คณะกรรมการปราบปรามพระทุจริต ย้ำไม่ได้ ‘ล้วงย่ามพระ’ สั่งตำรวจปรับวิธีทำงาน ห้ามบุกเข้าวัดโดยไม่แจ้งล่วงหน้า
วันนี้ (13 สิงหาคม) พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงในพระพุทธศาสนา แถลงผลการประชุมเพื่อปรับแนวทางการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากที่การปฏิบัติงานในช่วงที่ผ่านมาทำให้เกิดความเข้าใจผิดและได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่าย
พล.ต.อ.ไกรบุญยืนยันว่า การทำงานของคณะกรรมการฯ ไม่ใช่การ “ล้วงย่ามพระ” หรือก้าวก่ายเรื่องส่วนบุคคล แต่เป็นการขอความร่วมมือจากวัดในการจัดเก็บฐานข้อมูลการบริหารงานและบุคลากรภายในวัด ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาในระยะยาว
แนวทางการทำงานใหม่ที่สั่งการไปยังตำรวจทุกพื้นที่ รวมถึงฝ่ายปกครองและ กอ.รมน. คือการปรับเปลี่ยนวิธีการเข้าหาพระสงฆ์ให้เหมาะสมและนอบน้อม โดยเน้นย้ำว่าจะ ไม่บุกเข้าวัดโดยไม่แจ้งล่วงหน้า และจะไม่มีการถ่ายรูปลงทะเบียนพระในลักษณะที่ทำให้เกิดความหวาดหวั่นหรือทำให้วัดเสียหายเหมือนที่เคยเป็นมา
ด้าน บุญเชิด กิตติธรางกูร รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวเสริมว่า การขอข้อมูลจากวัดจะใช้มติมหาเถรสมาคมเป็นกรอบในการทำงานร่วมกันระหว่าง พศ. และตำรวจ แต่หากเป็นข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลสามารถปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลได้
ศาสตราจารย์พิเศษธงทอง จันทรางศุ ที่ปรึกษาคณะกรรมการฯ ระบุเพิ่มเติมว่า ข้อมูลที่จะจัดเก็บเป็นข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการบริหารจัดการวัดและบุคลากร ไม่ใช่ข้อมูลบัญชีการเงินส่วนบุคคล โดยหลังจากนี้การประสานงานจะมีความละเอียดมากขึ้น และจะมีการแจ้งให้เจ้าคณะปกครองทราบล่วงหน้าก่อนเข้าขอข้อมูล
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หารือถึงปัญหาการจัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายของวัด โดยเตรียมพิจารณาขยายเวลาให้วัดขนาดใหญ่หรือวัดที่มีพระสงฆ์จำนวนน้อยและขาดความรู้ด้านการทำบัญชี ซึ่งจะช่วยให้การรวบรวมข้อมูลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น