“Quick Win” โรดแมปบิ๊กกีฬา
เปิดโรดแมปการกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. ภายใต้การนำของ "ผู้ว่า ก้องศักด ยอดมณี" หลังจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา "นายสรวงศ์ เทียนทอง" ได้ประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงฯ เพื่อหารือแนวทางการดำเนินงานด้านการท่องเที่ยวและกีฬาในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568 โดยได้มอบหมายให้กกท.และทุกหน่วยงาน จัดทำแผนงานโครงการที่เป็น "ไฮไลต์" สำหรับช่วง 6 เดือนข้างหน้า ที่อาจเป็นลักษณะ "โครงการ Quick Win" ที่สามารถผลักดันได้ทันที
ทั้งนี้ สำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ได้คุยกับ "ผู้ว่า ก้องศักด" ถึงแผนการขับเคลื่อนโครงการดังกล่าว โดย "ผู้ว่า ก้องศักด" กล่าวว่า แผนงานที่จะเป็น "ไฮไลต์" สำคัญใน 6 เดือนข้างหน้า ผลักดันได้ทันที คือ การเตรียมความพร้อมของประเทศไทยในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ระหว่างวันที่ 9 - 20 ธันวาคม 2568 ณ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี และสงขลา
รวมทั้งการแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ระหว่างวันที่ 20 - 26 มกราคม 2569 ณ จังหวัดนครราชสีมา ให้ออกมาดีที่สุด ซึ่งทั้ง 2 บิ๊กอีเว้นท์นั้น จะเชื่อมโยงกับภาคการท่องเที่ยว ขณะเดียวกันในช่วง 6 เดือนนับจากนี้ จะมีการสร้างกระแสและสร้างบรรยากาศของการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ให้มีความคึกคัก เป็นที่รับทราบของประชาชนคนไทยให้มากที่สุด
ส่วนความพร้อมของสถานที่ ที่ใช้ในการจัดการแข่งขันกีฬานั้น "ผู้ว่า ก้องศักด" กล่าวว่า จะมีการเชิญสมาคมต่างๆเข้ามาพูดคุยถึงความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว พร้อมยืนยันว่า เป้าหมายซีเกมส์ของไทย คือการเป็นเจ้าเหรียญทอง
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีฯสรวงศ์ ได้เดินทางไปเปิดศูนย์ประสานงานการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 โดยศูนย์แห่งนี้ จะเป็นอีกหนึ่งในส่วนสำคัญในการเป็นศูนย์กลางในการดำเนินงาน และประสานงานในส่วนต่าง ๆ ทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวก และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้คล่องตัวยิ่งขึ้น
โดย รัฐมนตรีฯสรวงศ์ กล่าวว่า เรามีการดำเนินงานอย่างเข้มข้นจริงจังในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ที่ประเทศไทย ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ถือเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ ซึ่งทั้ง 2 รายการ มีความสำคัญอย่างยิ่ง จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทั่วประเทศได้สร้างความสัมพันธ์และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยสู่สายตาประชาคมอาเซียน
พร้อมกันนี้ ได้ขอความร่วมมือหน่วยงานภาครัฐและเอกชน สร้างการรับรู้ให้ประชาชนภายในจังหวัดร่วมชมและเชียร์กีฬาเพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทย สร้างมิตรภาพและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศ ถือเป็นซอฟท์เพาเวอร์อีกอย่างของประเทศไทย โดยรัฐบาลพร้อมสนับสนุนการจัดการแข่งขันในทุกมิติอย่างเต็มที่ให้สำเร็จตามเป้าหมาย และสร้างความประทับใจกับนักกีฬาและผู้เข้าร่วมการแข่งขันในทุกมิติ
และล่าสุด รัฐมนตรีฯสรวงศ์ ได้โพสต์ภาพบรรยากาศการให้กำลังใจนักกีฬา พร้อมกับข้อความว่า "วันนี้ได้มีโอกาสเป็นตัวแทนคนไทยทั้งประเทศมาให้กำลังใจและขอบคุณน้องๆนักกีฬาทีมชาติไทยในหลายๆชนิดกีฬา เริ่มจาก บอคเซีย ,เอ็กซ์ตรีม,ยูโด,เทควันโด ปีนผา,ยูยิตสู,คาราเต้,ยิงธนู,ยิงปืน,หมากรุก,ยิงเป้าบิน, มวยไทย,เนตบอล,บาสเกตบอล,วอลเลย์บอล,และเทคบอล โอกาสนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่อยากให้พี่น้องประชาชนคนไทยรู้จักกีฬาทุกชนิดและรู้จักนักกีฬาของไทยทุกคนครับ สู้ๆครับ"
ซึ่งหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวได้ปรากฏในโลกโซเชียล ก็มีประชาชนเข้ามากดไลฟ์ กดแชร์ พร้อมกับแสดงความคิดเห็น ส่งกำลังใจเชียร์นักกีฬาเป็นจำนวนมากอีกด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews