นโยบาย’ด้นสด’?
ได้ยินดารา-นักแสดงเขาพูดกัน..
มี “ผู้กำกับภาพยนตร์” ท่านหนึ่งอัจฉริยะมาก มีความสามารถพิเศษในการถ่ายทำหนังโดยไม่ต้องมี “บทภาพยนตร์”!
ซึ่งนั่น หมายถึง นักแสดงต้องไปว่ากันสดๆ หน้ากอง-หน้ากล้อง ตามที่ผู้กำกับนึกได้-คิดได้ตรงนั่นเลย!
ที่น่าทึ่ง..หนังของผู้กำกับท่านนี้ไม่ว่ากี่เรื่องๆ ล้วนแต่ประสบความสำเร็จ ได้กำไรมากบ้าง-น้อยบ้างตลอดมา!
และที่ทึ่งไปกว่านั้น..มีบริษัทผู้อำนวยการสร้างพร้อมอนุมัติทุนให้เปิดกล้องถ่ายทำแบบไม่ว่างมือ จนผู้กำกับ (แถวหน้า) ท่านอื่นนั่งมองด้วยความอิจฉาปนสงสัย
คือ..สงสัย ทำไมนายทุนถึงได้เชื่อมือ ไว้วางใจผู้กำกับท่านนี้กันนัก ทั้งๆ ที่รู้ว่าหนังทุกเรื่องที่เขากำกับ ไม่มี “บทภาพยนตร์” ให้นักแสดงได้อ่าน..
เสมือนเป็นการ “ถ่ายทำหนัง” แบบไปตายเอาดาบหน้า ผู้กำกับคิดอะไรขึ้นมาได้ ก็ถ่ายกันไป-พูดกันไปตามนั้น หรือนักแสดงจะด้นสดก็ฟรีสไตล์..ได้เลย!
ครับ..ฟังแล้วก็ให้นึกเห็นภาพการบริหารแผ่นดินของรัฐบาลในขณะนี้ ที่ทำนโยบายแต่ละเรื่องตามที่หาเสียงเอาไว้ จะเป็นลักษณะ “ไปตายเอาดาบหน้า” ทั้งนั้น
อย่างล่าสุด นโยบาย “รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย” หลังจากตีเกราะเคาะกะลาชักชวนให้ประชาชนไปลงทะเบียนด้วยความตื่นเต้น-ดีใจไม่ทันข้ามวัน
แต่แล้ว..พรรคเพื่อไทยก็ได้ออกมาขอโทษประชาชนที่ต้องเลื่อนใช้รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายออกไป โดยคุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมต.คมนาคม ได้อธิบาย..
“ตนจึงพยายามคิดแผนสองว่า วันที่ 1 ตุลาคม เราจะสามารถขอ ‘งบกลาง’ เข้ามาช่วยได้หรือไม่ และได้ปรึกษากฤษฎีกา โดยเลขาฯ กฤษฎีกาตรวจสอบแล้วแจ้งว่า
หากจะใช้งบกลาง ต้องมีความจำเป็นเร่งด่วน จึงไม่เข้าองค์ประกอบ
ตนจึงคิดแผนต่อไป ในกรณีที่กฎหมายไม่ผ่าน เราจะออกระเบียบได้หรือไม่ ว่าหลังจากกฎหมายผ่านให้มีผลย้อนหลัง ซึ่งกฤษฎีกาก็บอกว่า ทำไม่ได้
เราพยายามทำทุกวิถีทางแล้ว และสิ่งที่ทำได้ในขณะนี้ คือเรามี พ.ร.บ.ตั๋วร่วม คิดว่าจะพยายามผ่านกฎหมายนี้ในสภาให้จบได้ รวมถึง พ.ร.บ.รฟม.
หากผ่านตรงนี้ไปได้ ซึ่งตามกระบวนการหลังโปรดเกล้าฯ ก็ต้องออกกฎหมายลูก และมีกระบวนการต่างๆ เช่น การรับฟังความคิดเห็นใช้เวลา 15 วัน
และเพื่อทำให้เร็ว ตนจะเสนอ ครม.ให้เว้นการฟังความคิดเห็น เนื่องจากโครงการ 20 บาทตลอดสาย เป็นผลบวกกับประชาชน ไม่มีผลลบ ซึ่งกฤษฎีกาบอกว่า ทำได้”
แน่ะ..เหมือนกันเด๊ะกับการถ่ายทำหนังโดยไม่มีบท รัฐบาลบริหารงานกันแบบด้นสดไปแต่ละเรื่องแต่ละมื้อ มาคิดเตรียมแผนหนึ่ง-แผนสองเอาเมื่อเข้าตาจน แต่ก็หนีไม่พ้น..ทำไม่ได้!
ที่ตลก (ร้าย) คุณสุริยะบอก “เราพยายามทำทุกวิถีทางแล้ว” 5555 กะจะเอากันถึงขนาด “ให้เว้นการฟังความคิดเห็น” กันเชียวรึนั่น?
ที่พูด.. “โครงการ 20 บาทตลอดสาย เป็นผลบวกกับประชาชน ไม่มีผลลบ” นั้นใช่-ไม่เถียง และเห็นด้วย แต่ที่คุณสามารถ ราชพลสิทธิ์ ตั้งคำถามล่ะ..
1.มีหลักเกณฑ์การชดเชยรายได้ให้เอกชนผู้รับสัมปทานอย่างไร? จึงจะไม่ทำให้เอกชนมีรายได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้เอกชน
2.ใครจะเป็นผู้ตรวจสอบว่าจำนวนเงินชดเชยเหมาะสมหรือไม่? ชดเชยมากเกินไปหรือไม่?
3.นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย จะใช้แหล่งเงินชดเชยจากที่ไหน? และจะอยู่ได้นานกี่ปี?
4.ยังมีแนวคิดที่จะซื้อสัมปทานรถไฟฟ้าคืนจากเอกชนอีกหรือไม่? และถ้ามี จะหาเงินจากไหนมาซื้อคืน? ยังคงคิดที่จะเก็บค่าธรรมเนียมรถติดอยู่อีกหรือไม่?
เนี่ย..คุณสุริยะไม่ได้ตอบหรือแจ้งให้ประชาชนทราบเลยนะ อธิบายเอาแต่ด้านดี-ด้านบวก ก็สมควรที่ใครต่อใครจะพากันคิดว่าเป็นนโยบายชั่วครู่ชั่วยาม..
แค่หาเสียงก่อนการเลือกตั้งครั้งหน้า..แม่งงเอ๊ย!.
สันต์ สะตอแมน