สุขภาพดี แท้จริงแล้วฟรีจริงหรือ ?
Reporter Journey
อัพเดต 22 สิงหาคม 2568 เวลา 21.39 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • Reporter Journeyสุขภาพดี แท้จริงแล้วฟรีจริงหรือ ?
การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ
สุภาษิตโบราณที่เรามักจะได้ยินกันอย่างคุ้นหูในสังคมไทย สุภาษิตคำสอนที่สะท้อนความจริงที่ไม่เคยล้าสมัย ไม่ว่าใครก็ตามไม่สามารถปฏิเสธความจริงที่ว่าได้ สิ่งสำคัญขั้นพื้นฐานของชีวิตมนุษย์ คือ การมีสุขภาพกายที่แข็งแรงและมีสุขภาพจิตที่ดี เพราะการที่ปราศจากโรคทั้งทางกายและจิตใจช่วยทำให้การดำรงชีวิตประจำวัน การทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตเป็นไปอย่างมีคุณภาพ หากสุขภาพกายและใจเจ็บป่วย ส่งผลให้แม้แต่การดำเนินชีวิตประจำวันทั่วไปอย่างการเดิน นั่ง กิน นอน กลับกลายเป็นเรื่องที่ยากลำบากได้ ดังนั้น การทำสุขภาพร่างกายให้ดีพร้อมทั้งทางร่างกายและจิตใจจึงเป็นเรื่องสำคัญ
หลายคนคิดว่าการมีสุขภาพดีต้องจ่ายแพง… แต่
ออกกำลังกาย = ฟรี
นอนพักผ่อน = ฟรี
แสงแดด = ฟรี
ฝึกหายใจ (Breathwork) = ฟรี
มีสังคมและเพื่อนที่ดี = ฟรี
สุขภาพที่ดีสามารถเริ่มต้นได้ง่ายๆ จากตัวเราครับ
เป็นข้อความจากคุณท็อป จิรายุส ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารบริษัท Bitkub ในใจความของข้อความดังกล่าว กล่าวโดยสรุปว่า การดูแลสุขภาพสามารถทำได้ง่าย ๆ ปราศจากค่าใช้จ่ายใด ๆ ในการที่จะมีสุขภาพที่ดี
เมื่อโพสต์นี้ปรากฏบนหน้าสื่อโซเชียลมีเดีย ข้อความดังกล่าวเป็นที่ถูกพูดถึงในหลากหลายแง่มุม หลายคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยในประเด็นนี้ ผู้เขียนจึงเล็งเห็นว่าในเรื่องการดูแลสุขภาพมีหลายแง่มุมเกินกว่าที่มองในมิติเดียว
สุขภาพดีไม่จำเป็นต้องใช้เงิน ?
หลายคนเห็นด้วยและเชื่อว่า สุขภาพดีที่เกิดขึ้นได้โดยปราศจากค่าใช้จ่าย ในความเป็นจริงสุขภาพที่ดีเริ่มง่าย ๆ ได้ด้วยการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ การนอนหลับพักผ่อนอย่างมีคุณภาพสามารถช่วยฟื้นฟูความเหนื่อยล้าตลอดทั้งวัน
หรือแม้แต่สิ่งที่เราอาจมองข้ามไปอย่างการออกมารับแสงแดดยามเช้า อย่างที่ทราบกันดีแสงแดดยามเช้าอ่อน ๆ มีรังสี UVB ที่เมื่อร่างกายมนุษย์ได้รับจะสังเคราะห์ให้กลายวิตามินดี (Vitamin D) เป็นวิตามินที่สำคัญมีส่วนช่วยให้ระบบภูมิคุ้มทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในด้านของการออกกำลังกายก็เช่นกัน ปัจจุบันการออกกำลังกายไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เราสามารถออกกำลังกายได้ด้วยตนเองจากคลิปสอนฟรีที่มีอยู่มากมายในโลกอินเตอร์เน็ต โดยไม่จำเป็นต้องเสียค่าสมัครสมาชิกฟิตเนสหรือจ้างเทรนเนอร์ส่วนตัว การออกกำลังกายสามารถทำได้ทั้งที่บ้านหรือในพื้นที่สาธารณะ ถือเป็นการดูแลสุขภาพที่เข้าถึงได้ไม่ยาก
ท้ายที่สุดคือ “การเข้าสังคมและพบปะเพื่อน” สิ่งนี้เป็นองค์ประกอบสำคัญของสุขภาพเช่นกัน การมีเพื่อนและการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นก่อให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า การสนับสนุนทางสังคม (Social Support) ซึ่งทำให้เรารู้สึกมีคุณค่า ได้รับความรัก ความเข้าใจ และการได้รับความช่วยเหลือจากผู้อื่น ส่งผลโดยตรงต่อการมีสุขภาพจิตที่ดี
สิ่งเหล่านี้ทุกคนสามารถทำได้ฟรี และไม่เสียอะไรเลยจริงหรือ ?
หลายกิจกรรมที่เรามักคิดว่าเป็นเรื่องง่ายและทำได้ฟรี เช่น การนอนหลับ พักผ่อน ออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมเพื่อสุขภาพใด ๆ ก็ตาม ความจริงแล้วกลับไม่ได้ “ฟรี” อย่างแท้จริง ในแบบที่หลายคนคิด
เพราะทุกกิจกรรมจะมีสิ่งที่เรียกว่า ค่าใช้จ่ายแฝง โดยเฉพาะเรื่องของ “เวลา” ซึ่งเป็นทรัพยากรสำคัญที่ทุกคนต้องใช้ ตัวอย่างเช่น การนอนหลับที่ดูเหมือนจะเป็นสิ่งปกติที่ทุกคนปฏิบัติเป็นประจำ และไม่ต้องลงทุนอะไร แต่การนอนให้ครบ 8 ชั่วโมงอย่างมีคุณภาพนั้นไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนเข้าถึงได้ หลายคนต้องแลกเวลากับการตื่นเช้าเพื่อเดินทางไปทำงานไกลบ้าน หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการพักผ่อน ดังนั้นกิจกรรมพื้นฐานที่สุดอย่างการนอนยังมีต้นทุนที่ต้องจ่าย
ไม่เพียงเท่านั้น การออกกำลังกายซึ่งถือเป็นกิจกรรมเพื่อสุขภาพที่สำคัญ กลับกลายเป็นสิ่งที่คนจำนวนมากทำได้ยาก โดยจากผลการสำรวจข้อมูลการออกกำลังกาย เล่นกีฬาและนันทนาการของประชาชนประจำปี 2566 มีกลุ่มคนไทยที่เลือกจะไม่ออกกำลังกายด้วยเหตุผลที่ว่า “ไม่มีเวลา” เป็นจำนวนร้อยละ 72.32% ตัวเลขนี้สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่าเวลามีบทบาทอย่างมากในการตัดสินใจดูแลสุขภาพ ถึงแม้การออกกำลังกายจะไม่ต้องใช้เงินมากนัก แต่ถ้าหากไม่มีเวลาแล้ว กิจกรรมการดูแลสุขภาพก็จะเกิดขึ้นได้ยาก
แม้โลกจะหมุนด้วย 24 ชั่วโมงเท่ากันสำหรับทุกคน แต่ในความเป็นจริงแล้วกลับไม่มีใคร “มีเวลา” เท่ากัน ภาวะนี้ถูกเรียกว่า “ความยากจนทางเวลา” (Time Poverty) ซึ่งมักเกิดขึ้นกับผู้ที่ต้องทำงานหนักตลอดวัน เช่น พนักงานออฟฟิศที่เริ่มงานตั้งแต่เช้าตรู่ เลิกงานมืดค่ำ มิหนำซ้ำยังต้องเผื่อเวลาเดินทาง 24 ชั่วโมงหลายคนหมดเวลาไปกับการทำงานเพื่อหาเลี้ยงชีพ วัฏจักรแบบนี้ทำให้พวกเขาเหน็บเหนื่อยและไม่มีช่วงเวลาว่างสำหรับกิจกรรมการดูแลสุขภาพ เงื่อนไขชีวิตดังกล่าว ส่งผลให้ สุขภาพกายและใจค่อย ๆ ถูกบั่นทอนลงไปอย่างเลี่ยงไม่ได้
สุดท้ายนี้ แม้การดูแลสุขภาพจะไม่จำเป็นต้องใช้เงินเสมอไป แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกกิจกรรมที่เราทำเพื่อตัวเองล้วนแล้วแต่ต้องใช้ทรัพยากรบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเวลา แรงกายและแรงใจ การจะมีสุขภาพที่ดีจึงไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ได้ยากเสียจนทำไม่ได้ แต่ต้องรู้จักบริหารเวลาชีวิต เลือกใช้ทรัพยากรที่เรามีให้เกิดประโยชน์
นอกเหนือจากนี้โครงสร้างสังคมและเศรษฐกิจก็เป็นหนึ่งในเงื่อนไขที่สำคัญเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนมองว่าการลงทุนใส่ใจในสุขภาพยังเป็นสิ่งที่คุ้มค่าในการลงทุน เพราะถ้าเรามีสุขภาพที่ดี การทำกิจกรรมใด ๆ ก็จะส่งผลให้มีประสิทธิภาพ สุขภาพจึงเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่ควรมองข้ามเพราะสุขภาพเป็นพื้นฐานสำคัญของการมีคุณภาพชีวิตที่ดี
อ้างอิง
กรมสุขภาพจิต
การสำรวจข้อมูลการออกกำลังกาย เล่นกีฬาและนันทนาการของประชาชน ประจำปี 2566
UCLA Anderson School of Management