โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

"นักวิชาการ มธ." เสนอทางออก หลังพบ "ทุนมนุษย์ไทย" ตกต่ำหลายด้าน

สยามรัฐ

อัพเดต 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วันที่ 10 ส.ค.68 จากกรณีที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) องค์การยูนิเซฟ และสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) จัดทำรายงาน “การพัฒนาทุนมนุษย์ในประเทศไทย: การวิเคราะห์ช่องว่าง อุปสรรค และทางเลือกเชิงนโยบาย” โดยแสดงความกังวลต่อการพัฒนาทุนมนุษย์ในประเทศไทย อาทิ ภาวะทุพโภชนาการในเด็กเล็กอายุ 2-5 ปี ทักษะการอ่านและการคำนวณของนักเรียนที่ไม่เหมาะสมตามช่วงวัย

มีคนอายุ 25-34 ปี เพียงร้อยละ 59 ที่สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลาย มีวัยทำงานเพียง 3% เท่านั้น ที่ได้รับการฝึกอบรมหลังสำเร็จการศึกษา และพบว่าวุฒิการศึกษาไม่สอดคล้องกับความต้องการตลาดแรงงาน มีแรงงานมากกว่าครึ่งทำงานไม่ตรงสาย ฯลฯ พร้อมทั้งเสนอให้มหาวิทยาลัยต้องปรับตัวและเน้นสร้างทักษะที่จำเป็นให้กับนักศึกษา

ผศ.ชล บุนนาค ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายพัฒนาคุณภาพและความยั่งยืน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) และผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG Move) เปิดเผยว่า เห็นด้วยกับข้อเสนอของรายงานฯ ที่ระบุถึงบทบาทของมหาวิทยาลัยที่จะต้องมีการปรับตัว ยกเลิกหลักสูตรที่ไม่จำเป็น และหันมาเน้นการสร้างคนที่มีความพร้อมจะเรียนรู้และมีทักษะที่จำเป็น เช่น การทำงานเป็นทีม การสื่อสาร หรือทักษะด้านมนุษย์สัมพันธ์ เพื่อให้บัณฑิตมีความยืดหยุ่นในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันระบบอุดมศึกษาของไทยยังมีความสับสนในตัวเองอยู่ว่า ตกลงแล้วเราจะผลิตปัญญาชนเพื่อการพัฒนาประเทศ หรือจะผลิตแรงงานเพื่อเข้าสู่ตลาดกันแน่ ซึ่งในยุโรปจะมีการแยกสถาบันการศึกษาออกเป็น 2 ประเภทคือ 1. มหาวิทยาลัยทั่วไปที่เน้นวิชาการและวิจัย (University/Research University) เน้นการเรียนการสอนเชิงวิชาการและการวิจัยขั้นพื้นฐานเป็นหลัก เพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่และผลักดันความก้าวหน้าทางวิชาการในระดับสากล 2. มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์ประยุกต์ (University of Applied Sciences) หรือโพลีเทคนิค (Polytechnic) ที่มุ่งเน้นการศึกษาเฉพาะเจาะจงไปที่สาขาอาชีพเป็นสำคัญ เพื่อผลิตบุคลากรที่มีทักษะตรงตามความต้องการของภาคอุตสาหกรรม ซึ่งการแยกประเภทมหาวิทยาลัยเช่นนี้จะเหมาะสมต่อการพัฒนาทุนมนุษย์และทรัพยากรบุคคลและเป็นทางออกของประเทศไทยได้

ผศ.ชล กล่าวว่า หากรัฐบาลตัดสินใจปฏิรูปมหาวิทยาลัยครั้งใหญ่ ด้วยการดำเนินการตามแนวทางนี้ ก็จะช่วยให้มหาวิทยาลัยแต่ละประเภทสามารถทุ่มเททรัพยากรเพื่อตอบวัตถุประสงค์นั้นๆ ได้อย่างชัดเจน เช่น มหาวิทยาลัยวิจัยก็จะวิจัยเชิงลึกได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการสร้างความสัมพันธ์กับภาคอุตสาหกรรม หรือต้องแบ่งกำลังคนไปดูแลทั้งงานวิจัยและการสอนแบบประยุกต์ นักศึกษาเองก็จะเลือกได้อย่างชัดเจนว่าจะศึกษาแนวทางใด ขณะที่ตลาดแรงงานก็จะชัดเจน คือหากต้องการคนที่พร้อมทำงานได้ทันทีก็จะรับผู้จบจากมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์ประยุกต์ แต่หากต้องการผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่ต้องการความรู้เชิงลึกก็จะรับผู้จบจากมหาวิทยาลัยวิจัย

“รัฐบาลควรจัดสรรงบประมาณสำหรับมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์ประยุกต์เพื่อให้คุณภาพและมาตรฐานที่สูง แต่หลังจากนั้นควรส่งเสริมให้แต่ละสถาบันแข่งขันกันเอง ทั้งในด้านการดึงดูดนักศึกษาและการร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมเพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนส่วนมหาวิทยาลัยวิจัย รัฐบาลต้องสนับสนุน งบประมาณวิจัยอย่างมียุทธศาสตร์ โดยไม่ใช้วิธีแบบเบี้ยหัวแตก หรือการให้งบประมาณจำนวนน้อยๆ กระจายไปหลายส่วนเหมือนที่ผ่านมา”ผศ.ชล กล่าว

นอกจากแนวทางการแก้ไขปัญหาเรื่องระบบการศึกษา การฝึกอบรม รวมถึงระบบที่เกี่ยวข้องกับตัวเด็กและเยาวชนที่นำเสนอเอาไว้ในตัวรายงานแล้ว นักวิชาการธรรมศาสตร์รายนี้ กล่าวว่า ปัญหารากฐานสำคัญต่อการพัฒนาทุนมนุษย์และทรัพยากรบุคคลที่ค้องแก้ไขคือปัจจัยทางเศรษฐกิจ การมองเรื่องทรัพยากรมนุษย์จำเป็นต้องมองไปที่สุขภาวะของครอบครัวและชุมชนด้วย แยกกันไม่ได้ หากเด็กเติบโตมาในครอบครัวที่ไม่พร้อมหรือได้รับการเลี้ยงดูโดยผู้สูงอายุอย่างตามมีตามเกิด ก็แทบจะเป็นไปไม่เลยที่เด็กจะได้รับการสนับสนุนให้มีผลการเรียนที่ดี สาเหตุที่ดึงพ่อแม่ออกจากบ้านก็คือปัจจัยทางเศรษฐกิจ

“ผมคิดว่ารายงานฉบับนี้ยังขาดการพูดถึงปัญหาที่เป็นรากฐานอย่างแท้จริง เช่น อัตราค่าแรงขั้นต่ำที่ไม่เพียงพอจนเป็นเหตุให้พ่อแม่และผู้ปกครองส่วนใหญ่ต้องทำงานหนักล่วงเวลาจนไม่มีเวลาดูแลบุตรหลานได้อย่างเต็มที่ การขาดแคลนงานที่มีมูลค่าสูงในชนบทจนเป็นผลให้ทำให้คนต้องย้ายถิ่นฐานเข้ามาทำงานในเมืองและทิ้งลูกหลานไว้กับผู้สูงอายุ ฯลฯ” ผศ.ชลกล่าว

ผศ.ชล กล่าวว่า ในส่วนของภาวะทุพโภชนาการในเด็กเล็กอายุ 2-5 ปี ซึ่งนอกจากความรู้ด้านโภชนาการที่ต้องส่งเสริมกันต่อไปแล้ว ปัญหานี้ยังสัมพันธ์กับปัจจัยทางเศรษฐกิจและเชื่อมโยงโดยตรงกับระบบอาหารและเกษตรกรรมของประเทศอีกด้วย ปัจจุบันอาหารที่ดีมีราคาแพง คนจำนวนไม่น้อยจึงเข้าไม่ถึงอาหารที่ดี ซึ่งมีผลต่อการทำลายรากฐานการพัฒนามนุษย์อย่างแท้จริง รวมทั้งปัจจัยทางเศรษฐกิจและปัจจัยอื่นๆ ที่ผลักดันเด็กหลุดออกจากระบบการศึกษา อาทิ อบายมุข สิ่งเสพติด การขาดแคลนพื้นที่สาธารณะหรือแหล่งเรียนรู้นอกโรงเรียน ฯลฯ ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของสุขภาวะครอบครัวและชุมชนทั้งสิ้น

สำหรับประเด็นมีวัยแรงงานเพียง 3% ที่ผ่านการฝึกอบรมหลังสำเร็จการศึกษา ส่วนตัวมองว่าก็เป็นผลมาจากปัจจัยทางเศรษฐกิจเช่นกัน กล่าวคือสภาพการทำงานที่บีบคั้นและนโยบายของบริษัท โดยเฉพาะในบริษัทขนาดเล็กที่ไม่มีทรัพยากรมากเพียงพอจึงไม่สามารถเปิดช่องให้พนักงานไปฝึกอบรมได้ ขณะที่พนักงานก็ต้องทำงานล่วงเวลาเพื่อหารายได้ให้เพียงพอจนไม่มีเวลาในการพัฒนาตนเอง ฉะนั้นหากจะคาดหวังให้พนักงานไปพัฒนาตนเองเพียงอย่างเดียวโดยไม่มองถึงปัญหาเหล่านี้ แนวทางดังกล่าวก็คงไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างแท้จริง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก สยามรัฐ

ผาเมือง สกัดกั้นกลุ่มขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ยึดยาบ้า 5,500,000 เม็ด ในพื้นที่อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่

35 นาทีที่แล้ว

มก. ประกาศผลประกวดกล้วยไม้ “งามอย่างรักษ์โลก” ชิงถ้วยพระราชทานฯ ในงานสีสรรพรรณไม้ ครั้งที่ 17

37 นาทีที่แล้ว

คปภ.กางยุทธศาสตร์แผนพัฒนาฉบับที่ 5 รับมือสารพัดความเสี่ยงยุคใหม่ ทั้งภูมิรัฐศาสตร์-เทคโนโลยี -กระแส ESG-สู่โหมดSuper Aged Society

47 นาทีที่แล้ว

“สมชาย”แนะจับตา “3คดี”ตระกูลชินวัตร ลั่นเชื่อมั่นและศรัทธาในหลักนิติธรรมนิติรัฐ

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

‘สรวงศ์’ พร้อม ‘มนพร’ ลงพื้นที่ศรีสะเกษให้กำลังใจชาวบ้านประสบปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา

เดลินิวส์

โฆษกจิตอาสา ศบ.ทก. ยันเรื่องช่องอานม้ามีสะสมกำลังเพื่อเตรียมปะทะ เป็นข่าวเฟกนิวส์

ไทยโพสต์

‘สส.เลย’จี้รัฐแก้ปัญหาเขตป่ารุกที่ทำกิน

เดลินิวส์

หมอดิวเผยเสียงจากชายแดน ขอพูดแทนประชาชน

News In Thailand

โฆษกทบ. ชี้ กัมพูชา ลวงโลก ไร้เกียรติ ใช้ทุ่นระเบิด ละเมิดข้อตกลงชายแดน

News In Thailand

กสทช. แจงปมเสาสัญญาณชายแดน ยันปรับลดครอบคลุมสกัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์

สยามนิวส์

ข่าวและบทความยอดนิยม