“ปธน.ฟิลิปปินส์” เตรียมพบ “ทรัมป์” ระหว่างเยือนสหรัฐ 20–22 ก.ค. หวังบรรลุดีลการค้าใหม่
"ปธน.ฟิลิปปินส์" เตรียมพบ "ทรัมป์" ระหว่างเยือนสหรัฐ 20-22 ก.ค. หวังบรรลุดีลการค้าใหม่ หลังสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าฟิลิปปินส์จาก 17% เป็น 20% พร้อมหารือประเด็นทะเลจีนใต้
วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เวลา 13.22 น. สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์ กล่าวว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์ตั้งเป้าหมายที่จะบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐระหว่างการเยือนกรุงวอชิงตันของประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ซึ่งจะหารือกับโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ เรื่องการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าฟิลิปปินส์ที่สหรัฐเตรียมปรับขึ้น
นางราเคล โซลาโน ผู้ช่วยปลัดกระทรวงการต่างประเทศฝ่ายกิจการอเมริกา ระบุในการแถลงข่าวเมื่อวันศุกร์ว่า การเยือนของผู้นำฟิลิปปินส์ระหว่างวันที่ 20–22 กรกฎาคม 2568 จะเป็นการเยือนอย่างเป็นทางการของผู้นำอาเซียนคนแรกในวาระที่สองของประธานาธิบดีทรัมป์ โดยนอกจากประเด็นการค้าแล้ว ฟิลิปปินส์ยังมีเป้าหมายในการกระชับความร่วมมือด้านความมั่นคงกับสหรัฐ
ทั้งนี้รัฐบาลทรัมป์ประกาศปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากฟิลิปปินส์เป็น 20% จากเดิม 17% เริ่มต้นเดือนสิงหาคม สร้างความกังวลให้กับพันธมิตรเก่าอย่างมะนิลา
ก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของฟิลิปปินส์ นางคริสตินา โร้ก ได้เดินทางไปยังสหรัฐ เพื่อหารือเรื่องภาษีกับเจ้าหน้าที่อเมริกัน โดยมีแผนเสนอเพิ่มการนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐเช่น ถั่วเหลืองและเนื้อแช่แข็ง แลกกับการเพิ่มการส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ มะพร้าว และมะม่วงไปยังตลาดสหรัฐ
โซลาโนกล่าวเพิ่มเติมว่า “เราจะเน้นย้ำว่าสำหรับฟิลิปปินส์ที่จะเป็นพันธมิตรที่เข้มแข็งกับสหรัฐได้อย่างแท้จริง เศรษฐกิจของเราก็ต้องเข้มแข็งขึ้นเช่นกัน” พร้อมระบุว่าผู้นำทั้งสองจะหารือความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ กลาโหม และความมั่นคงในประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายสนใจร่วมกัน
ขณะเดียวกันประเด็นพิพาทในทะเลจีนใต้ระหว่างฟิลิปปินส์และจีน ก็จะถูกหยิบยกขึ้นมาหารือ รวมถึงความเป็นไปได้ในการส่งกำลังทหารเข้าประจำการในพื้นที่ด้วย
อ้างอิง : bloomberg.com