‘เต้น ณัฐวุฒิ‘ วิเคราะห์สมมุติฐานการเมืองหาก ’อิ๊งค์‘ พ้นตำแหน่ง ถอดรหัสดีล’พรรคประชาชน-ภูมิใจไทย‘
เมื่อวันที่ 3 ก.ค. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า เป็นสิทธิ์โดยชอบของพรรคประชาชนที่จะเสนอทางออกของสถานการณ์ และเป็นธรรมดาที่จะมีคนแสดงความเห็น 1.ถ้านายกฯแพทองธารพ้นตำแหน่ง พรรคประชาชนพร้อมโหวตให้คุณอนุทิน หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเป็นนายกฯตามที่ดีลกันไว้ โดยพรรคประชาชนไม่เข้าร่วมรัฐบาล
2.ข้อเสนอนี้ไม่ใช่การโหวตให้คุณชัยเกษมจากพรรคเพื่อไทย เพราะคะแนนพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบันเพียงพออยู่แล้ว และตามข่าวพรรคอันดับ 2 รวมไทยสร้างชาติ เคยเสนอชื่อคุณชัยเกษมก่อนหน้านี้ จึงไม่มีเหตุที่จะถอนตัว
3.สมมติฐานนี้ต้องให้พรรคร่วมรัฐบาลของเพื่อไทยไปร่วมกับภูมิใจไทยทั้งหมด(เอาเข้าจริงไม่แน่ว่าจะไปหมด) พรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้านร่วมกับพรรคประชาชน เท่ากับฝ่ายค้านมี 284 เสียง และเกิดรัฐบาลเสียงข้างน้อย 211 เสียง
4.แกนนำรัฐบาลพรรคภูมิใจไทยมี 69 เสียง อันดับ 2 รวมไทยสร้างชาติ 36 เสียง อันดับ 3 กล้าธรรม 30 ++ พรรคอันดับ 2 และ 3 จะมีอิทธิพลมาก อำนาจต่อรองสูง เสถียรภาพของรัฐบาลที่เป็นเป้าหมายสำคัญของดีลนี้ เป็นไปไม่ได้
5.แม้จะมีเงื่อนไขให้รัฐบาลภูมิใจไทยทำตาม ทั้งเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ คลี่คลายสถานการณ์กัมพูชา ซึ่งผมเห็นด้วย หากบิดพลิ้วจะใช้เสียงพรรคประชาชนคว่ำ แต่ระยะเวลา 6 เดือนก่อนยุบสภาสิ้นปี จะบังคับให้ภูมิใจไทยทำแต่เรื่องเหล่านี้ได้จริงหรือไม่ เพราะการถืออำนาจบริหารกำกับกระทรวงต่างๆย่อมต้องทำเรื่องอื่นด้วย หากเกิดความไม่ชอบมาพากล พรรคแกนนำฝ่ายค้านซึ่งต้องคอยโหวตประคองรัฐบาลจะทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างไร
6.ดูเหมือนคดีฮั้วสว.จะเป็นเรื่องเล็กมากสำหรับพรรคประชาชน อภิปรายไม่ไว้วางใจคราวก่อนก็ไม่มีเรื่องนี้ และการเสนอดีลนี้ไม่น่าจะมีคดีฮั้วสว.เป็นองค์ประกอบในการพิจารณา ถ้าตั้งรัฐบาลภูมิใจไทยสำเร็จ มีคนจากพรรคการเมืองบางพรรคเป็นรมว.ยุติธรรม กำกับราชการ DSI ชะตากรรมของคดีฮั้วสว.ที่กำลังเดินหน้าจะเป็นอย่างไร
7.หากเพื่อไทยที่เป็นฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจว่าคนสำคัญในครม.เป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีฮั้วสว. มีหมายเรียกไปให้ปากคำ และอาจเป็นผู้ต้องหาในคดีอั้งยี่ที่ DSI กำลังทำอยู่ด้วย พรรคประชาชนจะกำหนดท่าทีอย่างไร เข้าใจเจตนาที่จะผ่าทางตัน แต่เสถียรภาพของทั้งรัฐบาล และการเมืองในภาพรวม จะไม่เกิดขึ้นจากดีลนี้