ปิดฉากสืบพยานโจทก์ “ทักษิณ” คดี ม.112 นัดสุดท้าย ศาลนัดต่อ 16 ก.ค.นี้
เมื่อวันที่ 3 ก.ค. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังศาลนัดสืบพยานโจทก์นัดสุดท้ายของคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 ความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีเมื่อปี 2558 นายทักษิณได้ให้สัมภาษณ์สื่อทีวีต่างประเทศ ประเทศเกาหลีใต้ พาดพิง ดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง โดยจำเลยให้การปฏิเสธ และได้รับการประกันตัว
โดยในวันนี้นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ เดินทางมายังศาลอาญาเวลาประมาณ 08.30 น.
ต่อมาเวลา 09.15 น. นายทักษิณได้เดินทางมายังศาลอาญาโดยใช้รถโรลส์-รอยซ์ สีกรมท่าคันเดียวกันกับที่เจ้าตัวใช้เดินทางออกจากศาลเมื่อวานนี้ (3 ก.ค.) ก่อนจอดส่งตัวนายทักษิณที่ด้านข้างอาคาร ส่วนในวันนี้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ก็เดินทางมาให้กำลังใจนายทักษิณเช่นเดิม แต่ได้หลบสื่อมวลชนขึ้นทางด้านข้างของศาลอาญาเช่นเดียวกับนายทักษิณ
ภายหลังจากการสืบพยานโจทก์ในช่วงเช้าเสร็จสิ้น นายทักษิณ ได้ให้รถโรลส์-รอยซ์ ซึ่งเป็นรถส่วนตัวไปรับบริเวณด้านข้างของศาล จากนั้นเมื่อขึ้นรถ นายทักษิณก็ออกจากศาลไปทันที โดยมีกลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่ง ไปรอยืนโบกมือให้กำลังใจอยู่ริมถนนรัชดาภิเษก แต่เนื่องจากนายทักษิณ เปลี่ยนรถ ไม่เหมือนสองวันที่ผ่านมา ทำให้มวลชนที่เดินทางมารอให้กำลังใจ ไม่มั่นใจว่ารถของนายทักษิณคือคันไหน ทำให้บางคนไม่ทันได้เห็นตอนรถของนายทักษิณผ่าน จึงยังรอนายทักษิณ กลับมาที่ศาลอีกครั้งในช่วงบ่าย
ต่อมาในเวลา 15.46 น. การไต่สวนพยานโจทก์ 3 นัดแรกเสร็จสิ้นลง และต่อมานายทักษิณก็ได้เดินทางออกจากศาลโดยทันที
นายวิญญัติ กล่าวภายหลังว่า วันนี้ได้สืบพยานโจทก์ทั้ง 3 นัด เสร็จสิ้นลงแล้วทั้ง 3 ปาก ฝ่ายโจทก์แถลงหมดพยาน หลังจากนี้จะเป็นการสืบพยานฝ่ายจำเลย ซึ่งทางจำเลยจะเริ่มสืบพยานวันที่ 15 ก.ค. แต่วันนัดตรงกันกับที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง ตนในฐานะทนายจึงแถลงขอเลื่อนการสืบพยานไป 1 นัด เป็นวันที่ 16 ก.ค. แทน เนื่องจากตนต้องไปว่าความที่ศาลดังกล่าว ซึ่งคดีนี้ตนเป็นฝ่ายว่าความและได้กราบเรียนศาล ซึ่งศาลก็อนุญาตให้เริ่มสืบพยานจำเลยวันที่ 16 ก.ค. โดยจำเลยได้เตรียมพยานไว้ 14 ปาก แต่เนื่องจากวันนัดหายไป 1 วัน จึงต้องมาปรึกษากันว่าจะยังใช้พยานจำนวนเดิมหรือไม่ และเราต้องบริหารการสืบพยานจำเลยให้อยู่ใน 3 นัด จากในตอนแรกการสืบพยานจำเลยจะมีทั้งหมด 4 นัด
เมื่อถามว่านายทักษิณทราบหรือไม่ว่ามีมวลชนเสื้อแดงมาให้กำลังใจ นายวิญญัติ กล่าวว่า นายทักษิณทราบและรู้สึกขอบคุณ แต่การลงไปพบปะ อาจจะเป็นไปด้วยความติดขัดในเรื่องการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย
เมื่อถามว่าจะมีการตัดสินในปีนี้หรือไม่ นายวิญญัติ กล่าวว่า ในส่วนนี้ ตนขอไม่ก้าวล่วงเรื่องที่ว่าศาลจะมีคำตัดสินในปีนี้หรือไม่
เมื่อถามว่าในนัดสุดท้ายของการสืบพยานจำเลย จะมีการแถลงปิดคดีหรือไม่ นายวิญญัติ กล่าวว่า จะใช้สิทธิทุกทาง และคาดว่าน่าจะมีการแถลงปิดคดี
เมื่อถามถึงการไต่สวนที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ เกี่ยวกับคดีชั้น 14 ในส่วนพยานกลุ่มแพทย์ ทางทนายได้เตรียมการอะไรไว้บ้าง นายวิญญัติ กล่าวว่า ตนได้ยื่นคำถามตามที่ศาลมีคำสั่ง ซึ่งได้ยื่นไปแล้วและต้องรอดูว่าศาลจะอนุญาตให้ถามในข้อใดบ้าง หากเป็นคำถามที่ซ้ำกับที่ศาลได้ถามพยาน ศาลก็คงไม่อนุญาตให้ถาม โดนพยานพรุ่งนี้คาดว่าน่าจะมีทั้งหมด 4-5 ปาก ที่เกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลราชทัณฑ์ น่าจะยังไม่ถึงกลุ่มแพทย์ของโรงพยาบาลตำรวจ
เมื่อถามว่านายทักษิณจะเดินทางไปในวันพรุ่งนี้ (4 มิ.ย.) หรือไม่ นายวิญญัติ กล่าวว่า นายทักษิณคงไม่ได้ไปในวันพรุ่งนี้ เพราะตนจะเป็นผู้ที่ไปแทน
เมื่อถามว่ามีความกังวลใจกับการไต่สวนคดีวันพรุ่งนี้ (4 ก.ค.) หรือไม่ นายวิญญัติ กล่าวว่า ตนไม่กังวลใจ และยืนยันว่าที่ผ่านมานายทักษิณป่วยและเข้าสู่กระบวนการรับโทษจริง มีการพิสูจน์ในหน่วยงานราชการอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าศาลจะมีดุลพินิจอย่างไรในเรื่องนี้ เนื่องจากศาลถือเอาคำร้องของผู้ร้องแม้จะเคยตีตกไป แต่ศาลก็เอาคำร้องนั้นมาเป็นข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ดังนั้นจึงต้องพิสูจน์ตามข้อกล่าวหาของนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ว่าเป็นความจริงหรือไม่ และศาลก็จะเรียกพยานที่เกี่ยวข้องมาสอบถาม ซึ่งเป็นไปตามระบบไต่สวน หลังจากนั้นศาลจึงใช้ดุลพินิจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง