ผลการละเมิดคำปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์
“…ในโอกาสที่คณะรัฐมนตรีใหม่ได้มาถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ ข้าพเจ้าก็ขอแสดงความชื่นชมในความตั้งใจของทุกท่านที่จะปฏิบัติงาน โดยมีชาติบ้านเมืองเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
ประชาชนทุกคนต่างก็ต้องการความสุขและความมั่นคงปลอดภัย
การที่ท่านทั้งหลาย ซึ่งมีหน้าที่บริหารกิจการบ้านเมือง เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนได้ตั้งปณิธานไว้อย่างถูกต้อง ว่าจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด และประกาศปณิธานนั้นอย่างหนักแน่นเข้มแข็ง ก็จะเป็นการเพิ่มพูนกำลังใจให้แก่ตนเอง และเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนได้
ข้าพเจ้าจึงขอเอาใจช่วยทุกท่าน และขอให้ท่านปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรู้ความสามารถ และความคิดจิตใจที่เป็นสุจริต เพื่อนำพาชาติบ้านเมืองไปสู่ความเจริญมั่นคงอย่างยั่งยืน
ขออำนวยพรให้ทุกท่านปฏิบัติหน้าที่ได้ด้วยดี และมีความสุขความเจริญโดยทั่วกัน…”
พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชดำรัสแก่คณะรัฐมนตรีเป็นแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่ เมื่อวันที่ ๓ กรกฎาคม ที่ผ่านมา
๑๔ รัฐมนตรี รวมทั้ง “แพทองธาร ชินวัตร” เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน อันเป็นข้อบัญญัติตามรัฐธรรมนูญว่า ก่อนเข้ารับหน้าที่รัฐมนตรี รัฐมนตรีต้องถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์เสียก่อน
ย้ำกันบ่อยมากกับรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๖๑ เกี่ยวกับการถวายสัตย์ปฏิญาณตน เพราะนักการเมืองมักไม่ให้ความสำคัญกับ “คำถวายสัตย์ฯ”
ที่ผ่านมาเหมือนถวายสัตย์ฯ จบแล้วก็จบกัน
มองเป็นเพียงพิธีกรรมก่อนเข้าสู่อำนาจเท่านั้น
คำถวายสัตย์ฯ ที่รัฐมนตรีต้องเปล่งเสียงเฉพาะพระพักตร์
"…ข้าพระพุทธเจ้า (ชื่อผู้ปฏิญาณ) ขอถวายสัตย์ปฏิญาณว่า ข้าพระพุทธเจ้าจะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ…"
จะเห็นว่าพระราชดำรัสบางช่วงบางตอน ระบุถึงอุดมการณ์ทางการเมืองที่นักการเมืองทุกคนพึงมี นั่นคือ “ความซื่อสัตย์สุจริต”
และคำปฏิญาณตน ก็เน้นเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต
แต่..นักการเมืองไทยยังมีปัญหา “ไม่สุจริต” อย่างกว้างขวาง
๑๔ รัฐมนตรีที่เข้าถวายสัตย์ฯ ก็ใช่ว่าจะสุจริตกันทุกคน
โดยเฉพาะ “แพทองธาร” ถูกตั้งคำถามจากทุกฝ่ายว่า มีความซื่อสัตย์สุจริต ทำเพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน จริงหรือไม่
อีกทั้งการเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนในครั้งนี้จะมีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายตามมาอีกหรือไม่ เพราะศาลรัฐธรรมนูญเพิ่งมีมติให้หยุดปฏิบัติหน้าที่
แต่ก็ดันทุรังจะรักษาอำนาจไว้
ถาม AI ให้ช่วยหาความหมายและผลของการละเมิดคำปฏิญาณตน ได้ความดังนี้ครับ
การละเมิดคำปฏิญาณตน หมายถึง การไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงหรือคำมั่นสัญญาที่ได้ให้ไว้ ไม่ว่าจะเป็นคำมั่นสัญญาต่อตนเอง หรือต่อผู้อื่น ซึ่งอาจมีผลทางกฎหมายหรือทางสังคม ขึ้นอยู่กับลักษณะของคำปฏิญาณนั้นๆ
การละเมิดคำปฏิญาณตนในรูปแบบต่างๆ :
การละเมิดคำปฏิญาณตนในทางกฎหมาย :
เช่น การผิดสัญญา การไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงในสัญญา หรือการกระทำที่ขัดต่อกฎหมาย หลังจากได้ให้คำมั่นสัญญาไว้
การละเมิดคำปฏิญาณตนในทางสังคม
เช่น การผิดสัญญาที่ให้ไว้กับเพื่อน ครอบครัว หรือสังคม การไม่รักษาคำพูด หรือการไม่ปฏิบัติตามจริยธรรมที่ควรจะเป็น
การละเมิดคำปฏิญาณตนในทางศาสนา
เช่น การไม่ปฏิบัติตามคำสอนหรือข้อห้ามทางศาสนา หลังจากได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะยึดถือปฏิบัติตาม
ผลของการละเมิดคำปฏิญาณตน
ความเสียหายทางกฎหมาย
อาจมีผลทางกฎหมาย เช่น การถูกฟ้องร้อง การถูกปรับ หรือการถูกจำคุก
ความเสียหายทางสังคม
อาจส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์กับผู้อื่น ความน่าเชื่อถือ หรือการยอมรับในสังคม
ความเสียหายทางจิตใจ
อาจส่งผลเสียต่อความรู้สึกผิดชอบชั่วดี การขาดความภาคภูมิใจในตนเอง หรือความรู้สึกละอายใจ
ตัวอย่างการละเมิดคำปฏิญาณตน
การไม่ส่งงานตามกำหนดเวลาที่ให้สัญญาไว้กับอาจารย์
การไม่รักษาสัญญาที่ให้ไว้กับเพื่อนว่าจะไม่บอกความลับ
การไม่ปฏิบัติตามคำสอนทางศาสนาที่ได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะยึดถือ
การไม่ปฏิบัติตามคำสาบานตนของข้าราชการที่ให้ไว้ว่าจะซื่อสัตย์สุจริต
สรุป
การละเมิดคำปฏิญาณตนเป็นเรื่องที่ไม่ควรกระทำ เพราะนอกจากจะส่งผลเสียต่อตนเองแล้ว ยังอาจส่งผลเสียต่อผู้อื่นและสังคมโดยรวม การรักษาสัญญาและคำมั่นสัญญาเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและสังคมที่น่าอยู่
ส่วนการละเมิดคำปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ หมายถึง การกระทำที่ไม่เป็นไปตามคำสัญญาที่ให้ไว้ต่อพระมหากษัตริย์ ซึ่งมักจะเป็นการละเมิดต่อรัฐธรรมนูญ หรือการไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต การละเมิดนี้อาจเกิดขึ้นได้หลายรูปแบบ เช่น การไม่ปฏิบัติตามคำถวายสัตย์ปฏิญาณ การกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ หรือการไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต
คำถวายสัตย์ปฏิญาณ
เป็นการให้คำมั่นสัญญาต่อพระมหากษัตริย์ว่าจะจงรักภักดี ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และรักษาไว้ซึ่งรัฐธรรมนูญ
การกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ
การละเมิดคำปฏิญาณอาจรวมถึงการกระทำที่ขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ
การไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต
การทุจริตคอร์รัปชัน การใช้อำนาจโดยมิชอบ หรือการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่สุจริต ก็ถือเป็นการละเมิดคำปฏิญาณ
บทลงโทษ
การละเมิดคำปฏิญาณอาจมีบทลงโทษทางกฎหมาย หรืออาจนำไปสู่การถูกถอดถอนจากตำแหน่งหน้าที่
ตัวอย่าง
การที่คณะรัฐมนตรีถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ ถือเป็นการละเมิด
การที่ข้าราชการทุจริตคอร์รัปชัน ถือเป็นการละเมิดคำปฏิญาณที่จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต
การที่ผู้พิพากษาตัดสินคดีโดยไม่เป็นธรรม ถือเป็นการละเมิดคำปฏิญาณที่จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต
ความสำคัญ
การละเมิดคำปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ถือเป็นเรื่องร้ายแรง เพราะเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของสถาบัน และอาจนำไปสู่ความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมือง การปฏิบัติตามคำปฏิญาณจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบต่อประเทศชาติและประชาชน
ครับ…AI ยังกลั่นความคิดออกมาได้เลยว่า การละเมิดคำปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์จะนำไปสู่อะไร แม้จะแอบเหน็บ “ลุงตู่” อยู่บ้างก็ตามที
แต่นักการเมืองคิดไม่ได้ เพราะในหัวสมองมีแต่เรื่องผลประโยชน์
จะเชื่อหรือไม่ก็ตาม ที่ต้องหนี หรือไม่ก็ติดคุก หรือกำลังจะติดคุก ส่วนหนึ่งมาจากการไร้สัจจะ
และใน ๑๔ คนนี้ บางคนอนาคตคือคุก เพราะละเมิดคำปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์.