ย้ำไม่มีใครตกหล่น รัฐบาลเร่งเยียวยาเหตุปะทะไทย-กัมพูชา
เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงมาตรการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยยืนยันว่า รัฐบาลมีความพร้อมในการดำเนินการตาม มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2568 เพื่อเยียวยาผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจากเหตุความไม่สงบในพื้นที่
สำหรับแนวทางการเยียวยา รัฐบาลกำหนดให้ผู้เสียชีวิตที่เป็นประชาชนทั่วไป ได้รับเงินเยียวยารายละ 8 ล้านบาท ขณะที่ผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นข้าราชการทหารหรือตำรวจจะได้รับเยียวยารายละ 10 ล้านบาท ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ ทุพพลภาพ หรือได้รับผลกระทบอื่น ๆ จะได้รับการช่วยเหลือตามลำดับ โดยไม่มีการตกหล่น จากมาตรการที่กำหนดไว้
นอกจากนี้ หน่วยงานต้นสังกัด เช่น กระทรวงกลาโหม จะเข้ามาดูแลครอบครัวของข้าราชการที่เสียชีวิต ให้ได้รับสิทธิ์และสวัสดิการต่าง ๆ รวมถึงการพิจารณาบรรจุบุคคลในครอบครัวเข้ารับราชการเป็นกรณีพิเศษ เพื่อเป็นการตอบแทนความเสียสละในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ
ในส่วนของความเสียหายต่อทรัพย์สินและบ้านเรือนของประชาชน การลงพื้นที่ล่าสุดของ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ เพื่อรับฟังข้อมูลและข้อเสนอแนะจากประชาชน รวมถึงเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ เพื่อจัดทำ แผนการเยียวยาระยะที่สอง ที่จะครอบคลุมความเสียหายทางด้านการเกษตร ปศุสัตว์ และที่อยู่อาศัย โดยจะนำข้อเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในลำดับถัดไป
ขณะเดียวกัน รัฐบาลยังได้มอบหมายรัฐมนตรีจำนวน 7 คน ลงพื้นที่ 12 จุดพักพิงชั่วคราว ใน 4 จังหวัดชายแดน ได้แก่ สุรินทร์ ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี เพื่อเร่งรัดการให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างทั่วถึง โดยมีรายชื่อรัฐมนตรีที่ลงพื้นที่ในแต่ละจังหวัด
นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์
นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ
นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์
นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงกรณี ร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ในปั๊มน้ำมัน ปตท. บ้านผือ อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุปะทะบริเวณชายแดน ว่า ทาง สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้แจ้งว่า บริษัทประกันภัยไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้ เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวเข้าข่ายการปะทะชายแดน ไม่ใช่เหตุการณ์ก่อการร้าย จึงต้องคุ้มครองตามเงื่อนไขกรมธรรม์ที่ทำไว้
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนที่มีประกันภัย ตรวจสอบสิทธิ์ของตนอย่างเร่งด่วน เพื่อไม่ให้พลาดการเยียวยาที่พึงได้รับตามกฎหมาย