บ่าวสาวเลือกใช้ ‘บัตรเครดิต’ เป็นตัวช่วยในการแต่งงาน แต่อาจกลายเป็นหนี้พอก ถ้าจ่ายไม่ตรงเวลา
คุณคิดว่าการแต่งงานสักครั้ง เราต้องใช้เงินประมาณเท่าไหร่?
สำหรับคู่รักที่วางแผนจะใช้เวลาด้วยกันไปจนถึงบั้นปลายของชีวิตนั้น การแต่งงานเปรียบเสมือนด่านแรกของการใช้ชีวิตคู่ แต่จากข้อมูลของสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เผยว่าในปี 2024 ที่ผ่านมา จำนวนการแต่งงานลดลงจาก 300,000 คู่ต่อปี เหลือเพียง 263,087 คู่เท่านั้น
สาเหตุที่คู่แต่งงานลดลง ไม่ใช่เพียงเพราะคนรุ่นใหม่กลัวความไม่แน่นอนในความรัก แต่ปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายกลายเป็นอุปสรรคใหญ่ที่ทำให้หลายคนยอมแพ้ที่จะจัดงานแต่ง หรือในบางกรณีอาจถึงขั้นต้องเลิกรากันเพราะตกลงกันไม่ลงตัว
ทำไม “บัตรเครดิต” กลายเป็นตัวเลือกของคู่รัก?
จากผลสำรวจเทรนด์แต่งงานปี 2025 ของ Zola ระบุว่า ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของการแต่งงานในปี 2025 มีแนวโน้มที่จะสูงถึง 36,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.1 ล้านบาท) ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2024 ที่มีค่าเฉลี่ยราว 33,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1 ล้านบาท) และเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากปี 2023 ที่อยู่ราว 29,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 9.4 แสนบาท)
แน่นอนว่าค่าใช้จ่ายในงานแต่งงานมาจากหลายส่วน เช่น
- สถานที่จัดงานแต่ง
- ช่างภาพ
- ค่าอาหารและเครื่องดื่ม
- ชุดแต่งงาน/แหวนแต่งงาน
- ของชำร่วย
นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับ จำนวนแขกในงาน เพราะยิ่งผู้ร่วมงานเยอะมากเท่าไหร่ ค่าใช้จ่ายยิ่งสูงมากเท่านั้น เช่น หากในงานมีแขก 50 - 75 คน ต้องใช้เงินเฉลี่ยราว 21,500 ดอลลาร์ (6.9 แสนบาท) และหากมีแขก 150 - 200 คน อาจต้องมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยมากถึง 45,000 ดอลลาร์ (1.4 ล้านบาท)
ที่สำคัญค่าใช้จ่ายงานแต่งงานยังขึ้นอยู่กับ สถานที่ในการจัดงานแต่ง เพราะหากเปรียบเทียบโรงแรมใหญ่ในเมือง หรือ เมืองรอง ค่าใช้จ่ายอาจต่างกันหลายเท่าตัว
เมื่อคู่รักต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายที่สูงมากขนาดนี้ เรียกว่าต้องแบกภาระอย่างหนัก จึงต้องเตรียมตัวอย่างมาก จากผลสำรวจ (LendingTree) พบว่า 46% ของคู่บ่าวสาวเลือกใช้เงินออมเพื่อชำระค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ และบางคู่อาจเลือกใช้เครื่องมือทางการเงินมาช่วยแก้ปัญหานี้ โดยกว่า 24% เลือกที่จะจ่ายด้วยบัตรเครดิต
แม้ว่าการใช้บัตรเครดิตจะช่วยแบ่งเบาภาระจากเงินก้อนใหญ่ที่ต้องจ่ายในครั้งเดียว ให้ทยอยจ่ายเป็นก้อนเล็ก ๆ ทว่าหากไม่ระมัดระวัง ไม่จ่ายหนี้ตรงเวลา จากหนี้บัตรเครดิตก็อาจเปลี่ยนจากผู้ช่วยให้กลายเป็นหายนะทางการเงินได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับว่าเราจะบริหารให้หนี้ก้อนนี้ออกมาในรูปแบบไหน
ข้อดี VS ข้อเสีย ของบัตรเครดิต รู้ไว้ก่อนเป็นหนี้
มาเริ่มกันที่ ข้อดีของบัตรเครดิต คือ บัตรบางใบอาจมีสิทธิ์ประโยชน์พิเศษ อย่าง “คะแนนสะสม” ที่สามารถเอาไปแลกส่วนลด เครดิตเงินคืน บัตรกำนัล หรือแม้แต่แลกรางวัลเป็นทริปฮันนี่มูน นอกจากนี้หลายบัตรอาจมีโปรโมชั่นพิเศษร่วมกับโรงแรม หรือ ผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายงานแต่งลงได้
ดังนั้น หากเราใช้บัตรเครดิตอย่างถูกทาง และจ่ายตรงตามกำหนด บัตรเหล่านี้ช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากมาย โดยไม่ต้องเสียดอกเบี้ย
ในขณะเดียวกัน ข้อเสียของบัตรเครดิต คือ หากเราละเลยหนี้ที่มีอยู่ในบัตรและไม่ชำระยอดที่ค้างอยู่ จากดอกเบี้ยที่เราคิดว่าเล็กน้อยอาจกลายเป็นหนี้ก้อนใหญ่และมีค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด อย่างค่าธรรมเนียมการติดตามทวงถามหนี้ หรือในกรณีร้ายแรงอาจส่งผลต่อเครดิตของเราเอง
อย่างไรก็ตาม การจัดงานแต่งสักครั้งในชีวิตอาจพ่วงมาด้วยค่าใช้จ่ายหลักแสนหรือหลักล้าน ซึ่งหากเตรียมแผนการเงินไม่รอบคอบอาจส่งผลกระทบต่อการเงินกระเป๋า และอาจส่งผลต่อความรู้สึกของคู่รักด้วย ดังนั้นการใช้บัตรเครดิตจึงกลายเป็นอีกตัวช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการจัดงานแต่งของใครหลาย ๆ คน
แต่เราต้องไม่ลืมที่จะรับผิดชอบต่อหนี้ที่เกิดจากการใช้บัตรเครดิตด้วย เพราะท้ายที่สุดแล้ว “งานแต่งงานที่สวยงามไม่ควรมาแลกมากับความเครียดทางการเงินจากการจัดงานแต่ง” Gloria Garcia Cisneros นักวางแผนทางการเงินกล่าว
หมายเหตุ: อัตราแลกเปลี่ยนที่ 32.48 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ “การเงินดีชีวิตดี” ได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : บ่าวสาวเลือกใช้ ‘บัตรเครดิต’ เป็นตัวช่วยในการแต่งงาน แต่อาจกลายเป็นหนี้พอก ถ้าจ่ายไม่ตรงเวลา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- บ่าวสาวเลือกใช้ ‘บัตรเครดิต’ เป็นตัวช่วยในการแต่งงาน แต่อาจกลายเป็นหนี้พอก ถ้าจ่ายไม่ตรงเวลา
- โสดทำงานเก่ง ต้องวางแผนการเงินยังไง? ผู้หญิงยุคใหม่ แบบ “Golden Girls” ฉบับวัยกลางคน
- เปิดวิธีวางแผนค่าใช้จ่าย - หารายได้เพิ่มจากอาชีพเสริม ฉบับครูในสหรัฐฯ ที่มีรายได้ 2 ล้านบาท/ปี
- วางแผนการเงินยังไงก็พัง! ถ้าไม่รู้จัก “สินทรัพย์-หนี้สิน-กระแสเงินสด” 3 คำ เปลี่ยนชีวิตการเงิน
- บทเรียนการเงินจาก “ชินจัง” สะท้อนชีวิตครอบครัวชนชั้นกลาง ต้องผ่อนบ้าน 32 ปี วางแผนไม่ดี อาจไม่รอด
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath