9 ทันโลก : เมื่อ “ฮุน เซน” อ้างว่ากัมพูชาเป็นเหยื่อสแกมเมอร์
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 28 มิถุนายน 2568 เวลา 4.07 น. • เผยแพร่ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมท27 มิ.ย. – การแถลงของนายฮุน เซน วันนี้ เขาได้กล่าวถึงไทยว่าเป็นต้นตอของอาชญากรรมออนไลน์ รายงาน 9 ทันโลก จะพาไปสำรวจข้อมูล หลักฐานและพยาน ถึงข้อเท็จจริงเรื่องนี้
จากคำกล่าวหาและหลักฐานจากหลายฝ่ายที่ถาโถมใส่กัมพูชา ว่าเป็นแหล่งอาชญากรรมออนไลน์ และแก๊งหลอกลวงข้ามชาติ นายฮุน เซน ได้นำข้อกล่าวหานี้แย้งกลับมาใส่ไทย ว่าเป็นต้นตอทำให้กัมพูชากลายเป็นเหยื่อ
ผู้นำหมายเลขหนึ่งกัมพูชา ยกประเด็นที่กำลังถูกนานาชาติเพ่งเล็ง ตอบโต้แย้งคำกล่าวหา รายงานการศึกษาและการสืบสวนมากมาย เขาแถลงในวันนี้ว่ากัมพูชาเป็นเพียง “เหยื่อ” ของการหลอกลวงออนไลน์ ซึ่งมีต้นตอในไทยเป็นหลัก ดังนั้น จึงไม่ควรโทษผู้อื่น โดยเฉพาะเพื่อนบ้านกัมพูชา เรื่องปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ ไทยเป็นต้นเหตุจริงหรือ กัมพูชาหรือไทยใครเป็นเหยื่อ
ในช่วงหลายปีมานี้ กัมพูชาตกเป็นข่าวเรื่องศูนย์กลางการฉ้อโกงระดับโลก ธุรกิจมืด และธุรกิจสีเทา มีผู้ที่ตกเป็นเหยื่อในต่างแดน และถูกล่อลวงเข้าไปในกัมพูชา บังคับเป็นแรงงานหลอกลวงมากมาย หน่วยงานต่างๆ ออกโรงกระตุ้นเตือนมานาน เช่น สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ UNOCD เมื่อต้นปีที่แล้ว ที่ชี้ว่ากัมพูชาเป็นประเทศหนึ่งในเอเชียที่อาชญากรรมเติบโต จากกาสิโน ไปสู่การฟอกเงิน และอาชญากรรมหลอกหลวงข้ามชาติ
ในปีนี้ UNODC ได้ออกรายงานอีกฉบับเมื่อเดือนเมษายน ช่วงหลังจากที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเมียนมา เป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก ตีแผ่ว่าที่จริงกัมพูชา ศูนย์กลางอาชญากรรมที่ใหญ่ยิ่งกว่า
ต่อมาเมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง รายงานวิชาการให้ข้อมูลน่าตกใจว่าอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามชาติในกัมพูชา เคยทำรายได้สูงมากกว่าครึ่งหนึ่งของจีดีพีประเทศ
รายงานชื่อ นโยบาย และรูปแบบ อาชญากรรมข้ามชาติที่รัฐให้การสนับสนุนในกัมพูชาในฐานะภัยคุกคามความมั่นคงโลก ข้อมูลเจาะลึกลงไปอีกว่ากัมพูชาเป็นศูนย์กลางการฉ้อโกงอันดับหนึ่งของสแกมเมอร์ โดยมีพรรคการเมืองที่ครองอำนาจ บุคคลรายล้อมผู้นำโยงใยด้วยระบบอุปถัมภ์ เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์จากอาชญากร ตอกย้ำด้วยรายงานล่าสุดที่ออกมาเมื่อวานนี้เองขององค์กรนิรโทษกรรมสากล ออกรายงานตีแผ่การใช้แรงงานทาส การค้ามนุษย์ การใช้แรงงานเด็ก และการทรมาน โดยกลุ่มอาชญากรรมในศูนย์สแกมเมอร์กว่า 50 แห่งทั่วกัมพูชา
ไม่เพียงแต่ใช้ข้อมูลจากการสืบสวนตรวจสอบนาน 18 เดือน นิรโทษกรรมสากลยังเผยคำให้การผู้รอดชีวิตเผยสภาพที่เรียกว่าเหยื่อต้องกลายเป็นทรัพย์สินของคนอื่น หนึ่งในนั้นคือวัยรุ่นไทยมีนามสมมติว่า หลุยส์ แบ่งปันประสบการณ์เฉียดตายในเงื้อมมือของแก๊งหลอกลวงออนไลน์กัมพูชา
เขาถูกล่อลวงเข้าไปทำงานในกัมพูชา โดยไม่รู้ว่าต้องถูกกักขังและบังคับให้ไปหลอกลวงคนแปลกหน้า ไม่เช่นนั้นก็ต้องถูกทรมาน นานเกือบปีที่ต้องทุกข์ทนกับสภาพราวกับเรือนจำ ทำงานตั้งแต่เช้าถึงเที่ยงคืน ขังรวมกับเด็กๆ ที่บางคนอายุเพียง 13 ปี ทุกวันต้องถูกกลุ่มผู้คุมชาวจีน ที่มีกระบองไฟฟ้าเป็นเครื่องมือบีบบังคับ
จากเนื้อหารายงานของนิรโทษกรรมสากล ตรงกับสิ่งที่หลุยส์ต้องประสบมา รัฐบาลกัมพูชาปล่อยให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ไร้การสอบสวนการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตรวจสอบ และความช่วยเหลือเหยื่อ ในบางครั้งที่ทางการบุกทลายกลุ่มอาชญากรไซเบอร์จนช่วยเหลือเหยื่อออกมาได้บางส่วน แต่เป็นเพียงส่วนหน่อย 1 ใน 3 ที่เหลือลอยนวล รายงานกล่าวหาถึงขั้นหัวหน้าแก๊งคุมตำรวจได้
ด้านรัฐบาลกัมพูชาได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านี้ว่าเกินจริง และมีแนวทางอย่างที่นายฮุน เซน ได้แถลงวันนี้ว่ารัฐบาลมียุทธศาสตร์ระดับชาติ การปฏิรูปกฎหมาย และกลไกการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อจัดการกับการฉ้อโกงออนไลน์ การค้ามนุษย์ และการฟอกเงิน ปฏิเสธหลักฐานของหลายหน่วยงาน ว่ารัฐมีส่วนร่วมและสมคบคิดกับอาชญากร แล้วยืนยันว่ากัมพูชาเป็นเหยื่ออาชญากรไซเบอร์
แต่หลุยส์คือชาวไทย เป็นเพียงหนึ่งในชาวต่างชาติหลายคนที่ต้องตกเป็นเหยื่อ หากไม่ใช่ความกล้าหาญของเขาที่เสี่ยงโดดจากอาคาร เขาคงอาจะไม่มีชีวิตรอดมาถึงวันนี้ เขาย้ำว่าเพื่อความปลอดภัยและชีวิตของคุณ หากพลาดไปคุณจะไม่ได้กลับออกมาจากกัมพูชา.-สำนักข่าวไทย