รวบสาว ‘บัญชีม้า’ หมายจับอื้อ อ้างโดนดึงข้อมูลหลัง ‘สมัครกู้ออนไลน์’
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 21 ส.ค. 68 พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รอง ผบช.ทท. ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.แมน รถทอง ผกก.สืบสวน บช.ทท. พร้อมด้วย พ.ต.ท.เจษฎา ทองทา รอง ผกก.สืบสวน บช.ทท., พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ รักษา รอง ผกก.สืบสวน บช.ทท. และ พ.ต.ท.ณัฐภัทร สุขชื่น สว.กก.สืบสวน บช.ทท. พร้อมกำลัง ร่วมกับงานสืบสวน กก.1 บก.ทท.2 (ขอนแก่น) เข้าจับกุม น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 23 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดอุบลราชธานี ที่ 494/2568 ลงวันที่ 18 ส.ค. 2568 ในความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น, เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตนโดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญา
พ.ต.อ.แมน กล่าวว่า ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่าถูกบุคคลโทรศัพท์มาข่มขู่ให้เกิดความกลัว โดยพฤติการณ์เบื้องต้น คือ มีการติดต่อมาเเอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองน่าน หลังจากนั้นติดต่อทางไลน์ มีการวิดีโอคอล ปลายทางแจ้งว่ามีคดีเกี่ยวกับยาเสพติดให้โอนเงินเพื่อตรวจสอบบัญชี โดยมีเอกสารยืนยันทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปให้ รวมมูลค่าความเสียหาย จำนวน 504,925 บาท
พ.ต.อ.แมน กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังมีผู้เสียหายได้ถูกหลอกลวง โดยมีโทรศัพท์มาแจ้งว่าได้รางวัลพิเศษแอบอ้างจาก shopee และชักชวนทำงานหารายได้พิเศษ ให้แอด line ให้ทำกิจกรรมพิเศษ ให้โอนเงินเพื่อการกุศล ช่วงแรกได้รับเงินปันผลคืน ให้โอนเงินยอดเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ต่อมาผู้เสียหายต้องการถอนเงินออก แจ้งว่าทำกิจกรรมไม่ถูกต้องให้โอนเงินไปเรื่อยๆ ไม่สามารถถอนเงินได้ รวมถึง มีการให้กดลิงก์ เว็บไซต์ croroads hound apion โอนเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้จะได้เงินปันผล ให้ทำกิจกรรมต่อไปเรื่อยๆ ช่วงแรกได้เงิน พอเงินเยอะขึ้น ก็แจ้งว่าทำรายการผิดให้โอนเพิ่ม มูลค่าความเสียหายรวมโดยประมาณ 100,000 บาท จึงได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินคดีกับคนร้าย
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจนทราบว่า น.ส.เอ เป็นผู้ร่วมขบวนการของแก๊งมิจฉาชีพที่หลอกลวงผู้เสียหาย ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้า จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.สืบสวน บช.ทท. ร่วมกับงานสืบสวน กก.1 บก.ทท.2 ได้ลงพื้นที่สืบสวนทราบว่า น.ส.เอ ผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าว ได้หลบหนีมากบดานอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง ใน อ.เมืองนครราชสีมา
พ.ต.อ.แมน กล่าวอีกว่า กำลังเจ้าหน้าที่จึงได้เดินทางมาตรวจสอบ พบ น.ส.เอ อยู่บริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว จึงได้ควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ม่วงสามสิบ จว.อุบลราชธานี ดำเนินคดีต่อไป
จากการตรวจสอบยังพบว่า น.ส.เอ มีหมายจับของศาลจังหวัดเกาะสมุย ที่ 162/2567ลงวันที่ 19 ก.ย. 2567 ซึ่งกระทำความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น ได้กระทำการแสดงความเป็นเท็จต่อประชาชน หรือด้วยการปกปิดความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่ความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา, เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตนโดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด อีกด้วย
สอบสวนเบื้องต้นรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า ได้ทำการสมัครกู้เงินออนไลน์ โดยมีการถ่ายบัตรประชาชนด้านหน้าและด้านหลัง มีการสแกนใบหน้า เพื่อที่จะสมัครกู้เงินออนไลน์ แต่ต่อมาพบว่าได้มีการนำข้อมูลส่วนตัวของตนไปเปิดบัญชีม้า 5 บัญชี กระทั่งมีคนร้ายนำบัญชีของตนไปก่อเหตุหลอกลวงผู้เสียหายจนตนถูกจับกุมดังกล่าว.