เคียงข้างชายแดน
หลายสัปดาห์แห่งความโกลาหล…เสียงปืนและแรงระเบิดดังสะเทือนเหนือท้องฟ้าชายแดนไทย-กัมพูชา เหตุการณ์ที่ทำให้หมู่บ้านเงียบงันในพริบตา จากพื้นที่เคยใช้ชีวิตอย่างสงบสุข กลายเป็นดินแดนแห่งความหวาดหวั่น
ชาวบ้านรีบเก็บข้าวของเพื่อหนีเอาชีวิตรอด ทิ้งไร่นา ปศุสัตว์ บ้านเรือนไว้เบื้องหลัง ถนนบางสายปิดตายเพื่อความปลอดภัย ศูนย์พักพิงชั่วคราวแน่นขนัดด้วยผู้หนีภัย
ในช่วงเวลาแบบนี้ หลายคนรอดูท่าทีจากรัฐบาลส่วนกลาง แต่ "กวาง" ไตรศุลี ไตรสรณกุล อดีตเลขานุการรัฐมนตรีมหาดไทย ลูกหลานชาวศรีสะเกษแท้ๆ เลือกก้าวเท้าลงพื้นที่ทันทีแบบไม่รอพิธีรีตอง เดินฝ่าอากาศร้อนและความเสี่ยงเข้าไปถึงศูนย์พักพิง แจกถุงยังชีพด้วยมือตัวเอง พูดคุยกับชาวบ้านเหมือนญาติ รับฟังปัญหาแล้วเก็บไว้กดดันรัฐบาลให้ทำงานจริงจัง
ต่างจากนักการเมืองบางคนเลือกทำงานจากหน้าสื่อ รับฟังการแก้ปัญหาจากข้าราชการ โดยไม่ฟังเสียงจากคนในพื้นที่ แต่เธอขยับเชิงนโยบาย เสนอเพิ่มกำลังคุ้มครองชายแดน จัดงบให้องค์กรท้องถิ่นพร้อมรับมือ ฟื้นฟูเศรษฐกิจครัวเรือน เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทั้งร่างกายและจิตใจอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่แก้ปัญหาหน้าฉาก
สิ่งที่ต้องขีดเส้นใต้คือ เธอกล้าพูดในสิ่งที่หลายคนเลี่ยง โดยโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาถอดถอนเครื่องราชฯ ของฮุน เซน อดีตนายกฯ กัมพูชา ที่ได้ในยุครัฐบาลทักษิณปี 2544 เพราะเป็นผู้มีประวัติสั่งฆ่าประชาชน จึงไม่ควรได้รับเกียรติสูงสุดจากไทย!
ที่ผ่านมาคนไทยในชายแดนต้องเผชิญความตื่นตระหนก ความเศร้า และความโกรธ แต่ในความมืดมิดยังมีแสงแห่งน้ำใจ คนไทยจากทั่วทุกสารทิศส่งสิ่งของและกำลังใจไปให้ ช่วยกันจนผู้ประสบภัยรู้ว่าพวกเขาไม่ได้ถูกทิ้งให้อยู่ลำพัง
ภาพ "กวาง ไตรศุลี" ที่ย่ำเท้าไปบนดินชายแดน จับมือชาวบ้าน แจกถุงยังชีพ พร้อมมองตาและพูดสั้นๆ “เราคนไทยไม่ทิ้งกัน”
นี่แหละ นักการเมืองของประชาชนตัวจริง และพิสูจน์ด้วยการกระทำ ไม่ใช่ดีแต่พูด.
ช่างสงสัย