โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

หนี้เสียQ1/68พุ่งแตะ1.19ล้านล้านบาทแม้หนี้ครัวเรือนลด'BNPL'เพิ่มเสี่ยง

Amarin TV

เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา
หนี้เสีย Q1/68 พุ่งแตะ 1.19 ล้านล้านบาท แม้หนี้ครัวเรือนลด 'ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง' เพิ่มเสี่ยง

วันที่ 25 สิงหาคม 2568 นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงรายงาน “ภาวะสังคมไทยไตรมาสที่ 2 ปี 2568” โดยเปิดเผยว่า หนี้ครัวเรือนไทยในไตรมาส 1 ปีนี้มีมูลค่ารวม 16.35 ล้านล้านบาท ลดลง 0.1% จากที่ขยายตัว 0.2% ในไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งนับเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบหลายไตรมาส ส่งผลให้สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีปรับลดลงต่อเนื่องมาอยู่ที่ 87.4% จาก 88.4% ในไตรมาส 4 ปี 2567

แม้ตัวเลขหนี้รวมจะปรับลดลงเล็กน้อย แต่ปัญหาความเปราะบางทางการเงินของครัวเรือนยังคงเด่นชัด โดยเฉพาะในด้านคุณภาพหนี้ ข้อมูลจากเครดิตบูโรชี้ว่า สัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ต่อสินเชื่อรวม แม้จะลดลงเล็กน้อยจาก 8.94% เหลือ 8.78% แต่เป็นผลจากการชะลอการปล่อยสินเชื่อ มิใช่เพราะลูกหนี้สามารถชำระหนี้ได้จริง อีกทั้งมูลค่าหนี้เสียกลับเพิ่มขึ้นแรง แตะระดับ 1.19 ล้านล้านบาท ขยายตัวถึง 8.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ในขณะเดียวกัน หนี้ที่ค้างชำระระยะสั้น 1-3 เดือน (SMLs) ก็ยังมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยคิดเป็น 4.25% ของสินเชื่อรวม จาก 4.17% ในไตรมาสก่อนหน้า กลุ่มสินเชื่อที่ถูกจับตาเป็นพิเศษ ได้แก่ สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และสินเชื่อบัตรเครดิต ซึ่งสะท้อนถึงแรงกดดันด้านภาระหนี้ของครัวเรือนที่ยังไม่คลี่คลาย และอาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเงินของครัวเรือนในระยะถัดไป

สินเชื่อยานยนต์หดตัวแรง 6 ไตรมาสติด บัตรเครดิต-ธุรกิจถดถอย ที่อยู่อาศัยโตชะลอ

วันที่ 25 สิงหาคม 2568 รายงาน “ภาวะสังคมไทยไตรมาสที่ 2 ปี 2568” ของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ระบุว่า การก่อหนี้ของครัวเรือนไทยยังอยู่ในภาวะเปราะบาง โดยหากพิจารณาตามแหล่งเจ้าหนี้ ธนาคารพาณิชย์ยังเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุด ครองสัดส่วนกว่า 37.6% ของหนี้ครัวเรือนทั้งหมด แต่สินเชื่อที่ปล่อยออกมากลับลดลงต่อเนื่อง 3% ติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 4 ขณะที่สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ (SFIs) ซึ่งเป็นเจ้าหนี้อันดับสอง ยังคงสามารถขยายสินเชื่อได้เล็กน้อยที่ 1.8%

ในด้านวัตถุประสงค์การก่อหนี้ ครัวเรือนส่วนใหญ่ยังคงชะลอการกู้เพิ่ม โดยสินเชื่อยานยนต์หดตัวแรงถึง 10% ติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 6 เนื่องจากยอดขายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ลดลง ขณะเดียวกันสถาบันการเงินก็เข้มงวดขึ้นจากปัญหาการผิดนัดชำระที่เพิ่มขึ้น สินเชื่อบัตรเครดิตปรับลดลง 2.8% และสินเชื่อเพื่อการประกอบธุรกิจก็หดตัว 0.4% ตอกย้ำแรงกดดันทั้งด้านกำลังซื้อและความสามารถในการลงทุนของครัวเรือนและธุรกิจรายย่อย

อย่างไรก็ตาม ยังมีสินเชื่อบางประเภทที่ขยายตัวต่อเนื่อง ได้แก่ สินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ แต่การเติบโตเริ่มชะลอ โดยเหลือเพียง 3.8% และ 0.5% จาก 4.3% และ 1.4% ในไตรมาสก่อนหน้า ส่วนสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยขยายตัวเพียง 1.9% จาก 2.2% ในไตรมาสก่อนหน้า สะท้อนว่าความต้องการซื้อบ้านอ่อนแรงลงตามภาวะเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ แนวโน้มในไตรมาสถัดไปอาจเริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวจากมาตรการภาครัฐ เช่น การลดค่าธรรมเนียมการโอนและการจดจำนองเหลือเพียง 0.01% รวมถึงการผ่อนคลายเกณฑ์ Loan-to-Value (LTV) ของธนาคารแห่งประเทศไทยที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2568 ซึ่งคาดว่าจะช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์และสร้างแรงซื้อกลับมาได้บางส่วน

เงินกู้นอกระบบออนไลน์-BNPL ช่องโหว่ใหม่เสี่ยงซ้ำเติมหนี้ครัวเรือน

นอกจากตัวเลขหนี้ในระบบแล้ว สศช. ยังเตือนถึงความเสี่ยงจากเงินกู้นอกระบบออนไลน์ที่กำลังขยายตัวรวดเร็ว สาเหตุหลักมาจากลูกหนี้จำนวนมากถูกปฏิเสธการกู้ในระบบ หรือมีหนี้เต็มวงเงินแล้ว จึงหันไปพึ่งพาเงินกู้นอกระบบที่เข้าถึงง่ายผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและแอปกู้เงินผิดกฎหมาย แม้จะได้รับเงินไว แต่ผู้กู้เสี่ยงถูกเอารัดเอาเปรียบด้วยอัตราดอกเบี้ยสูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และยังมีความเสี่ยงถูกทวงหนี้ด้วยวิธีที่ผิดกฎหมาย เช่น การข่มขู่ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล หรือการนำข้อมูลไปใช้ในทางมิชอบ

อีกประเด็นหนึ่งคือการขยายตัวของบริการ “ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง” (BNPL) ซึ่งได้รับความนิยมบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เช่น SPayLater ของ Shopee และ LazPayLater ของ Lazada แม้จะช่วยเพิ่มความสะดวกให้ผู้บริโภค แต่ระบบการปล่อยสินเชื่อไม่ได้อ้างอิงจากรายได้จริงหรือภาระหนี้ที่มีอยู่ หากแต่พิจารณาจากพฤติกรรมการซื้อสินค้า ส่งผลให้ลูกค้าบางรายได้รับวงเงินสูงถึงหลักแสนบาท ซึ่งเกินกว่าระดับรายได้ของตนเอง อีกทั้งยังสามารถนำวงเงินไปใช้ซื้อสินค้าและบริการนอกแพลตฟอร์มได้โดยไม่มีเงื่อนไขควบคุมที่ชัดเจน

ลักษณะดังกล่าวถูกมองว่าอาจขัดต่อหลักการปล่อยสินเชื่ออย่างรับผิดชอบ (Responsible Lending) และหากผู้กู้ขาดความรอบคอบในการวางแผนการเงิน อาจก่อหนี้เกินตัวโดยไม่รู้ตัว ซึ่งจะกลายเป็นปัจจัยซ้ำเติมปัญหาหนี้ครัวเรือนในระยะยาว

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Amarin TV

รวบ 100 แรงงานพม่าเถื่อนกลางป่า สารภาพกว่าจะเข้ามาได้ใช้เวลานาน 4 วัน

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เปิดใจลูกชายอลงกต ชื่อตรงกับหลวงพ่อ เผยบิลโทรศัพท์ชื่อพระส่งมาที่บ้าน

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

Spotify เตรียมขึ้นราคาทั่วโลกอีกครั้ง!

หุ้นวิชั่น

อินโดนีเซียส่งทีมสำรวจพื้นที่ย้ายถิ่นฐาน หวังพัฒนาตั้งแต่ระดับ ‘หมู่บ้าน’

เดลินิวส์

AOT เซ็นความร่วมมือ 3 สายการบิน ยกระดับการเคลื่อนย้ายอากาศยานที่ขัดข้อง รับเหตุฉุกเฉิน

Manager Online

ลาออกตอน 45 เสี่ยงหรือรอด สภาพัฒน์เตือนแรงงานคิดให้ดี ก่อนตัดสินใจครั้งใหญ่

มุมข่าว

สนข.สรุป”แลนด์บริดจ์”ลงทุน 9.97 แสนล้าน ดันประมูลปี69 เปิดปี 73 ผู้เชี่ยวชาญระดับโลกการันตีเกิดแน่

Manager Online

โตโยต้า ฟาร์มเอ็กซ์โป 2025 ผนึกกำลังพันธมิตรภาครัฐและภาคเอกชน ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ Smart Farmer ยกระดับเกษตรกรรมไทย สู่การเติบโตด้วยความแข็งแกร่งอย่างยั่งยืน

Manager Online

รถไฟฟ้า 20 บาท ส่อเลื่อน! ใช้ 1 ต.ค. 68 ไม่ทัน ต้องรอกฎหมาย 3 ฉบับ ผ่านสภาฯ

sanook.com

‘โซ ดู ไอ’ปั้นโมเดลท่องเที่ยวใส่ใจ จับกลุ่มครอบครัว-สูงวัย

เดลินิวส์

ข่าวและบทความยอดนิยม

หนี้ครัวเรือนไทย Q1 หดตัวครั้งแรกเหลือ 87.4%/GDP เหตุแบงก์ไม่ปล่อยกู้

Amarin TV

สหรัฐฯเผยปิดดีลการค้ากับไทย-กัมพูชาเรียบร้อย ไทยรอผลลุ้นภาษีใหม่18-20%

Amarin TV

เปิดภารกิจผู้จัดการใหญ่ เครดิตบูโร คนใหม่ ดร.ลัษมณ อรรถาพิช

Amarin TV
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...