ในวันที่คนไทยออกกำลังมากขึ้นจนกลายเป็นวิถีชีวิต
Reporter Journey
อัพเดต 21 สิงหาคม 2568 เวลา 22.18 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • Reporter Journeyเมื่อกระแสรักสุขภาพ กลายเป็นวิถีชีวิต
ดูแลสุขภาพ = ฟรี
เรื่องนี้จริงไหม ไม่รู้
ขึ้นอยู่กับมุมมอง ข้อคิดเห็น และขึ้นอยู่กับคำว่าฟรีของแต่ละคนมีค่าเสียโอกาสหรือเปล่า แต่เรื่องที่รู้ ๆ และสามารถการันตีได้คือ ตอนนี้คนไทยรักสุขภาพมากขึ้น เรื่องนี้คือข้อเท็จจริง และการที่คนไทยรักสุขภาพมากขึ้นนี้แหละ ที่กำลังดันธุรกิจฟิตเนสในไทยให้อาจมีมูลค่าทะลุ 12,000 ล้านบาท !
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยข้อมูลจากกรมพลศึกษาว่าตอนนี้คนไทยมีแนวโน้มออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอมากขึ้น และที่น่าสนใจคือการออกกำลังกายกลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์คนไทยไปซะแล้ว โดยเฉพาะคนในเมือง สะท้อนจากรายได้ของธุรกิจฟิตเนสกว่า 80% ที่กระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพ
คนไทยหันมารักตัวเองมากขึ้น
โดยพฤติกรรมคนไทยที่ว่าออกกำลังกายเยอะขึ้น คือ พฤติกรรมลักษณะที่ออกกำลังมากกว่า 3 วัน/สัปดาห์ + ออกต่อเนื่องอย่างน้อย 30 นาที โดยจากข้อมูลที่เปิดเผยเป็นดังนี้
ปี 2022 คนไทย 40.4% ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ปี 2023 คนไทย 42.2% ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ปี 2024 คนไทย 44.4% ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
*คนไทยที่อายุ 15 ปีขึ้นไป
คือไม่ว่าจะเป็นเพราะการรณรงค์ของภาคัฐ เพราะกระแสหรือการตลาดจากธุรกิจอุปกรณ์กีฬา หรือเพราะแผนการตลาดของธุรกิจฟิตเนส หรือเพราะอะไรก็ตาม ต้องบอกว่า มาในทิศทางที่ถูกต้อง การที่คนไทยหันมาใส่ใจสุขภาพ-ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอได้เป็นเรื่องที่ดี
กลับมาที่ตัวผลสำรวจ คนออกกำลังกายกว่า 60.2% ที่ตอบแบบสอบถาม เลือกออกำลังกายผ่านฟิตเนส ขณะที่อีก 39.8% ออกกำลังกายในสถานที่อื่น ๆ ซึ่งเรื่องนี้เองส่งผลให้รายได้ของธุรกิจฟิตเนสโตอาจโตทะลุ 12,000 ล้านบาทในสิ้นปี 2025 และถือเป็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2021 ตัวเลขนี้สะท้อนให้เห็นว่าเทรนด์สุขภาพมาแรงและโตต่อเนื่องจริง ๆ
ทว่ารายงานก็ได้ฉายภาพให้เห็นเช่นกันว่าบรรดารายได้ของธุรกิจฟิตเนสกระจุกตัวอยู่แค่ในกรุงเทพ โดยคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 80% ของรายได้รวมทั้งประเทศ ซึ่งก็เพราะการออกกำลังกาย ไม่ได้หมายถึงฟรีตลอดไป การเข้าฟิตเนสก็มีค่าใช้จ่าย และเป็นคนกรุงเทพนี่แหละที่เป็นกลุ่มประชากรที่มีกำลังซื้อ
ซึ่งการที่ประชากรกรุงเทพมีกำลังซื้อนี้แหละที่เป็นส่วนหนึ่งทำให้ตั้งแต่ช่วงเดือน มกราคม-พฤษภาคม 2025 มีการจัดตั้งบริษัทที่เกี่ยวกับธุรกิจฟิตเนสถึง 41 บริษัท เฉลี่ยแล้วจะมีบริษัทที่เกี่ยวกับฟิตเนสเปิดตัวใหม่ 8 บริษัทในทุก ๆ เดือน โดยเฉพาะกีฬาประเภทโยคะหรือพิลาทิสที่ได้รับความนิยม (เปิดใหม่คิดเป็น 56% ของบริษัทที่เกี่ยวกับฟิตเนสที่เปิดใหม่)
เมื่อการออกกำลังกายกำลังกลายเป็นไลฟ์สไตล์
การออกกำลังกายก็เป็นกิจกรรมที่สามารถเริ่มต้นที่ตัวเราเองโดยที่ไม่เสียตังได้จริง แต่ดูเหมือนว่าคนที่ออกกำลังกายแบบเสียตัง เข้าฟิตเนส จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้นเรื่อย ๆ กับธุรกิจฟิตเนส หรือแม้แต่ธุรกิจอุปกรณ์กีฬาออกกำลังกาย
ในช่วงหลังมานี้เราจะเห็นว่าในประเทศไทยมีเทรนด์ Run Club เกิดขึ้น ใคร ๆ ก็หยิบรองเท้าออกมาวิ่ง ซึ่งเทรนด์นี้ก็คงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ตัวเลขพฤติกรรมคนไทยที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพิ่มขึ้นด้วย และแน่นอนเมื่อมีคนออกมาวิ่ง ก็จะมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ตามมา เช่น เสื้อผ้า รองเท้า จะมีเงินสะพัดอีกมากในบรรดาสินค้ากลุ่มนี้
บางทีคำกล่าวที่ว่าออกกำลังกาย = ฟรี คำนี้อาจจะไม่จริงก็เป็นได้ เพราะยากมากที่คนที่ออกกำลังกายจะไม่ลงทุนในการซื้ออุปกรณ์กีฬา ไม่เพียงเท่านั้นยังสอดคล้องกับที่รายงานของศูนย์วิจัยกสิกรไทยกล่าวว่า กระแสออกำลังกำลังกลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์คนไทย
ผู้เขียนมองว่าอะไรก็ตามที่สามารถกลายมาเป็นไลฟ์สไตล์ได้ แปลว่ากระแสนี้จะไม่หายไปง่าย ๆ เพราะการที่อะไรบางอย่างเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตคน หมายความว่าของสิ่งนั้น พฤติกรรมนั้น ๆ กำลังมีคุณค่า (Value) หรือตอบสนองคุณค่าบางประการของคน ๆ นั้น และจะไม่จางหายไปง่าย ๆ (และยิ่งกลายเป็นไลฟ์สไตล์ก็ยิ่งมีแนวโน้มให้เสียเงินมากขึ้นจากการเต็มใจซื้อ)
ผู้ประกอบการที่มองเรื่องนี้ออก
มองกระแสคนรักสุขภาพของคนไทยออก
จะได้เปรียบไม่มากก็น้อย
อ้างอิง: ศูนย์วิจัยกสิกรไทย