โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ไม่เอารัฐประหาร เลือกตั้งคือ ‘ทางออก’ เสียงสะท้อนผู้ชุมนุมกลุ่มรวมพลังแผ่นดิน

The Momentum

อัพเดต 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 12 ชั่วโมงที่ผ่านมา • THE MOMENTUM

จากคำว่า ‘Uncle’ สู่การลงถนน บทสนทนาระหว่าง แพทองธาร ชินวัตร กับสมเด็จ ฮุน เซน (Hun Sen) ที่มีเจตนามุ่งหาข้อยุติชายแดน-กัมพูชาดูจะไม่เป็นผล แต่กลับเป็นชนวนสู่การชุมนุม ‘ชัตดาวน์’ ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิของ ‘กลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไทย’ เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2568 ขณะเดียวกันบทสนทนาดังกล่าวที่มีความยาว 17.06 นาที ยังกลายเป็นนิมิตหมายการรวมตัวของ ‘คนหน้าเดิม’ อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่มีบทบาทสำคัญในช่วงปี 2548-2552 โดยมีจุดประสงค์คือการขับไล่ ทักษิณ ชินวัตร ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และมีข้อครหาว่าเป็นกลุ่มที่รู้เห็นเป็นใจต่อการรัฐประหารปี 2557 โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มาขึ้นเวทีปราศรัย

กระนั้นแม้ข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อในการชุมนุม คือ 1. แพทองธารลาออก 2. พรรคร่วมถอนตัวจากรัฐบาล และ 3. ขอให้ประชาชนสลายสีเสื้อปกป้องอธิปไตยยืนเคียงข้างทหาร ดูเหมือนจะไม่สามารถนำไปสู่การรัฐประหารได้ แต่แกนนำบางคนดูจะ ‘ไม่มีปัญหา’ หากการเมืองไทยจะวนลูปกลับไปสู่ยุคทหารอีกครั้ง ดังที่ สนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวบนเวทีช่วงหนึ่งว่า “ไม่ได้ยุให้รัฐประหาร แต่ถ้าทหารจะทำก็ไม่ขัด”

ในช่วงที่แกนนำกำลังปราศรัยปลุกพลังรักแผ่นดินกันอย่างดุเดือด The Momentum ลงพื้นที่ เพื่อสำรวจเสียงของประชาชนผู้ร่วมชุมนุมรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิว่า พวกเขามีความคิดเห็นอย่างไรต่อการรัฐประหาร ปัญหาที่เผชิญอยู่นี้ควรแก้ไขอย่างไร และการเลือกตั้งยังคงเป็นคำตอบที่พวกเขาเชื่อมั่นอยู่หรือไม่

ไม่ใช่เพียงคลิปเสียง แต่มีปัญหาอื่นๆ ร่วมด้วย จึงออกมาชุมนุม

“รายได้ของผมลดลงแทบทุกอย่าง ไม่มีอะไรเหลือแล้วประเทศไทย วันนี้เลยออกมาแสดงพลัง สู้เพื่อลูกหลานของเราในวันข้างหน้า” สมชาย พงษ์เถื่อน วัย 55 ปี ซึ่งเดินทางจากจังหวัดชลบุรีมาร่วมชุมนุมให้เหตุผลว่า การชุมนุมของเขาในวันนี้ไม่ได้มีเพียงคลิปเสียงของนายกรัฐมนตรีกับสมเด็จ ฮุน เซน ที่เป็นประเด็นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงปัญหาเศรษฐกิจซึ่งเขามองว่า ‘เละเทะ’

“การเกษตรทุกอย่างไม่มีแล้ว พังหมดแล้ว พืชผลเหลือกิโลกรัมละไม่กี่บาท เหมือนย้อนยุคกลับไปเมื่อสมัย 40-50 ปีที่แล้ว ประเทศไทยอยู่ไม่ได้ แล้วเรายังจะเอามัน (แพทองธาร ชินวัตร) อีกเหรอ”

ด้าน รณกร พรมเจริญ วัย 54 ปี ผู้ชุมนุมอีกราย แสดงทัศนะว่า นอกจากปมคลิปเสียงการพูดคุยของแพทองธาร ชินวัตร กับสมเด็จ ฮุน เซนที่ระบุว่า กองทัพภาคที่ 2 เป็น ‘ฝ่ายตรงข้าม’ ทำให้เขาไม่พอใจจนต้องออกมาชุมนุม ยังมีปัจจัยเกี่ยวกับการบริหารประเทศของรัฐบาลซึ่งเขามองว่า มีส่วนอย่างมากที่ทำให้ผู้คนออกมาชุมนุม

“ช่วงนี้เศรษฐกิจย่ำแย่ นโยบายต่างๆ ที่รัฐบาลประกาศเอาไว้ก็ทำไม่ได้ คนยากคนจนเดือดร้อนมาก ทั่วโลกไม่เชื่อถือรัฐบาลตระกูลนี้ เพราะเกิดการทุจริตมาหลายทศวรรษและหลายชั่วอายุคน”

จากการสอบถามผู้ชุมนุมจำนวน 4 ราย ซึ่งหนึ่งในนั้นมีคนรุ่นใหม่อายุ 21 ปี ร่วมให้สัมภาษณ์ว่า ฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ตัดสินใจออกมาชุมนุมยังคงเป็นประเด็นเรื่องชายแดน ทว่า พวกเขากล่าวเสริมว่า ปัญหาเศรษฐกิจการเมืองที่พวกเขามองว่า ‘มีการทุจริตคอร์รัปชัน’ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยนอกเหนือจากประเด็นคลิปเสียงที่ผลักดันให้ออกมาชุมนุม

“ผมรับไม่ได้กับการทุจริตคอร์รัปชันของรัฐบาล รัฐบาลมีแต่คนคอร์รัปชัน มีแต่คนกอบโกยเอาทรัพยากรของแผ่นดินไปเป็นของตัวเอง ผมรับเรื่องแบบนี้ไม่ได้” รณกรกล่าว

มาแสดงพลัง ไม่ต้องการสงคราม-ความรุนแรง

“ผมไม่ชอบความรุนแรง ถ้าหากพวกเขาขอความรุนแรง ผมขอตาย” สมชายกล่าว แม้ว่าจะไม่เห็นด้วยกับการสนทนาของแพทองธาร กับสมเด็จ ฮุน เซน และมองว่าคำพูดในคลิปเสียงเป็นการ ‘ขายประเทศชาติให้กับเขมร’ ทั้งนี้เขามองว่า การชุมนุมของกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไทยไม่จำเป็นต้องเดินหน้า เพื่อให้บรรลุข้อเรียกร้องโดยใช้ความรุนแรงและควรเป็นไปด้วย ‘สันติวิธี’

อย่างไรก็ตาม หลังกองพลทหารไทยกับกัมพูชาปะทะกัน ณ ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา ผู้ใช้โซเชียลมีเดียทั้งชาวไทยและกัมพูชาจำนวนหนึ่งแสดงความเห็นในทำนองที่อยากให้เกิดการรบระหว่างสองประเทศ ทว่าเมื่อสอบถามผู้ชุมนุมหลายคนมองว่า การแก้ปัญหาข้อพิพาทครั้งนี้ไม่จำเป็นถึงขั้นต้องมี ‘สงคราม’

“จริงๆ มันแก้ด้วยสันติได้ ถ้าเราดูท่าทีของเขมร เราจะเห็นว่าเขาพูดอยู่ตลอดว่า จะรอนายกฯ คนใหม่ แล้วเขาจะคุยกับคนใหม่ เขาไม่อยากรบอยู่แล้ว เขารอสันติ เพราะรู้ว่ารบไปก็ไม่ชนะเรา แก้ด้วยสันติดีกว่า” หง่าวอดีตกราฟิกดีไซเนอร์วัย 55 ปี ระบุ พร้อมกับยกฟิวเจอร์บอร์ดซึ่งพิมพ์รูปภาพของนายกรัฐมนตรีพร้อมข้อความแสดงออกทางการเมืองทั้งคำว่า พี่น้องไทยรวมใจไล่กบฏทรยศชาติ, อังเคิลคะ อยากได้อะไรบอกหลาน, โถส้วมฮุน เซน และแพรทองทุย อีภัยความมั่นคง ว่าเป็นหนึ่งในการใช้ฝีมือแสดงออกทางการเมืองอย่างสันติวิธี

“ มัน (สันติวิธี) เป็นแนวทาง การทำผลงานเหล่านี้ออกมาทำให้สื่อมวลชนสนใจ” เขาพูดย้อนไปถึงการชุมนุมเมื่อปี 2557 ว่า “ครั้งนั้นผมก็ทำผลงานเพื่อมาชุมนุมเหมือนกัน ผมเห็นผลงานชิ้นนี้ออกข่าว CNN กับสำนักข่าวต่างประเทศอีกหลายสำนัก มันได้ผลนะ”

นอกจากฟิวเจอร์บอร์ด The Momentum ยังสังเกตเห็นว่า ในพื้นที่การชุมนุมมีการแสดงออกทางการเมืองที่หลากหลาย โดยเฉพาะการสวมเสื้อผ้าที่มีลวดลายหรือประดับด้วยธงชาติไทย ชุดทหาร ป้ายที่มีข้อความทางการเมือง ฯลฯ ซึ่งบางส่วนระบุว่า เป็นเงินทำมือ เช่น ชุดลายธงชาติของรณกร ซึ่งเขาให้ข้อมูลว่าสั่งตัดใหม่ในราคา 3,000 บาท เพื่อนำมาแสดงเชิงสัญลักษณ์

รัฐประหารไม่ใช่ทางแก้ เลือกตั้งใหม่คือทางออก

เมื่อการชุมนุมล่วงเลยมาจนถึงเวลา 18.02 น. นิติธร ล้ำเหลือตัวแทนแกนนำกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไทย ขึ้นอ่านแถลงการณ์โดยมีข้อเรียกร้อง 3 ข้อ คือ

1. ให้แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่งทันที

2. ขอให้พรรคร่วมถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาลทันที

3. การแสดงจุดยืนของมวลชนเพื่อแสดงพลังปกป้องอธิปไตยไทย

ก่อนที่สนธิอดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะขึ้นปราศรัยในเวลาต่อมา พร้อมกับระบุในทำนองที่ว่า หากจะมีการปฏิวัติรัฐประหารก็เป็น ‘เรื่องของเขา’ ทั้งนี้ ขออย่าเอานายพลทหารมาบริหารอีก

“คนส่วนใหญ่ไม่ต้องการรัฐประหาร รวมทั้งตัวผมเองก็ไม่ต้องการรัฐประหาร เพราะการรัฐประหารคือการเริ่มต้นใหม่ และทั่วโลกเขาไม่ยอมรับเรา” รณกรชี้ว่าสิ่งที่เขาต้องการคือให้นายกรัฐมนตรีลาออก หรือประกาศยุบสภา “เพื่อคัดกรองคนที่มีศักยภาพ คนที่มีคุณภาพเข้ามาดูแลประเทศชาติเรา”

ทั้งนี้หากนายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ระบุว่า คณะรัฐมนตรีจะพ้นจากตำแหน่งทันที โดยจะทำหน้าที่รักษาการจนกว่าจะสรรหานายกรัฐมนตรีใหม่ โดยรัฐสภาต้องลงมติ ‘เห็นชอบ’ ผู้มีรายชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีด้วยคะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน 5 คน ได้แก่ อนุทิน ชาญวีรกุล พรรคภูมิใจไทย, ชัยเกษม นิติสิริ พรรคเพื่อไทย, พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา พรรครวมไทยสร้างชาติ, พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค พรรครวมไทยสร้างชาติ และจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ พรรคประชาธิปัตย์

หากเกิดการ ‘ยุบสภา’ รัฐธรรมนูญระบุว่า ต้องกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่เป็นการเลือกตั้งทั่วไปภายในระยะเวลาไม่น้อยกว่า 45 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน นับแต่วันยุบสภา

“เราอยากเลือกตั้งใหม่” หง่าวระบุ “อย่างน้อยก็ตัดความรุนแรงทางการเมืองออกไป และตัดความเสี่ยงจากการบริหารของแพทองธารออกไปด้วย เรายังคงยืนยันว่า การเลือกตั้งใหม่เป็นทางออกที่ดีกว่า”

ขณะที่ เอิร์ธ ผู้ร่วมชุมนุมวัย 21 ปี ซึ่งเดินทางมาร่วมชุมนุมกับเพื่อนวัยเดียวกันมีความเห็นว่าการยุบสภา ‘เป็นทางออก’ ของปรากฏการณ์ทางการเมืองครั้งนี้

“ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ผมยังเชื่อในการเลือกตั้ง เพราะถ้าเสียงของประชาชนชนะ ผมคิดว่าจะมีพลังมากกว่า และเป็นประชาธิปไตยมากกว่า”

เมื่อถูกถามว่า ทหารควรเข้ามาแทรกแซงทางการเมืองหรือไม่ เอิร์ธ ตอบทันทีว่า “เขาก็มีหน้าที่ของเขาอยู่แล้ว ไม่ควรมายุ่งทางการเมือง” ขณะที่เพื่อนซึ่งยืนอยู่ข้างๆ พยักหน้าแสดงท่าทีเห็นด้วยกับคำตอบ

การชุมนุมเป็นเพียงการแสดงออกทางการเมืองตามระบอบประชาธิปไตย เพราะอยากเห็นประเทศไทยดีขึ้นกว่าเดิม

รณกรในชุดลายธงชาติระบุว่า ไม่เคยมองผู้เห็นต่างทางการเมืองเป็นศัตรู “จะเป็นสีอะไรก็แล้วแต่ถือเป็นคนไทยเหมือนกัน” ขณะเดียวกันก็มองว่า การชุมนุมครั้งนี้เป็นเพียงการแสดงออกทางการเมืองเพราะ “เรามาเพื่อประชาธิปไตย และประชาธิปไตยคือ การที่เราสามารถแสดงออกทางการเมืองได้ โดยไม่ทำให้เกิดความสูญเสียกับประชาชนด้วยกัน เราแค่ต้องการให้ประเทศชาติของเราไปได้ดีมากกว่านี้”

ขณะที่เอิร์ธแสดงทัศนะในฐานะหนึ่งในคนรุ่นใหม่ที่มาร่วมชุมนุมว่า “ผมอยากเห็นเศรษฐกิจดีขึ้น ถ้าใครจะเข้ามาบริหารก็มีหน้าที่ทำให้เศรษฐกิจมันดีขึ้นอยู่แล้ว” ทั้งนี้เขาเสริมว่า เขาอาจไม่ได้รับผลกระทบทางการเมืองมากนักหากเทียบกับผู้มีฐานะยากจน แต่มีความ ‘เข้าใจหัวอก’ ดีว่า การเป็นแรงงานพลัดถิ่นในปัจจุบันมีความยากลำบากอย่างไร

“ผมอยากเลือกตั้งแล้วครับ” เอิร์ธระบุ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก The Momentum

จับเข่าคุยกับ Gother แพลตฟอร์มท่องเที่ยวสัญชาติไทย ที่หวังเป็นทางเลือกของนักเดินทาง

11 ชั่วโมงที่ผ่านมา

กัมพูชากำลังรอ ‘ผู้มีอำนาจ’ ตัวจริง ฮุน มาเนต ส่งสัญญาณเจรจาเปิดด่าน หลัง ‘แพทองธาร’ ถูกสั่งยุติปฏิบัติหน้าที่

11 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

คราวนี้ไม่เผาผี!ทรัมป์ขู่เนรเทศ'มัสก์'พ้นแผ่นดินสหรัฐฯ โมโหวิจารณ์ร่างงบประมาณไม่หยุด

Manager Online

ราคาน้ำมันวันนี้ (2 ก.ค. 68) เช็กราคาดีเซล-แก๊สโซฮอล์ล่าสุด

ประชาชาติธุรกิจ

ฝนตกถนนลื่น เกิดอุบัติเหตุ 3 รายซ้อน นักข่าว กู้ภัย คนขับ เจ็บรวม 7 ราย

สวพ.FM91

น้ำมันขึ้นเล็กน้อย-ทองบวก หุ้นสหรัฐฯปิดผสมจับตาการเจรจาการค้า

Manager Online

รถอเนกประสงค์แหกโค้งชนเสาไฟฟ้าคว่ำลงข้างทาง รองผู้กำกับฯ สภ.เมืองอุบลราชธานี บาดเจ็บสาหัส ก่อนไปเสียชีวิตที่ รพ.

สวพ.FM91
วิดีโอ

รวมพลังแผ่นดิน นัดชุมนุมใหญ่ กลางเดือนสิงหาคม 68 คปท. ยังตรึงกำลังทำเนียบรัฐบาล จตุพร ยืนยันไม่เอารัฐประหาร

BRIGHTTV.CO.TH

ทรัมป์ ยืนยันเนทันยาฮูเผยต้องการยุติสงครามในฉนวนกาซา

JS100

ยอดดับไฟไหม้โรงงานยาอินเดียระหว่างชั่วโมงทำงานใน "รัฐเตลังคานา" พุ่ง 34 ศพโดนเผาเป็นตอตะโก “โมดี” เสนอเยียวยา 200,000 รูปี

Manager Online

ข่าวและบทความยอดนิยม

อดีตผู้นำขวาจัดบราซิลลงถนน หลังเผชิญคดี ‘ก่อรัฐประหาร’ และ ‘ล้มเลือกตั้ง’ เผยไม่ได้ทำอะไรผิด พร้อมสู้กับศาล

The Momentum

“เราไม่เคยมองคนไทยเป็นศัตรูเลย” เสียงสะท้อนครอบครัวชาวเขมรในนวนคร จากชีวิตแรงงาน สู่การขับไล่ให้กลับกัมพูชา

The Momentum

‘บ้านอองโตนี’ ชานกรุงปารีส ที่พำนักสุดท้ายของชายผู้อภิวัฒน์สยาม

The Momentum
ดูเพิ่ม
Loading...