เศรษฐินีมีเงินใช้เกือบสิบล้าน แต่ตอนนี้เหลือแค่ที่ซุกหัวนอน
นาง N หญิงชาวญี่ปุ่นวัย 77 ปี เคยใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในคฤหาสน์หรู เขตเมงุโระ กรุงโตเกียว หลังสามีผู้ล่วงลับซึ่งเป็นอดีตผู้บริหารอาวุโสของโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ทิ้งมรดกมูลค่าราว 130 ล้านเยน (ประมาณ 28 ล้านบาท) พร้อมบำนาญเดือนละ 170,000 เยน (ราว 37,000 บาท)
เมื่อ 6 ปีก่อน หลังสามีเสียชีวิต นาง N ควรได้รับมรดกทั้งหมด แต่เนื่องจากมีข้อขัดแย้งกับคู่สมรสของลูก ๆ เธอจึงได้เพียงบ้านหรูและเงินสดราว 40 ล้านเยน (ประมาณ 8.7 ล้านบาท) แม้จำนวนเงินจะมาก แต่พฤติกรรมการใช้จ่ายติดหรูที่สืบเนื่องมาหลายปี ทำให้เงินร่อยหรอลงอย่างรวดเร็ว
เธอจัดงานเลี้ยงหรูให้หลาน ๆ ซื้อเสื้อผ้าแบรนด์เนม และแม้ไม่มีใบขับขี่ก็ซื้อรถหรูนำเข้า นอกจากนี้ยังต้องจ่ายค่าดูแลบ้านปีละมาก ๆ ทั้งภาษี ประกันอัคคีภัย ค่าทำสวน และค่าปรับปรุงซ่อมแซมบ้าน
สถานการณ์ย่ำแย่ลงเมื่อเธอลงทุนตามคำแนะนำของคนรู้จัก สูญเงินไปอีก 10 ล้านเยน (ราว 2.1 ล้านบาท) และแทบไม่มีโอกาสได้เงินคืน
ปัจจุบันนาง N เหลือเงินติดตัวเพียงไม่กี่ล้านเยน (ไม่ถึง 1 ล้านบาท) ทำให้การใช้ชีวิตไม่ง่าย แม้ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินแนะนำให้ขายบ้านหรือขอสินเชื่อสำหรับผู้สูงอายุ แต่เธอยืนยันจะเก็บบ้านไว้เป็นมรดกให้ลูกชายคนโต
ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการญี่ปุ่น ปี 2565 ระบุว่า สตรีอายุ 65 ปีขึ้นไปที่อาศัยคนเดียว มีอัตราความยากจนสัมพัทธ์สูงถึง 44% กรณีของนาง N จึงเป็นตัวอย่างของปัญหาความยากจนที่ซ่อนอยู่ในกลุ่มผู้เคยมีฐานะสูง แต่ใช้จ่ายเกินตัว
ผู้เชี่ยวชาญแนะครอบครัวที่มีรายได้สูง ควรตรวจสอบสุขภาพการเงิน วางแผนจัดการเงินสดและอสังหาริมทรัพย์ก่อนเกษียณ รวมถึงสื่อสารเรื่องการเงินในครอบครัว เพื่อป้องกันปัญหาการเงินในบั้นปลายชีวิต
ข้อมูลจาก CTWANT