เห็นแล้วอึ้ง! เยียวยาบ้านเสียหายเหตุปะทะไทย-กัมพูชา บางรายได้ 73 บาท
จากเหตุการณ์ที่กัมพูชา มีการโจมตีเข้ามาในฝั่งไทย และสร้างความเสียหายให้กับพื้นที่ของพลเรือน ล่าสุด มีชาวบ้านในพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้รับเงินเยียวยาแค่ 73 บาท ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า น้อยเกินไปหรือไม่
โดยผู้ใช้โซเชียลมีเดียรายหนึ่ง โพสตภาพแบบสำรวจความเสียหายของบ้านประชาชนจากเหตุปะทะระหว่างไทย และ กัมพูชา ในพื้นที่ตำบลโนนสำราญ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ของ อบต.โนนสำราญ
โดยในแบบสำรวจดังกล่าว มีการระบุ ระดับความเสียหาย ไว้ 3 ระดับ ดังนี้ เสียหายน้อย คือ น้อยกว่า 30 เปอร์เซ็นต์, เสียหายมาก คือ 30 - 70 เปอร์เซ็นต์ และเสียหายทั้งหลัง คือ มากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ ยังมีการระบุราคาประเมินของแต่ละรายเอาไว้ด้วย
ซึ่งในเอกสารดังกล่าว มีการสำรวจความเสียหายบ้านเรือนประชาชนจำนวน 25 ราย ทั้งหมดอยู่ในระดับ เสียหายน้อย ส่วนราคาประเมินค่าเสียหาย มากที่สุด 2,290 บาท และน้อยที่สุด 73 บาท จึงทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า ค่าเสียหายดังกล่าวจะเพียงพอต่อการซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหายหรือไม่
ทั้งนี้ล่าสุดผู้สื่อข่าว ลงพื้นที่ไปบ้านหลังดังกล่าวพบว่า หลังคาสังกะสีได้รับความเสียหายจนเป็นรู โดยนายเรือง สวัสดี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ตำบลโนนสำราญ เปิดเผยว่า การประเมินความเสียหายลักษณะนี้ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะวัสดุอย่างสังกะสี หากเกิดรูเสียหายก็ควรเปลี่ยนทั้งแผ่น แต่การประเมินแบบนี้ทำให้การช่วยเหลือดูไม่เหมาะสมและไม่เพียงพอ
ขณะที่ นางจำเนียร ตาลพันธ์ อายุ 50 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ที่ต้องอพยพไปอยู่ศูนย์พักพิงเป็นเวลานาน เล่าว่า มีอาชีพกรีดยางพารา แต่ไม่สามารถทำงานได้สะดวกเหมือนเดิม เพราะสถานการณ์ยังไม่ปลอดภัย ต้องใช้ชีวิตอย่างลำบาก และหวังให้รัฐบาลเร่งดำเนินการเยียวยาครอบครัวที่ได้รับผลกระทบโดยเร็ว
ด้านนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ติดตามการเยียวยาทุกวัน โดยยืนยันว่าการช่วยเหลือเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ผู้ที่เสียหายเล็กน้อยจะได้รับเงินชดเชย แต่หากบ้านเรือนไม่สามารถซ่อมเองได้ จะมีทีมช่างจากหลายหน่วยงานเข้าไปช่วยเหลือ พร้อมกำชับให้ท้องถิ่นเร่งช่วยเหลือครัวเรือนที่เดือดร้อนรุนแรงก่อน เช่น บ้านพังจนไม่สามารถอยู่อาศัยได้
ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงค่าเยียวยาประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ถูกมองว่าไม่สมเหตุสมผล ว่า เป็นเพียงจุดเล็กๆ ซึ่งจะมีการพิจารณาแก้ปัญหาต่อไป เพราะจริงๆเรื่องนี้มีกฎระเบียบอยู่แล้ว เราจึงพยายามฝ่ากฎระเบียบด้วยการมีมติใหม่ๆออกมา เมื่อคืนที่ผ่านมา ( 21 ส.ค. ) ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ประชุมร่วมกับสำนักงบประมาณ คณะกรรมการกฤษฎีกา กรมบัญชีกลาง และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากส่วนใหญ่ต้องเริ่มต้นที่กฎระเบียบก่อน
ฉะนั้นขออย่าไปดูเรื่องการชดเชยค่าสังกะสี 73 บาท เพราะขณะนี้เรากำลังเพิ่มขั้นตอนต่างๆ พร้อมยืนยันว่า การจ่ายชดเชยในครั้งนี้เป็นการจ่ายโดยใช้ระเบียบข้อบังคับเดิม แต่หากอะไรที่ดูแล้วสามารถเพิ่มให้ได้และชัดเจนว่าเกิดจากเหตุนอกประเทศที่ปะทะกันรุนแรง จนเป็นเหตุให้ได้รับผลกระทบทั้งเสียชีวิตและทรัพย์สินก็จะดูแลให้ เพราะการแก้ตรงนี้พิเศษกว่าที่อื่น
นายภูมิธรรม ยังเชื่อว่าที่ทำมา ดีกว่าทุกรัฐบาลและทุกสมัย แต่มองว่าเรื่องนี้ยังไม่เป็นเรื่องที่ใหญ่ แต่สำหรับเรื่องใหญ่ๆเดี๋ยวจะดูแลให้ เพราะยังมีอีกหลายร้อย หลายพันเรื่องที่เราจะต้องจ่าย เพราะฉะนั้นอันนี้ต้องคำนึงและต้องดูแลตามกฎระเบียบ ซึ่งมองว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นจึงขออย่าไปคิดเรื่องนั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : เห็นแล้วอึ้ง! เยียวยาบ้านเสียหายเหตุปะทะไทย-กัมพูชา บางรายได้ 73 บาท
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.pptvhd36.com