'ทนายวิญญัติ' เผย 'ทักษิณ' ไม่หนักใจ - ตกเป็นเหยื่อไม่ควรโดนฟ้อง
วันนี้ (1 ก.ค.) เวลา 16.09 ที่ศาลอาญา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางออกจากศาลอาญา โดยให้รถส่วนตัว ขับไปรับบริเวณข้างศาลก่อนที่จะขับออกไปจากศาลอาญา โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชน
จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังเสร็จสิ้นการสืบพยานฝ่ายโจทก์ ว่า บรรยากาศในช่วงบ่ายสีหน้า นายทักษิณ ดูเป็นปกติ อยู่ทั้งวันในห้องพิจารณาท่านอาจจะเหนื่อยล้า ง่วงนอน หลังจากที่ทนายได้ทำหน้าที่แล้ว ท่านก็มีคำถามที่ได้ถามเอง
ส่วนการสืบพยานนัดแรก ถือว่าราบรื่นเป็นไปด้วยดี ศาลก็ออกข้อกำหนดให้พิจารณาเป็นการลับ ตนพูดถึงกระบวนการพิจารณาไม่ได้ สืบพยานเป็นอย่างไร สืบใครบ้าง
ทนายวิญญัติ กล่าวด้วยว่า วันนี้ได้สืบจบไปแล้ว 3 ปาก พรุ่งนี้ (2 ก.ค.) อีก 4 ปาก ทั้งเช้าและบ่าย ส่วนวันสุดท้ายก็ 3 ปาก และนายทักษิณก็จะเดินทางมาสอบพยานเองทัั้ง 3 วัน
ผู้สื่อข่าถามว่านายทักษิณมีท่าทีที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนหรือไม่ นายวิญญัติ ตนไม่ทราบ มองว่าท่านอยากจะมาทำหน้าที่ตามกระบวนการ ส่วนการนัดคุยกับสื่อฯ ตนไม่รู้ว่าอยากคุยหรือไม่อยากคุย กระบวนการพิจารณาถ้าตนไม่มีหน้าที่ทนายความ ตนก็จะไม่มาให้ข่าว แต่ตนมาให้โอกาสในการสื่อสาร และตนไม่สามารถตอบได้ เพราะเป็นสิทธิ์ของท่าน แต่ยืนยันมาทุกนัด
ส่วนกรณี นายทักษิณ ทราบหรือยังว่าศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ นส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หยุดปฎิบัติหน้าที่ นายวิญญัติ เผยว่า น่าจะทราบแล้ว แต่ตนไม่ได้คุยกับท่านเลย แล้วก็ยังไม่มีอาการตกใจใดๆ เหมือนเมื่อเช้า ดูสบายๆ
สำหรับการสืบพยานนัดแรก มองแนวโน้นเรื่องของคดีคิดว่าจะชนะได้หรือไม่ นายวิญญัติ เผยว่า ตนไม่สามารถบอกได้ ขอให้สืบพยานโจทก์เสร็จก่อน แม้จะสืบเสร็จก็ไม่สามารถบอกได้ว่าชนะหรือเปล่า เพราะว่าเป็นดุลพินิจของศาลที่จะช่างน้ำหนักพยานหลักฐานที่โจทก์นำมาฟ้องเพียงพอเชื่อได้หรือไม่ว่าทำความผิดจริง ยืนยันว่า นายทักษิณ ไม่หนักใจตั้งแต่แรก ท่านถูกกระทำตกเป็นเหยื่อ และไม่สมควรจะฟ้องตั้งแต่แรก
ผู้สื่อข่าวถามว่าศาลให้เหตุผลหรือไม่ว่าทำไมการพิจารณาเป็นคดีต้องเป็นความลับ ทนายวิญญัติ กล่าวว่า ตนบอกไม่ได้ เพราะเกี่ยวข้องกับกระบวนการพิจารณา มีเหตุผลอยู่แล้ว แต่บอกเหตุผลของศาลไม่ได้ คาดว่าเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับข้อหาที่กระทบ พร้อมยืนยันว่า ไม่กังวลว่าจะกระทบกับเรื่องการเมือง คดีที่เกี่ยวข้องกับเรื่องอื่นไม่ใช่หน้าที่ตนต้องแยกแยะ แค่คดีนี้ที่ตนรับผิดชอบไม่กังวลเลย ตั้งแต่รับทำคดี การทำหน้าที่วันนี้มีโอกาสต่อสู้ได้ดีขึ้น เพราะพยานหลักฐานต่างๆ ในสำนวนได้เห็นแล้ว ได้ตรวจแล้วมีเอกสารบางอย่างไม่หนักใจ