แก๊งค้ายาเรียกรถผ่านแอปฯ ขนไอซ์-กัญชา มูลค่ากว่า 81 ล้านบาท ลงใต้

อัพเดต 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ภาพไฮไลต์

หนุ่มขับรถขนส่งไหวพริบดี เห็นความผิดปกติจากกล่องพัสดุ รีบแจ้งตำรวจ เจอเป็นไอซ์-กัญชา มูลค่ากว่า 81 ล้านบาท แก๊งค้ายาฯ เรียกผ่านแอปฯ ว่าจ้าง 10,000 บาท ให้ขนลงใต้

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 18 ส.ค. ที่ สภ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย นางนิศากร วิศิษฏ์สรอรรถ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม, นายไกรเลิศ ดาวเรือง ผอ.ปปส.ภ.7, พล.ต.ต.ปิติ นฤขัตรพิชัย รอง ผบช.ภ.7(ปส), พล.ต.ต.สมภพ คูหาวิชานันท์ ผบก.ภ.จว.สมุทรสงคราม, พล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวนิชกูล และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง แถลงผลการจับกุมนายทรงพล อนุรักษ์พนาวัน อายุ 31 ปี ชาว จ.น่าน และ น.ส.พนิดา นกดี อายุ 23 ปี ชาว จ.ศรีสะเกษ พร้อมของกลาง ยาไอซ์ 210 กิโลกรัม และกัญชาอัดแท่ง 390 กิโลกรัม รวมมูลค่ากว่า 81 ล้านบาท และรถปิกอัพอีซูซุดีแมกซ์ 4 ประตู ทะเบียนกรุงเทพมหานคร อีก 1 คัน

พล.ต.ท.นัยวัฒน์ กล่าวว่า ตำรวจได้สืบสวนหาข่าวในการป้องกันและกวาดล้างยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง ช่วงเย็นวานนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการประสานเบาะแสจากพนักงานขนส่งว่า พบยาเสพติดจำนวนมาก ตำรวจจึงได้เข้าตรวจสอบ ที่บ้านพักพูลวิลล่าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 6 ต.ท่าคา อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม จากการตรวจสอบรถกระบะของบริษัทขนส่ง พบกล่องพัสดุบรรจุเงาะ จำนวน 21 กล่อง ภายในพบของกลางเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือ ไอซ์) น้ำหนักรวมประมาณ 210 กิโลกรัม แต่ผู้เช่าได้หลบหนีออกไปก่อนแล้ว

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขออนุมัติศาลจังหวัดสมุทรสงครามออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 ตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรสงคราม และติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองได้ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งในซอยสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร ในช่วงเวลา 01.00 น. ของคืนวันดังกล่าว ทั้งนี้จะได้ดำเนินการสืบสวนขยายผลผู้ร่วมกระทำผิด และตรวจยึดทรัพย์สินตามประมวลกฎหมายยาเสพติดต่อไป

นายไกรเลิศ ดาวเรือง ผอ.ปปส. ภ.7 กล่าวว่า ยาเสพติดดังกล่าวคาดว่าจะมาจากฝั่งลาวเข้ามาทางภาคเหนือ และลัดเลาะมาทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้ามาพักยาใน จ.สมุทรสงคราม และว่าจ้างพนักงานขนส่งเอกชน เพื่อส่งไปภาคใต้ นำส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้านต่อไป

จากการสอบสวน นายทรงพล และ น.ส.พนิดา รับสารภาพว่าเป็นผู้เรียกแอปฯ ว่าจ้างพนักงานขนส่งเอกชนเพื่อไปส่งยาเสพติดในภาคใต้จริง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา "ร่วมจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย และกระทำเพื่อการค้า และร่วมจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (กัญชา) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย และกระทำเพื่อการค้า ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป นอกจากนี้เจ้าหน้าที่จะขยายผลสอบสวนถึงเครือข่ายผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด รวมถึงตรวจสอบเส้นทางการเงินเพื่ออายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาต่อไป

ด้าน นายเอ (นามสมมติ) พนักงานส่งของที่พบยาเสพติดดังกล่าว เล่าว่า เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2567 เวลา 23.30 น. มีคนเรียกใช้บริการการขนส่งผ่านแอปฯ ตนจึงกดรับงาน โดยระบุนัดรับสินค้าในเวลา 09.00 น. วันที่ 17 สิงหาคม 2568 ซึ่งตนก็โทรไปสอบถามรายละเอียดตามปกติ ซึ่งผู้ว่าจ้าง ทราบภายหลังคือ นายทรงพล อ้างว่าเป็นมังคุดอบแห้ง 100 ลัง จะแบ่งให้ขนคันละ 50 ลัง แต่ตนยืนยันว่าไปได้หมด พร้อมเรียกค่าบริการ 10,000 บาท ซึ่งเขาก็ตอบตกลง และขอรายละเอียดเกี่ยวกับตัวรถ บัตรประชาชน ตนก็ให้ตามปกติ

ต่อมาเวลา 07.30 น. ของวันที่ 17 สิงหาคม ตนมารอลูกค้าตามที่เขาส่ง GPS ให้ ซึ่งอยู่ใกล้กับพูลวิลล่า จากนั้นก็โทรมาเลื่อนเป็นรายชั่วโมง ก่อนจะให้เข้าไปรับสินค้าในเวลา 15.15 น. แต่เมื่อไปถึงพูลวิลล่า ก็เห็นว่าเป็นเงาะ 21 ลัง ไม่ใช่มังคุดอบแห้ง 100 ลัง ตนจึงโทรหาคนที่ว่าจ้าง เขาก็บอกว่าแค่ 21 ลัง ตอนขับรถออกมา ก็คุยกับแฟนว่าภาคใต้มีเงาะเยอะ จะส่งไปทำไม อีกทั้งตนเห็นว่ากล่องเงาะเปียก จึงโทรไปแจ้งลูกค้า เขาก็ให้ถ่ายรูปให้ดู ซึ่งตอนนั้นก็เจอว่าในกล่องมีถุงพลาสติกอยู่ เอานิ้วจิ้มดู ก็ไม่เจอเงาะ จึงตัดสินใจเปิดดูพบว่าเป็นถุงชา เมื่อค้นหาในอินเตอร์เน็ตกลับพบว่าเป็นยาไอซ์ จึงปรึกษาพ่อก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ สภ.อัมพวา ที่อยู่ใกล้เคียงสุด

พนักงานขับรถเอกชนรายนี้ กล่าวอีกว่า ตนทำมาหากิน จะเรียกให้มาทำงานแบบนี้ไม่เหมาะสม คิดถึงใจผมบ้าง เพราะถ้าขนไปแล้วถูกจับใครจะรับผิดชอบ และขอฝากเพื่อนๆ อาชีพเดียวกันต้องระมัดระวัง แม้ตามแอปฯ จะมีกฎห้ามแกะสินค้าของลูกค้า ตนเข้าใจแต่ถ้าดูแล้วผิดสังเกต ก็ขอให้ไปหาตำรวจ แล้วแกะดูต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะปลอดภัยกว่า

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : แก๊งค้ายาเรียกรถผ่านแอปฯ ขนไอซ์-กัญชา มูลค่ากว่า 81 ล้านบาท ลงใต้