โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

SCB CIO ชี้โอกาสลงทุน เน้นหุ้น "สหรัฐฯ-ญี่ปุ่น-จีน" รับแรงกดดันเศรษฐกิจโลก

The Better

อัพเดต 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา • THE BETTER
SCB CIO ชี้โอกาสลงทุนท่ามกลางแรงกดดันเศรษฐกิจโลกจากภาษีนำเข้าสหรัฐฯ พอร์ตหลักเน้นหุ้นสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และจีน All-Shares ส่วนพอร์ตเสริมแนะหุ้นเกาหลีใต้และธีม AI

นายศรชัย สุเนต์ตา, CFA รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Wealth & Investment Product ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากมุมมองการลงทุนที่ SCB CIO แลกเปลี่ยนกับ BlackRock ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนระดับโลก พบว่า ภาพรวมเศรษฐกิจและการค้าโลก มีแนวโน้มเผชิญแรงกดดันจากการที่สหรัฐฯ ปรับขึ้นภาษีนำเข้าตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) กับประเทศคู่ค้าต่างๆ ในอัตราตั้งแต่ 10-50% และมีแผนเก็บภาษีนำเข้าตามกลุ่มสินค้า (Section 232) ซึ่งส่งผลให้อัตราภาษีนำเข้าโดยเฉลี่ยของสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้น สร้างแรงกดดันต่อเงินเฟ้อ ท่ามกลางตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวลง

โดยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ ในเดือน ก.ค. เพิ่มขึ้นเพียง 1.04 แสนตำแหน่ง ต่ำกว่าที่ตลาดคาด เพิ่มความท้าทายต่อการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) โดยตลาดคาดการณ์ว่า Fed จะปรับลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ โดยมีโอกาสลดดอกเบี้ย 25 bps ในการประชุมเดือน ก.ย. นี้

ในส่วนของ SCB CIO คาดว่า Fed มีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 1-2 ครั้งในช่วงที่เหลือของปีนี้ และอาจผ่อนคลายทางการเงินมากขึ้น หากตลาดแรงงานเริ่มส่งสัญญาณที่ชะลอลงชัดเจน แต่การปรับนโยบายอาจไม่รวดเร็วหรือยืดหยุ่นเท่าที่ควร โดยเฉพาะหากเงินเฟ้อยังสูง และยังมีแรงหนุนจากค่าแรงที่เติบโตต่อเนื่อง อีกทั้ง ยังมีปัจจัยความไม่แน่นอนด้านภาษีนำเข้าสหรัฐฯอยู่

ขณะที่ คาดว่า ประเทศต่างๆ เช่น สหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่น มีแนวโน้มออกมาตรการกระตุ้นทางการคลัง และขาดดุลงบประมาณเพิ่มสูงขึ้น โดยในส่วนของสหรัฐฯ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในกฎหมาย One Big Beautiful Bill (OBBBA) ซึ่งมีสาระสำคัญ ได้แก่ การขยายการลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพิ่มเติมสำหรับประกันสังคม เพิ่มเพดานการหักลดหย่อนภาษีมลรัฐและท้องถิ่น (SALT) ให้สิทธิประโยชน์ภาษีสำหรับทิปและค่าล่วงเวลา และเพิ่มข้อกำหนดการใช้จ่ายด้าน Medicaid เป็นต้น ซึ่งสำนักงานงบประมาณรัฐสภา (CBO) คาดว่า OBBBA จะเพิ่มหนี้สาธารณะอีก 3.4 ล้านล้านดอลลาร์ สรอ. ใน 10 ปีข้างหน้า จากเดิมมีหนี้สะสม 36 ล้านล้านดอลลาร์ สรอ. ขณะที่ ภาระดอกเบี้ยจ่ายรายเดือนของรัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมากกว่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์ สรอ.ตั้งแต่ต้นปี ทั้งนี้ OBBBA ยังรวมถึงการเพิ่มเพดานหนี้อีก 5 ล้านล้านดอลลาร์ สรอ. ซึ่งอาจเพิ่มความสามารถในการก่อหนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯ ไปอีกกว่า 2 ปี

ส่วนอีกประเด็นที่น่าสนใจ คือ กรณีที่ ประธานาธิบดี ทรัมป์ ลงนามบังคับใช้กฎหมาย GENIUS Act รับรองให้ stablecoin ใช้ชำระราคาได้ โดยมีเงื่อนไข คือ ผู้ออก stablecoin ต้องถือสินทรัพย์สำรอง 100% ในรูปสินทรัพย์สภาพคล่องดอลลาร์ สรอ. ที่คุณภาพสูง ซึ่งรวมถึง พันธบัตรสหรัฐฯ อายุไม่เกิน 93 วัน (T-bills) โดยคาดว่า หาก stablecoin ถูกใช้ในวงกว้าง จะหนุนการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์ และอุปทานบน T-bill ซึ่งผลโดยสุทธิ คาดช่วยกดดัน UST yield ตัวสั้น และช่วยบรรเทาปัญหาขาดดุลงบประมาณในสหรัฐฯ แม้ว่า ความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น อาจเพิ่มขึ้น ก็ตาม

ส่วนประเด็นการคลังในยุโรปนั้น คณะรัฐมนตรีเยอรมนีได้อนุมัติร่างงบประมาณปี 2569 ภายใต้กรอบการคลังถึงปี 2572 โดยตั้งเป้าการลงทุนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ควบคู่กับแผนกู้ยืมเพิ่มเป็น 3.8% ของ GDP เพื่อขับเคลื่อนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน และเสริมศักยภาพกลาโหม วงเงินใช้จ่ายรวม 520.5 พันล้านยูโร โดยเพิ่มการลงทุน 10% จากปี 2568 และ 55% จากปี 2567 โดย SCB CIO คาดการใช้จ่ายการคลังของเยอรมนีที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจยุโรป แม้อาจทำให้อัตราผลตอบพันธบัตรเยอรมนีระยะยาวเพิ่มสูงขึ้นจากการขาดดุลการคลัง

สำหรับคำแนะนำการลงทุนในเดือน ส.ค. 2568 ในส่วนของตราสารหนี้นั้น SCB CIO แนะนำลงทุนบนพันธบัตรรัฐบาลและหุ้นกู้เอกชนคุณภาพดี ระยะสั้นถึงกลาง ของสหรัฐฯ ซึ่งยังมีปัจจัยพื้นฐานที่ดีและช่วยลดความผันผวนของพอร์ตได้ แต่หลีกเลี่ยงพันธบัตรระยะยาว เนื่องจาก ส่วนชดเชยความเสี่ยงจากการลงทุนในพันธบัตรระยะยาว (Term premium) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ตามปัญหาหนี้สาธารณะ และการขาดดุลงบประมาณของสหรัฐฯ ที่หนุนให้ UST Yield ตัวยาวเพิ่มขึ้น

ในส่วนของตลาดหุ้น แนะนำลงทุนตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในพอร์ตหลัก จากการที่คาดว่า กำไรต่อหุ้น (EPS) ของบริษัทจดทะเบียนบน S&P500 ในปี 2568-2569 มีโอกาสปรับเพิ่มขึ้น ตามการเติบโตของบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงสุด 7 แห่งในตลาด (Mag 7) การผ่อนคลายกฎระเบียบ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่ หากรับความเสี่ยงได้ปานกลางค่อนข้างสูง แนะนำลงทุนเพิ่มเติม ดัชนี Nasdaq 100 และหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีโลก ในพอร์ตเสริมระยะสั้น เนื่องจาก มีหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวกับ AI ที่ได้รับแรงสนับสนุนจากการที่สหรัฐฯ ออก AI Action Plan เน้นการลดข้อจำกัดทางกฎระเบียบเพื่อเร่งการพัฒนา AI ของสหรัฐฯ ประกอบกับผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลรายใหญ่ในสหรัฐฯ (Hyperscalers) เช่น Meta, Microsoft, Alphabet และ Amazon ยังเพิ่มงบลงทุนบน AI อย่างต่อเนื่อง ส่วนผลประกอบการของบริษัทผู้ผลิตชิป เช่น TSMC และ SK Hynix ก็บ่งชี้ให้เห็นถึงการเดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน AI อย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ SCB CIO ยังแนะนำลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่น จากอัตราภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ที่ลดลงจากก่อนหน้า นโยบายการคลังที่ผ่อนคลายขึ้น และการปฏิรูปบรรษัทภิบาลที่คืบหน้า ตลาดหุ้นจีน All-share จากความหวังข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน และการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และตลาดหุ้นอินเดีย เนื่องจากได้รับผลกระทบต่อเศรษฐกิจจำกัดจากนโยบายภาษีนำเข้าสหรัฐฯ บนพอร์ตหลัก รวมทั้ง แนะนำลงทุนบนตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เนื่องจากมูลค่าที่ไม่แพง และคาดว่า EPS มีโอกาสเติบโต 16.6% ในปีนี้ และบนตลาดหุ้นจีน H-share จากความคืบหน้าของกระแส AI ในจีน บนพอร์ตเสริม ส่วนตลาดหุ้นไทย มองว่า ความน่าสนใจในการลงทุนน้อยกว่าตลาดหุ้นประเทศอื่น เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มชะลอตัวลงจากผลกระทบด้านภาษีนำเข้าที่สูงขึ้น ส่วนผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไทย ยังมีแนวโน้มถูกปรับประมาณลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ แนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในปีนี้อีก 1 ครั้ง เป็นปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจไทย ขณะเดียวกัน แนะนำให้ถือทองคำในพอร์ตหลัก เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ด้วย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก The Better

กองทัพบกส่งหลักฐานฟ้อง IOT มัดแน่น! กัมพูชาดักซุ่ม–ลอบวางระเบิดในเขตไทย

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

"ภูมิธรรม" ย้ำรัฐบาลไม่ทิ้งชายแดนไทย-กัมพูชา เร่งเยียวยา–ฟื้นฟูบ้านเรือนกว่า 3 แสนครัวเรือน

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

“รมว.พาณิชย์” พบหารือหอการค้า พร้อมผลักดันการเจรจาระหว่าง FTA ไทย – สหราชอาณาจักร

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

“ไฟไหม้ห้างดังย่านประตูน้ำ” ! นักท่องเที่ยว อพยพวุ่น !

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความหุ้น การลงทุนอื่น ๆ

ธนาคารไทยเครดิต เคียงข้างลูกค้าทุกคน ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง 0.25% ต่อปี

Wealthy Thai

คาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้าแกว่งกรอบ 1,215-1,285 จุด จับตาส่งออก-การเมืองไทย

The Bangkok Insight

"พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี" หลุดโผผู้ถือหุ้น TPL "เสี่ยสุระ" ยังกอดแน่น 20 ล้านหุ้น

Share2Trade

CIVIL คว้างานใหม่ 3,178 ลบ. รุกประมูลงานภาครัฐ–เอกชน กระจายพอร์ตลดความเสี่ยง

The Better

หาแบบไหน ให้เจอโอกาสสธุรกิจ | ลงทุนในบ้าน EP.03

ถามอีก กับอิก TAM-EIG

THIP โชว์รายได้ครึ่งปีแรก 68 ทะลุ 2,500 ลบ. เติบโต 34% บอร์ดเคาะจ่ายเงินปันผล 0.65 บ./หุ้น

The Better

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...