รู้ว่าแพ้ต้องเผ่น!? “อิ๊งค์” ขึ้นเขียง คดีคลิปเสียง ฮุน เซน 29 ส.ค.นี้ ** "ชาญชัย" จี้ ป.ป.ช.สอบ ม.144 ดาบนี้ฟันไม่เหลือซาก !?
ข่าวปนคน คนปนข่าว
++ รู้ว่าแพ้ต้องเผ่น!? “อิ๊งค์” ขึ้นเขียง คดีคลิปเสียง ฮุน เซน 29 ส.ค.นี้
ในที่สุด คดีคลิปเสียงของ “อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่คุยกับ “อังเคิล” ฮุน เซน ก็มีกำหนดวันพิพากษาออกมาแล้ว หลังจาก ที่ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพิจารณากัน เมื่อวานนี้ (13 ส.ค.)
โดยศาลรัฐธรรมนูญ จะนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติ ในวันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม 2568 เวลา 09.30 น. และฟังคำวินิจฉัย เวลา 15.00 น.
แต่ก่อนจะไปถึงขั้นตอนการวินิจฉัย ชี้ขาด ศาลรัฐธรรมนูญ ยังเปิดโอกาสให้ไต่สวนพยานบุคคล จำนวน 2 ปาก คือ “แพทองธาร ชินวัตร” ผู้ถูกร้อง และ “ฉัตรชัย บางชวด” เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 เวลา 10.30 น. ถ้าไม่มาตามกำหนดนัด ถือว่าไม่ติดใจ และ ยังให้ผู้ร้อง หรือผู้ถูกร้อง ที่ต้องการจะแถลงปิดคดี ให้ยื่นเป็นหนังสือต่อต่อศาลฯ ภายในวันพุธที่ 27 สิงหาคม 2568 หากไม่ยื่นภายในกำหนด ถือว่าไม่ต้องการแถลง
ย้อนไปดูที่มาที่ไปสักนิด เพื่อจะได้เข้าใจถึงเรื่องราวความเป็นมา แล้วใช้ “ใจ” ของตัวเองตัดสินว่าเรื่องจะจบลงอย่างไร
เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2568 ได้ปรากฏว่ามีการเผยแพร่คลิปเสียง การพูดคุย ระหว่าง “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี กับ “ฮุนเซน” ประธานวุฒิสภา และพ่อนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา และ “แพทองธาร” ก็ยอมรับว่าเป็นเสียงของตนเองจริง เป็นการพูดคุยทางโทรศัพท์แบบส่วนตัว โดยมีเจตนาที่จะเจรจาต่อรอง อย่างนุ่มนวล เพื่อรักษาไว้ซึ่งความสงบสุข และอธิปไตยของไทย
ต่อมา มี สว.36 คน ยื่นคำร้องต่อประธานวุฒิสภา เพื่อส่งต่อไปยังศาลรธน. กล่าวหาว่า นายกรัฐมนตรี มีพฤติกรรมขัดต่อ รธน. ขอให้ศาลรธน. วินิจฉัยว่า ความเป็นรัฐมนตรีของ “แพทองธาร” สิ้นสุดลงตาม รธน. มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบ มาตรา 82, มาตรา170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบ มาตรา160 (4) และ (5) เนื่องจากเป็นการกระทำที่ผิดมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง
พูดง่ายๆ ข้อกล่าวหาคือ การพูดคุย เจรจากับ “ฮุน เซน” ทางโทรศัพท์นั้น แสดงออกอย่างชัดเจนว่า “แพทองธาร” ไม่ปฏิบัติหน้าที่ ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน
ส่วนในรายละเอียด คำพูดที่ว่า ทหาร แม่ทัพภาค 2 เป็นคนละพวกกับเรา ลุงจะให้หนูทำอะไร ก็บอกมาเลยนั้น “แพทองธาร” อ้างว่าเป็นการพูด โอ้โลม เท่านั้น จะผิดด้วยหรือ
ความเห็นของนักวิชาการด้านกฎหมาย อย่าง “อาจารย์แก้วสรร อติโพธิ” เห็นว่า ตรงนี้แหละที่ศาลรัฐธรรมนูญ จะไต่สวน และพิจารณาว่า คำแก้ตัวนี้ เป็นความจริงหรือไม่
เพราะข้อเท็จจริงซึ่งเป็นที่รับรู้กันทั่วไป คือ ตั้งแต่ทหารเขมรรุกล้ำเข้ามา ตรงปราสาทตาเมือนธม นั้น “แพทองธาร และรัฐมนตรีกลาโหม” มีท่าทีขัดแย้งกับกองทัพ มาตลอด ทางกองทัพเขามีหนังสือเสนอสภาความมั่นคง ให้พิจารณาปิดด่านเพื่อเป็นการกดดัน นายกฯ ก็ไม่ยอมเอาเข้าประชุม พอเหตุการณ์ตึงเครียดหนักขึ้น ทหารเขาถึงใช้อำนาจกฎอัยการศึก เข้าควบคุมด่านต่างๆ เอง
ถึงตรงนี้ภาพสมยอม ภาพทรยศต่อหน้าที่ ของ “แพทองธาร” ในฐานะผู้นำรัฐบาลก็ปรากฏขึ้นชัดเจน
ที่อ้างว่าเป็นเทคนิคการเจรจา นั่นจึงเป็นเพียงคำแก้ตัวเท่านั้น
ถ้า “แพทองธาร” ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีอย่างเข้มแข็ง ต้องพูดกับ “ฮุน เซน” ให้ชัดว่า ว่า เขมรส่งทหารเข้ามาขุดสนามเพลาะ ในดินแดนเราไม่ได้ แล้วก็บอก “ฮุน เซน” ว่า เราจะเปิดพรมแดนให้กัมพูชา หาก “ฮุน เซน” ยอมถอยทหารออกไป จุดยืนอย่างนี้ จึงจะถือได้ว่า นายกฯซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ ทำเพื่อประเทศชาติ
ไม่ใช่ไปออดอ้อนกับ “ฮุนเซน” ว่า เราพวกเดียวกัน ทหารเป็นแค่พวกอยากเท่
ในฐานะ นายกรัฐมนตรี สิ่งที่ “แพทองธาร” แสดงออก ต้องไม่ใช่เป็นการแสดงละครบนเวที หรือแสดงความอ่อนแอ สมยอม ต่อศัตรูผู้รุกราน อย่างนี้ ถือเป็นการทรยศต่อตำแหน่งหน้าที่ชัดเจน… ไม่ใช่เรื่องบกพร่องโดยสุจริต!!
ฟังความเห็นของ “อาจารย์แก้วสรร” แล้วก็พอจะเห็นทิศทางว่า “แพทองธาร” จะรอด หรือ ไม่รอด
และหลังจากนี้ ในสังคมการเมือง ก็มีคำถามอยู่ทุกวันว่า “แพทองธาร” จะลาออก ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญ จะตัดสินหรือไม่
บันทึกทิ้งท้ายไว้ตรงนี้ ว่า คดีความผิดตาม มาตรา112 ของ “ทักษิณ ชินวัตร” นั้น ศาลอาญานัดตัดสิน ในวันที่ 22 สิงหาคม นี้ … สัปดาห์ต่อมา ศาลรัฐธรรมนูญนัดตัดสินคดี “คลิปเสียง” ของ “แพทองธาร ชินวัตร” วันที่ 29 สิงหาคม และปิดท้ายด้วยคดี “ป่วยทิพย์” ที่ชั้น 14 ของ “ทักษิณ ชินวัตร” ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดตัดสิน วันที่ 9 กันยายน 2568
ผลจะออกมาอย่างไรบ้าง ไม่รู้ รู้แต่ว่า ระทึก ก็แล้วกัน !!
++ "ชาญชัย" จี้ ป.ป.ช.สอบ ม.144 ดาบนี้ฟันไม่เหลือซาก !?
"อิ๊งค์" แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีที่อยู่ระหว่างถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ "จะไปต่อ" หรือ "จะพอแค่นี้" อีกไม่กี่วันข้างหน้าก็คงจะทราบกัน
ถ้า "อิ๊งค์" ได้ไปต่อ ก็ใช่ว่าจะพ้นวิบากกรรม เพราะยังมีดาบสองรออยู่ ซึ่งดาบนี้ไม่ธรรมดาแต่จะเป็น "ดาบ ม.144" ที่ความรุนแรงจะเหมือนพายุใหญ่ กวาดคณะรัฐบาลทั้งคณะ -สส. -สว. ลงทะเล !
อันว่า ม.144 ของรัฐธรรมนูญฉบับปี8239;2560 ตราไว้เพื่อห้าม ส.ส. -ส.ว. หรือ กรรมาธิการแปรญัตติ หรือกระทำใดที่ให้ตนมีส่วนได้เสียโดยตรง หรือทางอ้อม กับการใช้งบประมาณรายจ่ายแผ่นดิน เพื่อป้องกัน “งบส.ส.” ถูกดัดแปลงให้เป็น “งบเฉพาะ” เอื้อคะแนนเสียง หรือประโยชน์เฉพาะกลุ่ม
ปมเหตุมาจากเรื่องแจก "เงินหมื่น" เงินดิจิทัลฯ ของรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน มาถึง รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร นั่นแหละ
ทว่า ดาบนี้เงื้อง่าอยู่ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนเมษายน ที่ผ่านมา นับแต่มีผู้ไปยื่นเรื่อง
เรียกได้ว่า "ดองเค็ม" ผ่านมาหลายเดือน ป.ป.ช. ก็นิ่งเฉย เงียบกริบ
ฟังว่าล่าสุด "ชาญชัย อิสระเสนารักษ์" อดีต สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) พรรคประชาธิปัตย์ และพลพรรค อาทิ “สมชาย แสวงการ” อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) "ทนายนกเขา" นิติธร ล้ำเหลือ นักเคลื่อนไหว “อาจารย์เจษฏ์ โทณะวณิก” นักวิชาการทางกฎหมาย “พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป” อดรนทนไม่ไหว ได้ลงนามในหนังสือยื่นถึง ป.ป.ช. พร้อมยื่นข้อเท็จจริงข้อกฎหมาย และเอกสาร เพื่อเป็นพยานหลักฐานประกอบการสอบสวนเพิ่มเติม
“กลุ่มชาญชัยและเพื่อน” ขอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ดําเนินการสอบสวนโดยพลัน ตามมาตรา 88 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561
หากเห็นว่ามีมูลให้เสนอความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 144 วรรคสาม และ ดําเนินการเรียกคืนงบประมาณที่ใช้ไปโดยมิชอบ คืนแก่รัฐตามอํานาจหน้าที่
ตามทำนองก็มีเพียงเท่านี้… ถ้าต่างคนต่างทำหน้าที่เรื่องนี้ก็น่าจะจบ…เหตุที่ ป.ป.ช.เงื้อง่าราคาแพง เต้นชะชะช่าไปเรื่อยๆ ก็ไม่มีใครรู้ว่า ป.ป.ช.คิดอะไรอยู่! ทำไมถึงไม่หยิบมาพิจารณาเสียที!
อาจจะเพราะ ม.144 มีอิทธิฤทธิ์ร้ายแรง กรณีของ "พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน" สส.เชียงราย รองประธานสภา ที่ถูกเชือด เพราะโยกงบฯไปลงพื้นที่ของตัวเอง ทำให้นักการเมือง หรือใครๆ ก็ต้องหนาว
ถ้ารัฐบาลที่โยกงบไปแจก ถูกชี้ว่าผิด มาตรา 144 จะเกิดอะไรขึ้น ? ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เช่น ส.ส.- ส.ว. รวมทั้ง ครม. ที่เห็นชอบกับการโยกงบ จะต้องพ้นจากตำแหน่งทันที และถูกตัดสิทธิทางการเมือง ยาวนานถึง 10 ปี
แถมถ้าพบว่า มีงบที่ถูกเบิกจ่ายไปโดยฝ่าฝืนมาตรานี้ ศาลรัฐธรรมนูญสามารถสั่งให้ชดใช้เงินคืน พร้อมคิดดอกเบี้ยย้อนหลังสูงสุดถึง 20 ปี
เรียกว่าหมื่นล้าน ใช้หนี้กันบานตูด แน่!
งานนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับ ป.ป.ช. จะดองต่อ หรือ เร่งตรวจสอบ โปรดติดตาม !
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO