บุรีรัมย์ ระดมกำลัง จนท.หลายฝ่ายร่วม 100 พร้อมสุนัข k9 โดรนจับความร้อน ปูพรมล่า “โก๋ กวดขุนทด” นักโทษชายแหกคุก
ผู้ว่าฯ ผู้การฯ ตำรวจบุรีรัมย์ ระดมกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ราชทัณฑ์ หน่วยกู้ภัย กำนัน ผู้ใหญ่บ้านร่วม 100 นาย พร้อมสุนัข K9 จาก ตชด.21 โดรนจับความร้อนของเอกชนปูพรมล่า “โก๋ กวดขุนทด” นักโทษคดีลักขโมยชำแหละวัวชำแหละขายแหกคุก พร้อมตั้งรางวัลนำจับ 5 หมื่น
(3 ก.ค.68) นายปิยะ ปิจนำ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อม พล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ , นายกฤตภพ จันทร์ภูโดม ผู้บัญชาการเรือนจำกลางโคราช ปฏิบัติหน้าที่ผู้บัญชาการเรือนจำประธานเขต3 , นางสาววิยดา จั่นทอง ผู้บัญชาการเรือนจำบุรีรัมย์ ได้ลงพื้นที่ติดตามภารกิจค้นหา นักโทษชายโกวิทย์ กวดขุนทด” อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์ วัวของเกษตรกรในหลายพื้นที่ไปชำแหละขาย ที่หลบหนีออกจากเรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. โดยใช้ผ้าห่มมัดต่อกันเป็นเชือกแล้วปีนข้ามกำแพงเรือนจำหลบหนี ซึ่งหลังจากได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบบุคคลต้องสงสัยแต่งกายคล้ายนักโทษที่หลบหนีอยู่ใกล้กับศูนย์ราชการจังหวัด
ล่าสุดได้ระดมทั้งเจ้าหน้าตำรวจชุดสืบภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ทหารจาก มทบ.26 ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ และอาสากู้ภัย ร่วม 100 นาย ปิดล้อมป่าและชุมชนบริเวณหลังศูนย์ราชการจังหวัด เพื่อค้นหานักโทษที่หลบหนี นอกจากนี้ทางตำรวจ ตชด.21 ยังได้นำสุนัข k9 จำนวน 2 ตัว และภาคเอกชนนำโดรนจับความร้อนมามาช่วยภารกิจในการแกะรอยค้นหานักโทษชายที่หลบหนีด้วย
ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ระบุว่า หลังจากตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้รับการประสานจากเรือนจำว่ามีนักโทษหลบหนี และมีชาวบ้านแจ้งว่าพบบุคคลต้องสงสัย และเจอรอยเท้า บริเวณป่าหลังศูนย์ราชการจังหวัด ก็ได้สนธิกำลังค้นหา พร้อมวางกำลังปิดล้อมพื้นที่ พร้อมทั้งประสานขอกำลังสุนัข K9 จากกองกำกับการ ตชด. 21 มาร่วมแกะรอย และนำโดรนจับความร้อนมาสแกนพื้นที่ เพื่อค้นหานักโทษที่หลบหนีครั้งนี้ด้วย แต่ก็ยังไม่พบตัว
อย่างไรก็ตาม ก็มีการประกาศตั้งรางวัลนำจับ 50,000 บาท และจะมีการค้นหาต่อเนื่องจนกว่าจะพบตัว ซึ่งเบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุที่หลบหนีซึ่งหากได้ตัวแล้วก็จะนำไปสอบถามอีกครั้ง อย่างไรก็ตามก็ขอความร่วมมือประชาชนหากพบเห็นนักโทษที่หลบหนีจากเรือนจำ ก็ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าไปตรวจสอบและเข้าควบคุมตัวทันที
สำหรับนายโกวิทย์ หรือ "โก๋" เป็นหัวหน้าแก๊งที่ร่วมกับนายอำพรรณ หรือเบส อายุ 20 ปี (ลูกชาย) และนายจันทร์ หรือต่อ อายุ 43 ปี ชาวจังหวัดนครราชสีมา ตระเวนก่อเหตุลักขโมยวัวของเกษตรกรที่ผูกไส้ทุ่งนา และขังไว้ในคอกในหลายพื้นที่ นำไปชำแหละทั้งที่หน้าคอก และทั่งนา อย่างโหดเหี้ยมไม่เว้นกระทั่งวัวที่กำลังตั้งท้องแล้วเอาเครื่องในกับเนื้อไปวางขายที่เขียง. ทิ้งซากไว้ให้เจ้าของวัวจนเกษตรกรหวาดผวา
กระทั่งวันที่ 27 พ.ค.68 ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถสกัดจับผู้ก่อเหตุลักขโมยวัวได้ยกแก๊งทั้ง 3 คนพร้อมอุปกรณ์ที่ใช้กระทำความผิด จากนั้นพนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนส่งยังอัยการจังหวัด เพื่อส่งฟ้องศาล ซึ่งนายโกวิทย์ อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาล แต่ระหว่างฝากขังเพื่อรอการพิจารณาคดี ได้หลบหนีออกจากเรือนจำ