เปิด 6 สถานที่ฮีลใจ ในยามทุกข์ขอไปสักครั้ง เผื่ออะไรจะดีขึ้น?
ต้องยอมรับว่า ภาวะเครียด ภาวะหมดไฟ หรือ Burnout ปัญหาเศรษฐกิจ ค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น หนี้ท่วมหัว บางคนมีความโดดเดี่ยวทางสังคม บางคนได้รับผลกระทบจากโซเชียลมีเดีย ปัญหาร้อยแปดพันเก้าเหล่านี้ทำให้คนไทยเครียดมากขึ้น กรมสุขภาพจิต ได้รายงานว่า ปี2567 ที่ผ่านมาคนไทยกว่า 30% มีความเครียดระดับมาก และบางส่วนเริ่มแสดงอาการของ ภาวะซึมเศร้า หรือ Burnout โดยการสำรวจยังพบว่า กลุ่มที่มีความเครียดสูงที่สุด ได้แก่ วัยทำงาน 25–45 ปี และ นักเรียนนักศึกษา
ทั้งนี้ยังพบอีกว่า ประชาชนไทย มากกว่า 1 ใน 4 มีความเสี่ยงด้านสุขภาพจิต โดยเฉพาะในพื้นที่เมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ขอนแก่น สอดคล้องกับ สวนดุสิตโพล ที่เผยผลสำรวจว่า คนไทย 61.8% รู้สึกเครียดเรื่องค่าครองชีพและหนี้สิน รองลงมาคือ ความเครียดจากงาน สุขภาพ และสภาพสังคม หากมาดูสาเหตุหลักๆของปัญหาเหล่านี้จะพบว่าคนไทยเครียดเพราะ…ค่าครองชีพสูง รายได้ไม่พอจ่าย ภาระหนี้สินส่วนบุคคลสูงขึ้น รวมถึงความไม่มั่นคงในหน้าที่การงาน และปัญหาความสัมพันธ์ในครอบครัวหรือที่ทำงาน นอกจากนี้ยังพบว่า คนไทยมีการใช้สื่อสังคมออนไลน์ และการเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่นจึงทำให้เกิดความเครียดสะสม
ความเครียดทั้งหมดที่กล่าวมาเบื้องต้นจึงทำให้คนไทยเริ่มหาสถานที่ฮีลใจ วิธีฮีลใจตัวเอง วันนี้ #SPRiNG จะพาไปรู้จัก 6 สถานที่ฮีลใจ ที่ต้องไปให้ได้สักครั้งหากมีเรื่องไม่สบายใจ หรือไม่ไหวจริงๆก็ไปฮีลใจเติมพลังกาย พลังใจ สักพักแล้วค่อยกลับมาสู้งาน สู้กับสังคมในยุคปัจจุบันใหม่ โดยที่ที่จะฮีลใจเราได้ดีมี ดังนี้
- ป่า-ธรรมชาติ
โดย ป่า-ธรรมชาติ ที่คนนิยมไปฮีลใจมาก อย่างเช่น ปางอุ๋ง จ.แม่ฮ่องสอน, ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่, เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา เนื่องจากเงียบสงบ อากาศดี ธรรมชาติช่วยฟื้นฟูจิตใจและลดความเครียด
- ทะเล
ปวดใจทีไรคิดอะไรไม่ออกบอก… ทะเล โดยส่วนใหญ่จะไปฮีลใจกันที่ เกาะกูด จ.ตราด, เขาหลัก จ.พังงา, เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล ทั้งหมดอาจเป็นเพราะ…เสียงคลื่นและแสงแดดช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ชาร์จพลังได้เต็มที่
- วัด-สถานปฏิบัติธรรม
ปัจจุบันคนหันมาหาที่พึ่งทางใจด้วยการไปวัด-สถานปฏิบัติธรรม มากขึ้น อย่างเช่นที่ วัดป่า จ.อุบลราชธานี, เสถียรธรรมสถาน กทม. , วัดสวนดอก จ.เชียงใหม่ ทั้งนี้เพื่อเสริมสมาธิ จิตใจสงบ เหมาะกับผู้ต้องการหลีกหนีความวุ่นวาย
- คาเฟ่-แกลเลอรีศิลปะ
บางทีคนเรามักอยากจะนั่งจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ชิล ชิล ไปตามคาเฟ่ หรือเสพงานแกลเลอรีศิลปะ เพื่อให้ตัวเองได้ผ่อนคลายจากความเครียด เช่น คาเฟ่ในเชียงใหม่ อารีย์ ย่านเจริญกรุง , งานศิลปะ ที่ BACC (หอศิลป์ กทม.) ช่วยฮีลใจได้เพราะบรรยากาศดี มีกลิ่นอายความคิดสร้างสรรค์ เหมาะกับสายอาร์ต
- โฮมสเตย์-ฟาร์มสเตย์
เชื่อกันว่าการที่คนเราได้อยู่กับธรรมชาติและวิถีชาวบ้าน ช่วยปรับจังหวะชีวิตให้ช้าลง คนส่วนใหญ่มักจะไปที่ แม่กำปอง, บ้านป่าบงเปียง , ฟาร์มในราชบุรี หรือ เชียงราย
- แหล่งช้อปปิ้งหรือห้างเงียบๆ
ความเครียดอาจทุเลาลงได้ด้วยช้อปเบาๆ เพื่อปลดปล่อยความเครียด ได้เติมเต็มความสุขเล็กๆ เช่น ห้างโซนนอกเมือง คาเฟ่สายมินิมอล,ร้านขายหนังสือ
เชื่อว่าทั้ง 6 สถานที่ฮีลใจ จะเป็นวิธีฮีลใจให้คนในยุคนี้ได้เป็นไอเดียในการจัดการตัวเองอย่างถูกวิธี และให้ความเครียด การหมดไฟในตัวเองลดลงได้ เพราะ…ชีวิตต้องเดินต่อไปตราบใดที่เรายังมีลมหายใจ!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง