รมว.กต.ชี้แจงการพบผู้แทนระดับนานาชาติ แจ้งประชาคมโลก กัมพูชาละเมิดอธิปไตยไทย
นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ประชุมหารือ สถานการณ์ไทย - กัมพูชา ที่กระทรวงการต่างประเทศ พร้อมระบุว่าเป็นการประชุมที่มีความจำเป็นเร่งด่วน โดยในขณะนี้ นายมาริษ อยู่ในระหว่างการประชุมเวทีหารือทางการเมืองระดับสูงว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน ประจำปี ค.ศ. 2025 (High-Level Political Forum on Sustainable Development: HLPF) ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก ซึ่งได้พบผู้แทนระดับสูงจากต่างประเทศ ซึ่งรวมถึง เลขาธิการสหประชาชาติ, รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศปากีสถาน ในฐานะประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (United Nations Security Council: UNSC) เดือนกรกฎาคม และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ประเทศปานามา ซึ่งจะเป็นประธาน UNSC ในเดือนสิงหาคม โดยทั้งปากีสถานและฝ่ายปานามาก็เห็นพ้องในการแก้ปัญหาของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคี และหากมีการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ก็จะต้องมีการแก้ไข และ พบกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น ซึ่งญี่ปุ่นจะเป็นประธานการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวาในเดือนธันวาคม 2568
โดยยืนยันให้ประชาคมโลกทราบถึงจุดยืนและความอดทนอดกลั้นของประเทศไทยต่อการดำเนินการต่าง ๆ ของกัมพูชาที่ไม่จริงใจ โดยไทยมีความมุ่งมั่นในการแก้ปัญหาอย่างสันติในกรอบทวิภาคี การเคารพต่ออธิปไตย และหลักการกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงการเปิดประตูเพื่อการเจรจาทวิภาคีด้วยความจริงใจมาโดยตลอด ซึ่งแตกต่างจากท่าทีของกัมพูชาที่ตั้งใจยั่วยุและแทรกแซงกิจการภายในของไทย
การกระทำของกองทัพกัมพูชาละเมิดอธิปไตยของไทย โดยเฉพาะการโจมตีอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ฝั่งไทย รวมถึงเป้าหมายพื้นที่ที่เป็นพลเรือน โดยเฉพาะโรงพยาบาลจนเป็นเหตุให้ประชาชนบาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งรัฐบาลไทยพร้อมพิจารณายกระดับมาตรการป้องกันตนเอง หากกัมพูชายังคงไม่ยุติการกระทำที่เป็นการโจมตีทางอาวุธและละเมิดอธิปไตยของไทยตามหลักสากลและกฎหมายระหว่างประเทศ
โดยได้ให้กระทรวงการต่างประเทศจัดเตรียมแผนการอพยพคนไทยออกจากกัมพูชา และจากการประชุมร่วมกับกระทรวงคมนาคม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสายการบินพาณิชย์ในวันนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาให้มีการเพิ่มจำนวนที่นั่งในเที่ยวบินระหว่างกรุงพนมเปญและกรุงเทพ เพื่อรองรับคนไทยที่ประสงค์จะเดินทางกลับบ้าน
และขอส่งความห่วงใยถึงพี่น้องชาวไทยทุกท่านที่พำนักอยู่ในกัมพูชา และขอความร่วมมือทุกท่านติดตามข่าวสารพัฒนาการที่เกี่ยวข้องจาก
(1) สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ โทรศัพท์ฉุกเฉิน: (+855) 77 888 114
(2) สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเสียมราฐ โทรศัพท์: (+855) 86 608 999 และ
(3) Call Center กรมการกงสุล โทรศัพท์: (+66) 2 572 8442 ซึ่งเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
…
#สถานการณ์ชายแดน
#กระทรวงการต่างประเทศ