บันทึกหน้า 4
ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" www.thaipost.net ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา! ดันทุรังหามกันต่อไป ถึงเชิงตะกอนเมื่อไหร่ได้เผาจริง "แพทองธาร ชินวัตร" กลับเข้าทำเนียบรัฐบาลอีกครั้ง ในฐานะ "รมว.วัฒนธรรม" คนใหม่ หลังเข้าร่วมประชุม ครม.นัดพิเศษ ก็ดอดขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า เก็บของเพิ่มเติมจากเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ถือฤกษ์ 09.29 น. เข้ากระทรวง วธ. วันศุกร์นี้ ปิดหูปิดตาไม่สนเสียงเตือนดังลั่นทั้งประเทศ เชื่อแต่มือกฎหมายของพรรคอ้างไร้ปัญหาคุณสมบัติ ถ้าเก่งกฎหมายจริง ทำไมชะตากรรมนายกรัฐมนตรีของพรรคไทยรักไทย พลังประชาชน จนมาถึงเพื่อไทย จบไม่สวยสักคน
ทำเป็นศรีธนญชัยอ้างใช้ "ลุงตู่โมเดล" ทั้งที่เรื่องร้องเรียนการขาดคุณสมบัตินายกฯ ต่างกันสิ้นเชิง โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถูกร้องให้สิ้นสุดตำแหน่งตามมาตรา 170 วรรคสอง และมาตรา 158 วรรค 4 เรื่องระยะเวลาการดำรงตำแหน่งรวมแล้วเกิน 8 ปี ขณะที่ "นายกฯ อิ๊งค์" เป็นกรณีมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) มีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์ และ (5) ไม่มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ที่สำคัญตำแหน่ง รมว.กลาโหม ของ พล.อ.ประยุทธ์ มีมาตั้งแต่ ครม.ประยุทธ์ 2/1 ไม่ใช่รีบมาตั้ง ก่อนที่ศาลจะสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่อย่างที่ "อิ๊งค์" ทำ จะว่าไปก็แค่ต่อลมหายใจอีกเฮือก ต่อให้ถูลู่ถูกังอย่างไรก็รอดยาก
๐ หวิดล่ม! ประเดิมเปิดสภานัดแรก ถ้าไม่ชิงปิดประชุมก่อน "พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน" รองประธานสภาฯ คนที่ 1 น่าจะรู้ทางดีกว่าใคร เพราะสมัยเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้าน เจ้าตัวถูกตั้งฉายา "ตัวตึง" พอเห็นห้องประชุมโหรงเหรงทีไร ยกมือเสนอขอนับองค์ประชุมทันที คราวนี้โดนซะเอง เช็กเสียงในสภาล่าสุด มีทั้งหมด 495 คน ฝ่ายรัฐบาลประกอบด้วย 11 พรรค 256 เสียง ได้แก่ 1.เพื่อไทย 142 เสียง 2.รวมไทยสร้างชาติ 36 เสียง 3.กล้าธรรม 26 เสียง 4.ประชาธิปัตย์ 25 เสียง 5.ชาติไทยพัฒนา 10 เสียง 6.ประชาชาติ 9 เสียง 7.ชาติพัฒนา 3 เสียง 8.ไทรวมพลัง 2 เสียง 9.เสรีรวมไทย 1 เสียง 10.ประชาธิปไตยใหม่ 1 เสียง และ 11.ไทยก้าวหน้า 1 เสียง ส่วนฝ่ายค้าน 5 พรรค มี 239 เสียง ได้แก่ 1.ประชาชน 143 เสียง 2.ภูมิใจไทย 69 เสียง 3.พลังประชารัฐ 20 เสียง 4.ไทยสร้างไทย 6 เสียง 5.เป็นธรรม 1 เสียง เรียกว่าห่างกัน 17 เสียง แต่ถ้ารวมงูเห่าด้วยจะมีเพิ่มอีก 7 เสียง คือ งูเห่าส้ม กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส.ชลบุรี และกาญจนา จังหวะ จากพรรคลุงป้อม เลื้อยไปมุดรังกล้าธรรมทั้งคู่ ส่วนไทยสร้างไทย มี 5 ตัว รัฐบาลเลยตบรางวัลให้ "ฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์" ลูกชายฐากร ตันฑสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อและอดีตเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย นั่งเก้าอี้ รมช.พาณิชย์ มีเพียง ชัชวาล แพทยาไทย สส.ร้อยเอ็ด ที่ประกาศตัวยังเป็น สส.ฝ่ายค้าน บวกลบคูณหารแล้ว เสียงรัฐบาลจากเดิมแน่นปึ้ก 324 เสียง เวลานี้เหลือราว 263 เสียง ปริ่มน้ำขนาดนี้ วิปรัฐบาลเหนื่อยหนักแน่ ห้ามป่วยห้ามตายก็เอาไม่อยู่ จะว่าไป "ครม.อิ๊งค์ 2" ที่ไร้หัว อยู่ได้ไม่นานหรอก แค่นับวันถอยหลัง รอศาลปิดฉากเท่านั้นเอง
๐ ยังมุดอยู่กระดอง "ทักษิณ ชินวัตร" โผล่ขึ้นศาล 3 วันติด แต่หนีหน้าสื่อตลอด มีเปลี่ยนรถขาไปขากลับหลอกอีกต่างหาก เมื่อวันพฤหัสฯ ถึงขั้นนั่งรถกันกระสุน ยิ่งเงียบเท่าไหร่ยิ่งผิดปกติเท่านั้น จากที่เคยพูดปากแจ๋ว สทร.ได้ทุกเรื่อง พอถึงคราวเรื่องตัวเองกับลูกสาวสุดเลิฟ น้ำท่วมปากซะงั้น ราวกับโดนน้องทูนหัว "ฮุน เซน" บีบกล่องดวงใจก็ไม่ปาน ทั้งที่เขาตัดหัวลูกอิ๊งค์เสียบประจานฉาวไปทั่วโลก หนำซ้ำยังออกมาขย่มเหยียบซ้ำทุกวี่วัน ไม่เป็นไรเวลานี้ยังมีอิสรภาพให้ทำสิ่งที่อยากทำได้อยู่ แต่วันไหนที่คำพิพากษาออกมาเมื่อไหร่ วันนั้นจะได้ไปชดใช้กรรมในซังเตเสียที ถึงคดี 112 ยังใช้เวลาอีกนาน แต่อย่าลืมว่าคดีชั้น 14 ใกล้งวดขึ้นทุกที วันศุกร์นี้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เริ่มนัดไต่สวนพยานกลุ่มแพทย์ที่เกี่ยวข้อง อย่าง พญ.รวมทิพย์ สุภานันท์ นพ.ณัฐพร แพทย์ประจำโรงพยาบาลราชทัณฑ์ จากนั้นวันที่ 8 ก.ค. เจ้าหน้าที่พัศดีและเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ซึ่งมีนายสัญญา วงศ์หินกอง พัศดีเวรประจำเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ส่วนวันที่ 15 ผู้บริหารโรงพยาบาลราชทัณฑ์และผู้บริหารเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในจำนวนนี้มีนายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์คนปัจจุบันด้วย หลังจากศาลนัดไต่สวนอีก 3 นัด วันที่ 18, 25, 30 ก.ค. ตอนนี้สองพ่อลูกชะตาอยู่ในกำมือศาล ลุ้นระทึกทุกนาที ใครจะไปก่อนกัน หรือจะไปพร้อมกันก็เอา.
ลี้คิมฮวง