ธนาคารใหญ่สหรัฐ ผ่านฉลุย Stress Test เผยทุนแกร่ง รับมือเศรษฐกิจถดถอย พร้อมคืนกำไรผู้ถือหุ้น
ธนาคารใหญ่สหรัฐ ผ่านการทดสอบภาวะวิกฤตของเฟดทั้ง 22 แห่ง ชี้มีทุนสำรองเพียงพอ แม้เผชิญวิกฤตเศรษฐกิจ ช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่อระบบการเงิน พร้อมเปิดทางจ่ายปันผล-ซื้อหุ้นคืน
วันที่ 30 มิถุนายน 2568 เวลา 16.34 น. สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า หุ้นธนาคารยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดวันจันทร์ (30 มิ.ย.) หลังจากผ่านการทดสอบภาวะวิกฤต (Stress Test) ประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อย่างราบรื่น ปูทางให้ธนาคารเหล่านี้สามารถเดินหน้าโครงการซื้อหุ้นคืนและจ่ายเงินปันผลเป็นมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์
ธนาคารกลางสหรัฐเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า ธนาคารขนาดใหญ่ที่สุด 22 แห่งของสหรัฐ มีสถานะทางการเงินแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรับมือกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และสามารถปล่อยสินเชื่อต่อไปได้ แม้จะเผชิญกับการขาดทุนหลายแสนล้านดอลลาร์ตามแบบจำลองการทดสอบ
ผลทดสอบดังกล่าวสะท้อนภาพรวมที่ดีของระบบธนาคารสหรัฐ ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาครัฐและนักลงทุนว่า ธนาคารจะสามารถปล่อยสินเชื่อต่อเนื่องได้ แม้ในภาวะวิกฤต
การผ่าน Stress Test ยังถือเป็นสัญญาณไฟเขียวให้ธนาคารสามารถจ่ายเงินปันผลและซื้อหุ้นคืนคืนให้กับผู้ถือหุ้นได้
นักวิเคราะห์จาก RBC Capital Markets ระบุว่า “ธนาคารที่เข้าร่วมทั้งหมดผ่านการทดสอบ ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ และสอดคล้องกับมุมมองของเราว่า ธนาคารยังอยู่ในสถานะที่ดีในการคืนทุนให้ผู้ถือหุ้น หากพวกเขาต้องการ”
ราคาหุ้นของ Bank of America ปรับตัวขึ้น 1.1% ก่อนตลาดเปิด ขณะที่หุ้นของคู่แข่งอย่าง JPMorgan Chase, Citigroup และ Wells Fargo ปรับขึ้นระหว่าง 0.5% ถึง 2% ด้านธนาคารเพื่อการลงทุนอย่าง Morgan Stanley และ Goldman Sachs ปรับตัวขึ้น 0.4% และ 2.5% ตามลำดับ
ธนาคารทำผลงานได้ดีขึ้นในการทดสอบ Stress Test ปี 2025 เมื่อเทียบกับปี 2024 ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการทดสอบปีนี้มีเงื่อนไขที่เข้มงวดน้อยกว่า โดยแบบจำลองทดสอบจำลองสถานการณ์เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยรุนแรง ซึ่งรวมถึงราคานิคมอุตสาหกรรมลดลง 30% ราคาบ้านลดลง 33% และอัตราว่างงานพุ่งขึ้น 5.9 จุดเปอร์เซ็นต์ สู่ระดับ 10%
เฟดนำการทดสอบ Stress Test ภายใต้กฎหมาย Dodd-Frank มาใช้ตั้งแต่ปี 2011 เพื่อประเมินว่าธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐฯ สามารถรับมือกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่รุนแรงได้หรือไม่ หวังป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤตการเงินซ้ำรอยปี 2008
ที่ผ่านมาธนาคารต่าง ๆ แสดงความไม่เห็นด้วยกับแบบทดสอบดังกล่าวมาโดยตลอด โดยระบุว่าซับซ้อนเกินไป มีต้นทุนสูง และจำกัดความสามารถในการคืนทุนให้กับผู้ถือหุ้น แม้ธนาคารจะมีสถานะทางการเงินมั่นคงแล้วก็ตาม
ทั้งนี้ดัชนี S&P 500 Banks ซึ่งติดตามหุ้นธนาคารขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นแล้วราว 12% นับตั้งแต่ต้นปี จนถึงการปิดตลาดครั้งก่อน ซึ่งสูงกว่าการปรับตัวขึ้น 5% ของดัชนี S&P 500 โดยรวม
อ้างอิง : reuters.com