แค่กินสิ่งนี้ทุกวัน ลดเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้กว่า 22% สารนี้แหละตัวช่วยลับที่หลายคนมองข้าม
เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. มะเร็งลำไส้ใหญ่ยังคงครองตำแหน่งโรคร้ายแรงที่พบมากที่สุดในไต้หวันต่อเนื่องหลายปี ล่าสุดกรมสุขภาพแห่งชาติของไต้หวัน (National Health Agency) เผยสถิติปี 2024 พบว่ามีผู้ป่วยใหม่ทั่วประเทศกว่า 17,000 รายต่อปี
นพ.เฉิน เป่าจง แพทย์เฉพาะทางด้านระบบทางเดินอาหาร ระบุว่า นอกเหนือจากการตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอด้วยการตรวจอุจจาระหาภาวะเลือดแฝงและการส่องกล้องลำไส้ใหญ่แล้ว การปรับพฤติกรรมการบริโภคก็มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ โดยเฉพาะการรับประทานผักและผลไม้ที่มีใยอาหารสูง และสารสำคัญอย่าง “เควอร์เซทิน (Quercetin)” ซึ่งเป็นสารจากพืชธรรมชาติที่มีศักยภาพในการต้านเซลล์มะเร็ง
จากผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร The American Journal of Clinical Nutrition ปี 2023 พบว่า การบริโภคใยอาหารมากกว่า 25 กรัมต่อวัน สามารถลดความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ถึง 22% โดยใยอาหารในผักและผลไม้ จะช่วยกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ ลดเวลาที่อุจจาระสัมผัสกับเยื่อบุลำไส้ และลดการสัมผัสสารก่อมะเร็งโดยตรง
นอกจากนี้ เควอร์เซทิน ซึ่งเป็นสารฟลาโวนอยด์ธรรมชาติ พบได้ในผักและผลไม้หลากหลายชนิด เช่น หอมหัวใหญ่ แอปเปิล องุ่นแดง พริกหวาน บรอกโคลี และชาเขียว มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบอย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถยับยั้งการเพิ่มจำนวนของเซลล์มะเร็ง ปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ และกระตุ้นการทำลายตัวเองของเซลล์มะเร็ง (apoptosis)
ในปี 2022 วารสาร Frontiers in Pharmacology ยังเผยผลการทดลองในสัตว์ พบว่า เควอร์เซทินสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งลำไส้ได้อย่างชัดเจน
ด้านนักโภชนาการสองท่านคือ เจียง ซินฮว่า และ พาน อิงเจิน ได้แนะนำว่า เควอร์เซทินเป็นสารที่ละลายในไขมัน ซึ่งร่างกายดูดซึมได้ไม่ดีนัก จึงควรบริโภคร่วมกับผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น กีวี ส้ม และมะนาว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย โดยองค์การความปลอดภัยอาหารแห่งสหภาพยุโรป (EFSA) แนะนำว่าควรบริโภคเควอร์เซทินจากธรรมชาติวันละ 10-100 มิลลิกรัม หากเสริมด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไม่ควรเกิน 500-2,000 มิลลิกรัมต่อวัน และควรเริ่มจากขนาดต่ำก่อน
อย่างไรก็ตาม แพทย์ยังเตือนว่า แม้เควอร์เซทินจะมีคุณสมบัติช่วยลดความเสี่ยงมะเร็ง แต่เพียงสารอาหารเดียวย่อมไม่สามารถป้องกันได้ทั้งหมด ประชาชนยังจำเป็นต้องใส่ใจพฤติกรรมการใช้ชีวิตโดยรวม เช่น การออกกำลังกายสม่ำเสมอ การควบคุมน้ำหนัก หลีกเลี่ยงบุหรี่และแอลกอฮอล์ รวมถึงลดการบริโภคเนื้อแดง
ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนการตรวจคัดกรองเชิงรุก รัฐบาลไต้หวันยังคงดำเนินโครงการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ฟรี สำหรับประชาชนอายุ 45-74 ปี หวังให้สามารถ “ตรวจพบเร็ว รักษาได้ไว” เพื่อปกป้องสุขภาพลำไส้ในระยะยาว