๓ วันที่ “โลกหยุดหมุน”
หมามันยังรู้คุณคน
แต่เขมร ทั้งที่ไทยให้อาศัยแผ่นดินซุกหัว มันกลับเนรคุณ!
เมื่อวาน (๒๕ ส.ค.) ตั้งแต่บ่าย
พวกเขมรที่ดื้อแพ่งตั้งบ้านเรือนอยู่ในเขตไทยที่ “บ้านหนองจาน” โนนหมากมุ่น สระแก้ว ก่อจลาจล รื้อรั้วลวดหนาม
เพจ Army Military Force โพสต์ว่า
ด่วน! เวลา 17.15 น. ชาวบ้านเขมรเข้ารื้อรั้วลวดหนามหีบเพลงที่ทหารไทยได้กั้นไว้ ณ บ้านหนองจาน พร้อมกับนำลวดหนามออกจากพื้นที่
แกนนำชาวบ้านซึ่งเป็นทหารกัมพูชา สั่งชาวบ้านเขมรให้รื้อหมด และเข้ายึดพื้นที่ของไทย พร้อมยํ้ากับชาวบ้านเขมรว่า
“รื้อลวดหนามออกมาแล้ว เอาไปขายก็ได้”
“พลตรีวินธัย สุวารี” โฆษกกองทัพบก ออกมายืนยันว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง
โดยกัมพูชาใช้ประชาชนชาวกัมพูชามารื้อลวดหนามแทนการใช้กำลังทหาร ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ผิดปกติ
พลตรีวินธัยบอกว่า ลวดหนามที่ถูกรื้อ เป็นแนวชั่วคราวที่กองทัพบกไทยติดตั้งไว้ เพื่อรักษาความมั่นคงพื้นที่ชายแดน ซึ่งอยู่ในเขตอธิปไตยของประเทศไทย
และเมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น…..
ทางกองทัพบกไม่สามารถปล่อยให้ฝ่ายกัมพูชาดำเนินการรื้อลวดหนามได้
โดยขณะนี้กองทัพได้ดำเนินการวางลวดหนามกลับคืนในแนวเดิมแล้ว เพื่อยืนยันอธิปไตยของไทยในพื้นที่ดังกล่าว
พร้อมทั้งเร่งดำเนินมาตรการที่จำเป็นต่อไป เพื่อรักษาความมั่นคงและป้องกันเหตุการณ์ซ้ำ
ทั้งนี้ กองทัพบกจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหานี้อย่างรอบคอบ
โดยยึดหลักการรักษาอธิปไตยและความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศเป็นสำคัญ
ไอ้เขมรหน้าขนพวกนี้ มันรู้จัก “พลโทอมฤต บุญสุยา” แม่ทัพภาคที่ ๑ น้อยไป เพราะท่านเห็นเป็นชาวบ้านหรอก จึงผ่อนหนัก-ผ่อนเบาให้บ้าง
แต่ไม่สำนึก กลับเหิมเกริม ไม่รู้จักดี-จักชั่ว ไทยให้แผ่นดินอาศัยอยู่ กลับทึกทักเป็นแผ่นดินเขมร แล้วก่อกำเริบเสิบสาน
นี่….กองทัพเขาส่งสัญญาณเตือนพวกสวะรกแผ่นดินแล้วนะ ถ้ายังขืนทำกร่าง รื้อลวดหนาม ไล่ตีทหาร อีกละก็
เดี๋ยวก็เป็น “หมาจุกตีน” จนได้!
ส่วนพื้นที่กองทัพภาคที่ ๒ ที่ตอนนี้ ด้านเขมรเคลื่อนไหวคึกคัก ส่งกำลังเข้ามาเสริม รวมทั้งส่งหน่วย BHQ องครักษ์ฮุน เซน สมทบ
คงกะจะตีเอาปราสาทตาเมือนธม ภูมะเขือคืนประมาณนั้น แต่พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ ๒ ท่านบอกเมื่อวาน ว่า
"กรณีกองกำลัง BHQ แอบซุ่มดูการลาดตระเวนของทหารไทยนั้น เป็นการสันนิษฐาน ซึ่งทหารไทยก็ทำการตอบโต้
หากรุกล้ำอธิปไตยของไทยเรา…ก็ยิง!
เขามาในลักษณะเคลื่อนที่เร็ว ผมได้ให้แนวทางกับกำลังพลไปแล้ว หากพบเจอให้ตอบโต้ทันที รวมถึงการลอบวางทุ่นระเบิดด้วย"
จะเห็นว่า ตอนนี้กองทัพและรัฐบาลเอาจริง เดินหน้าเข้มทั้งในสนามรบและในเวทีโลก หลังจากไทยทำตัวเป็นม้าอารีกับเขมรมานาน ๓๐-๔๐ ปี จนเขมรได้ใจ
จากให้ที่ซุกหัว ตอนนี้ พวกมันซุกเข้ามาทั้งตัว-ทั้งโคตร มัน ไม่ซุกเข้ามาเฉยๆ กลับเนรคุณ ทึกทักเอาแผ่นดินไทยว่าเป็นของเขมร แล้วพวกมันกลับเป็นฝ่ายไล่คนไทยเจ้าของที่ดิน
สันดานเขมรล้วนๆ!
เชื่อใจอะไรไม่ได้ซักอย่าง ตกลงกันไว้ เขมรก็ละเมิดทุกอย่าง ไม่แค่ละเมิด ยังแอบเขียนเรื่องที่ไม่ได้ตกลงกันซุกเข้าไปในสัญญาลับหลัง มันก็ยังทำ
อย่างเรื่อง ตกลงร่วมมือกันเก็บกู้ทุ่นระเบิด มันก็ไปเขียนแทรกว่า “แลกกับที่ไทยจะรื้อลวดหนามออกให้”!!!
ดูมันทำ เลวบริสุทธิ์กว่านี้ หาไม่มีอีกแล้ว
ดูด้านการทัพแล้ว กลับมาดูด้านการเมืองบ้าง สัปดาห์นี้ เป็น “สัปดาห์แห่งการรอ”
คือรอคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ คดีคลิปสนทนา "นายกฯ แพทองธาร-ฮุนเซน" วันที่ ๒๙ สิงหา.
กับรอวันที่ ๙ กันยา. คดีป่วยทิพย์ ชั้น ๑๔ ทักษิณ ว่าศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองจะมีคำสั่งออกมาอย่างไร?
๒ เรื่องนี้ ทำให้โลก “หยุดหมุน” เพราะผลจาก ๒ คดี เป็นทางแยกแห่งการเสี่ยงทายว่าประเทศไทยจะ “ลอกคราบสู่อนาคตใหม่”
หรือจะต้องล่มสลายอยู่ในคราบเดิม?!
แต่ละวัน สังคมชนก็ “พูดวน-ถามวน” อยู่กับ ๒ เรื่องนี้ แพทองธารจะหลุดจากตำแหน่งนายกฯ มั้ย?
ถ้าหลุด ใครจะมาเป็นนายกฯ และพรรคไหนจะเป็นแกนนำ?
คำตอบประเด็นแรก ร้อยละ ๙๐ ฟันธงว่า “หลุด” จากนายกฯ
ส่วนประเด็นที่สอง ใครจะมาเป็นนายกฯ หาข้อสรุปที่ลงตัวยังไม่ได้
แต่ในความเห็นผม ทั้งนายกฯ ทั้งรัฐบาล ไม่มีใครยอมใคร จนเป็นเงื่อนไขไปสู่คำว่า “การเมืองใหม่” ในระบบรัฐสภา?!
สำหรับคดีป่วยทิพย์ ในประเด็นที่ศาลฎีกาฯ ไต่สวนว่า “การบังคับโทษจำคุกแก่นายทักษิณ ชินวัตร เป็นไปตามหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดของศาลหรือไม่” นั้น
สังคมเป็นธรรม ร้อยละ ๙๐ เช่นกัน ฟันธงว่า “ทักษิณจะคืนคุก”!
ต่างจากคดี มาตรา ๑๑๒ ของทักษิณ ที่ศาลอาญายกฟ้องไปเมื่อวันก่อน คดีนั้น สังคมธรรม ไม่มีใครมีความเห็นแย้ง
เรื่องหลักก็อยู่ที่เรื่องแพทองธารจะพ้นตำแหน่งนายกฯ หรือไม่พ้น ในวันศุกรที่ ๙ สิงหา.
เพราะประเทศจะถึงจุดเปลี่ยนหรือไม่ ก็อยู่ที่คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญนี้แหละ
พูดถึงศาลรัฐธรรมนูญ วันไต่สวน ตอนนายกฯ แพทองธารสาบานตนต่อศาลจบ มีเสียงตุลาการท่านหนึ่งบอกให้นั่งลง นั้น
ปรากฏว่ามีคลิปเผยแพร่ออกมา ๒ เวอร์ชั่น คือ
เวอร์ชั่น “นั่งลงครับ”
กับเวอร์ชั่น “นั่งลงลูก”
ก็เกิดเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ทางสังคมกว้างขวาง จนถึงวันอาทิตย์ “นายจิรายุ ห่วงทรัพย์” โฆษกรัฐบาลออกมาแถลงว่า
“ในวันสืบพยานของนายกรัฐมนตรี หลังจากนายกรัฐมนตรีกล่าวคำสาบานตนแล้ว
ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่งได้กล่าวคำว่า “นั่งลงครับ” แต่กลับมีกระบวนการนำไปบิดเบือนและตกแต่งเสียง
โดยกล่าวหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพูดว่า “นั่งลงลูก” ซึ่งเป็นการบิดเบือน”
ผมก็ตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าบิดเบือนตกแต่งเสียงจริง เป็นเรื่องใหญ่นะ ต้องแจ้งความไปเอาตัวคนที่บิดเบือนตกแต่งเสียงมาดำเนินคดีให้ได้
เพราะเสียหายต่อศาลรัฐธรรมนูญมาก แต่ไม่เห็นสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงอะไร แล้วจะให้คนเชื่อว่า คลิปไหนจริง-คลิปไหนปลอมได้อย่างไร?
เมื่อวาน (๒๕ ส.ค.) ศาลรัฐธรรมนูญออกเอกสารชี้แจง ดังนี้
“ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 ส.ค.2568
ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ
เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า
ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธารฯ นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่
โดยเมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน
อันเป็นคำสั่งศาลตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 38 วรรคหนึ่งนั้น
ปรากฏว่าภายหลังวันดังกล่าว มีการเผยแพร่คลิปและข่าวในสื่อสารมวลชนหลายช่องทาง อันเป็นเท็จบิดเบือนข้อเท็จจริงในกระบวนการไต่สวนของศาลลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน
ก่อให้เกิดความเสียหายต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดยกล่าวอ้างว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่งพูดกับผู้ถูกร้องว่า “นั่งลงลูก” ซึ่งความจริงท่านพูดว่า “นั่งลงครับ”
การเผยแพร่และบิดเบือนดังกล่าว เข้าข่ายเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
และเข้าข่ายละเมิดอำนาจศาลตามมาตรา 38 และมาตรา 39 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2562
และข้อ 10 และข้อ 11 ของข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2562
สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญจะดำเนินการทางกฎหมายแก่บุคคลที่กระทำการบิดเบือนและเผยแพร่คลิปดังกล่าวต่อไป”
ครับ…..
ผมจะรอดูหน้าคนทำคลิปบิดเบือนว่าเป็นใคร ประสงค์อะไรต่อศาลรัฐธรรมนูญ?
นายกฯ น่ะ ไม่เสียหายหรอก ศาลรัฐธรรมนูญนั่นตะหาก ที่ถูกกัดกร่อนบ่อนเซาะเต็มๆ
ยุคนี้เป็นยุค AI อะไรที่มนุษย์ทำไม่ได้ AI มันทำได้ทั้งหมด โลกข่าวสารทุกวันนี้ นับวันจะ “แยกจริง-แยกเท็จ” ได้ยากซะจริงๆ
มนุษย์สร้าง AI
แต่ AI ที่มนุษย์สร้าง มันกำลังควบคุมและทำลายทุกมนุษย์ในโลกนี้ รวมทั้งคนที่สร้างมันขึ้นมาด้วย
สังคมโลกนับวันจะน่ากลัวและอยู่ยากขึ้นเรื่อยๆ
สำหรับสุจริตชน!.
-เปลว สีเงิน
๒๖ สิงหาคม ๒๕๖๘
คนปลายซอย