‘ไชยา’ ชิงปิดประชุมอีกรอบ หลังฝ่ายค้านเสนอญัตติ พิจารณาปัญหา MOU43-44
‘ไชยา’ ชิงปิดประชุมอีกรอบ หลังฝ่ายค้านเสนอญัตติ พิจารณาปัญหา MOU43-44
วันนี้ (21 สิงหาคม 2568) เวลา 14.57 น. ไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานสภาฯ ชิงปิดประชุมสภาฯ หลังมีการรับทราบรายงานประจำปี 2567 ของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ โดยกล่าวสั้นๆ ว่า “ท่านสมาชิกครับ วันนี้เราใช้เวลาพอสมควรแล้ว ขอปิดประชุมครับ” ทำให้ทุกฝ่ายมึนงง เพราะเมื่อวาน (20 สิงหาคม 2568) ก็มีการปิดประชุมในลักษณะเดียวกัน ขณะกำลังพิจารณาร่างพระราชบัญญัติตั๋วร่วม ทั้งนี้เป็นการปิดประชุมก่อนที่จะเข้าญัตติต่อไป คือญัตติที่พรรคภูมิใจไทยเสนอให้มีการตั้งกรรมาธิการวิสามัญศึกษา MOU2543-MOU2544 ซึ่งเป็นเรื่องเขตแดนไทย-กัมพูชา
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวภายหลังไชยาชิงปิดประชุมสภาฯ ว่า การปิดประชุมวันนี้เป็นสิ่งที่ไม่ตรงกับที่วิปรัฐบาลหารือกันทั้ง 2 ฝั่ง โดยในตอนแรก การประชุมสภาฯ วันนี้ จะมีการประชุมหาทางออกเรื่องความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ทว่ารัฐบาลกลับปิดกั้นพื้นที่ที่ปลอดภัยที่สุดด้วยการปิดสภาฯ ไปเสียก่อน ซ้ำรอยเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ที่ชิงปิดสภาฯ ระหว่างพิจารณาร่างพระราชบัญญัติตั๋วร่วมเช่นกัน
ณัฐพงษ์ระบุว่า การที่สภาฯ ไม่สามารถทำงานได้ เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น และยิ่งผลโพลจากนิด้าโพลระบุว่า ประชาชนขาดความเชื่อมั่นต่อนักการเมือง การทำให้สภาฯ เป็นเป็ดง่อยยิ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะสภาฯ ควรเป็นที่ที่หาทางออกในหลายเรื่องได้ต่อไขณะที่ ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน และประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ญัตติในวันนี้ วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ บรรจุเป็นเรื่องด่วนตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว หลังจาก 2 สัปดาห์ก่อน สส.พรรคภูมิใจไทยเข้าชื่อเสนอให้ประธาน และประสานล่วงหน้าเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้วว่า วันนี้จะมีการขอเลื่อนขึ้นมาหลังกระทู้ถามสด รวมถึงมีการประสานงานจากวิปรัฐบาลไว้แล้วว่า จะมีการตั้งกรรมาธิการวิสามัญศึกษา MOU ทั้ง MOU43 และ MOU44 ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับข้อพิพาทดินแดนไทย-กัมพูชา และให้ฝ่ายค้านเตรียมเสนอรายชื่อกรรมาธิการ
ภายหลังมีการพูดคุยหารือกันว่า จะเป็น ‘ประชุมลับ’ หรือไม่ ซึ่งฝ่ายค้านก็เข้าใจดี ยินยอม แต่ยังมีข้อเสนออีกว่า จะไม่ตั้งกรรมาธิการวิสามัญเพิ่มแล้ว แต่จะใช้เป็นกรรมาธิการสามัญแทน ซึ่งก็ยอมถอยให้ซึ่งกันและกันหลายครั้ง ขณะเดียวกันหลายครั้งพรรคฝ่ายค้านยังร่วมแบกองค์ประชุมให้แม้องค์ประชุมไม่ครบ
“วันนี้เป็นเหตุการณ์ที่สำคัญอย่างหนึ่งคือ มีผู้ชุมนุมหน้าสภาฯ กำลังเรียกร้องเรื่องนี้ ไม่ว่าเห็นแย้ง เห็นต่าง สภาฯ คือที่ที่ผู้แทนประชาชนจะได้หารือกัน แล้วตั้งกรรมาธิการวิสามัญ เพื่อศึกษาข้อดีข้อเสียของ MOU ทั้ง 2 ฉบับ ให้ประชาชนเห็นว่า สภาฯ ยังทำงานให้เขาอยู่ ส่วนใดเป็นประโยชน์ ส่วนใดต้องแก้ไข ส่วนการชิงปิดสภาฯ โดยที่เราไม่รู้ล่วงหน้าเป็นสิ่งที่อันตรายต่อระบอบประชาธิปไตยเป็นอย่างยิ่ง
“ผมไม่อยากให้สภาฯ แห่งนี้ ทำลายความหวังประชาชนด้วยตัวเอง หวังว่าจะไม่เกิดแบบนี้อีก ที่ผ่านมาการร่วมมืออาจจะขลุกขลัก ทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่าสภาฯ ต้องเดินหน้า ต้องเป็นความหวังประชาชนให้ได้”
ด้าน แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ต้องตั้งคำถามไปยังวิปรัฐบาล และผู้ที่ทำหน้าที่ประธานคือไชยา ที่เป็นผู้ไปรับหนังสือจากประชาชนด้วยตัวเองว่า เพราะเหตุใดจึงไม่ฟังเสียงประชาชน โดยพรรคภูมิใจไทยออกแถลงการณ์ว่า ต้องการแก้ปัญหาเรื่องนี้ในสภาฯ เพราะสภาฯ เป็นพื้นที่แห่งการพูดคุย แต่รัฐบาลกลับไม่ยอมใช้เวทีสภาฯ ในการหารือเรื่องดังกล่าว พร้อมกับยืนยันจุดเดิมว่า ต้องยึดเรื่องนี้มาใช้ในเวทีสภาฯ และเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาการเมือง แต่คือปัญหาของประเทศชาติ