่าวว่าเอกชนได้รับอนุญาตจากกรมธนารักษ์ เพราะยังไม่มีการขออนุญาตจาก กทม. และเขตพญาไทเพิ่งสั่งให้รื้อถอนนั้น อยากถามว่า กรมธนารักษ์มีสิทธิอนุญาตในพื้นที่ใกล้อุโมงค์หรือ พร้อมทั้งวิจารณ์ว่า กทม. กลับจัดการกับพ่อค้าแม่ค้าริมถนนได้ทันที แต่ไม่จัดการสิ่งปลูกสร้างที่รุกคลอง ซึ่งกระทบโครงสร้างสำคัญของเมือง
พร้อมย้ำว่าหาก กทม. ไม่ดำเนินการตนจะจัดการต่อเอง และเผยอีกด้วยว่า กิจการท่าเรือบางแห่ง ถูกเซ้งให้แรงงานต่างด้าวเป็นผู้ดำเนินกิจการแล้ว
“ตรงนี้มันใกล้โมงค์มาก การขออนุญาตไม่น่าจะทำได้ ฝั่งตรงข้ามเป็นที่ดินขนาดใหญ่ซึ่งเขาอ้างว่ามันที่ดินตาบอด แต่มันไม่ได้บอด เพราะเข้าจากซอยประดิพัทธ์ 15 ได้ แต่เป็นถนนเล็กไม่ถึง 6 เมตรสร้างอาคารสูงไม่ได้ ถึงมาสร้างสะพานสูงตรงนี้ ผมชื่อว่าถ้าขออนุญาตได้อย่างไรก็เป็นปัญหาแน่นอน ถ้าอนุญาตได้คงต้องไปปิดอุโมงค์บางซื่อทิ้งได้เลย เพราะไม่มีประโยชน์”
“กทม.ไม่เคยเห็นอะไรเลย เห็นแต่พ่อค้าแม่ค้าริมถนนเท่านั้น แต่สิ่งเหล่านี้สำคัญกว่ากลับไม่เห็น ทำแบบนี้ได้อย่างไรกับทรัพย์สินของทางราชการ (เปิดภาพรถแบ็คโฮ กำลังก่อสร้างสะพานบนพื้นที่สาธารณะ) ท่านจะดำเนินการอย่างไร และจะไปถอนออกเมื่อไหร่ เพราะเรื่องนี้ได้ไปกล่าวกับสำนักงาเขตทั้ง 2 แล้ว รวมถึงสำนักการระบายน้ำด้วย แต่ก็ยังเพิกเฉย” นายพีรพลกล่าว และว่า ที่ตรงนี้มีการแจ้งความแล้วเมื่อ 3-4 เดือนก่อน แต่ไม่มีการดำเนินการ ท่านจะปล่อยทิ้งให้ลืมไปหรือ
“ท่าเรือตรงนั้น เมื่อก่อนชาวบ้านเป็นคนทำ ปัจจุบันเซ้งให้พม่าเป็นคนทำแล้ว กิจการท่าเรือเป็นกิจการของพม่า มีผู้ได้รับผลประโยชน์จากท่าเรือนี้ ผมไม่อยากพูดยาวไปกว่านี้ ผมอยากทราบว่าจะดำเนินการเมื่อไหร่” นายพีรพลกล่าว
จากนั้น นายชัชชาติ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ยอมรับว่า ไม่เคยทราบข้อมูลนี้มาก่อน และขอบคุณ นายพีรพล ที่ให้ข้อมูล พร้อมสั่งการให้เขตและสำนักระบายน้ำเร่งตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายโดยทันที ยืนยันว่า ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือชาวต่างชาติ หากกระทำผิดก็ต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด และจะขยายผลตรวจสอบไปยังคลองอื่นในกรุงเทพฯ ด้วย
นายพีรพล ยังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า ปัญหานี้ไม่ควรเงียบหายเหมือนที่ผ่านมา และควรมีคำตอบชัดเจนว่าจะรื้อถอนเมื่อใด เพื่อปกป้องระบบระบายน้ำของกรุงเทพฯ และความปลอดภัยของประชาชนในระยะยาว
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ผู้ว่าฯรับ ไม่เคยรู้ ‘ก่อสร้างล้ำคลอง’ ขวางอุโมงค์น้ำ ส.ก.เผยบางท่าเรือ เซ้งให้แรงงานข้ามชาติ
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th