THAI ปลื้มหุ้นรีเทิร์นเกินคาด เป้ารายได้ 4แสนล้าน ปี76

หุ้นวิชั่น - THAI คึกคักหลังหุ้นกลับเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ ราคาพุ่งเกินคาด เชื่อเป็นหุ้นคุณค่าน่าลงทุน ด้านแผนธุรกิจยังเดินหน้าเต็มสูบ ทั้งขยายฝูงบินแตะ 150 ลำในปี 2576 เร่งลงทุนศูนย์ซ่อมอากาศยานอู่ตะเภา พร้อมตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งตลาดสุวรรณภูมิแตะ 35% และผลักดันรายได้แตะ 4 แสนล้านบาทภายในปี 2576

นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI เปิดเผยว่า ถึงการที่ หุ้นการบินไทย หรือ THAI กลับเข้ามาซื้อขายในตลาดหุ้น นั้นรู้สึกดีใจมาก และการที่ราคาหุ้นเปิดซื้อขายถึง 10 บาทก็เกินกว่าความคาดหมาย ซึ่งหากเทียบกับอุตสาหกรรมหรือ Benchmark ทั้งในประเทศและต่างประเทศ คิดว่าผลประกอบการบริษัทก็ไม่ได้ด้อยกว่าบริษัทอื่นๆ และอาจจะดีกว่าด้วยซ้ำ อีกทั้งภาพตลาดหุ้นในช่วง 2 สัปดาป์ที่ผ่านมาก็มีการปรับตัวขึ้นถึงระดับ 1,200 จุด จากที่ปรับตัวลดลงไปกว่า 1,000 จุด ก็เป็นทิศทางที่ดีในการกลับมาซื้อขายในตลาดหุ้นช่วงนี้ และหุ้นการบินไทยก็เป็นหุ้นอีกตัวหนึ่งที่น่าจะเป็นการลงทุนที่ดีสำหรับนักลงทุนแบบวีไอ (Value Investor) ที่เข้ามาลงทุนได้

สำหรับแนวโน้มผลประกอบการที่ช่วงที่เหลือของปี ประเมินว่าแม้อาจจะเห็นตัวเลขของนักท่องเที่ยวที่ลดลงแต่ ขณะนี้ตลาดหลักของการบินไทยจะมาจาก ทวีปยุโรป ออสเตรเลีย และเส้นทางบินระหว่างประเทศในภูมิภาค รวมถึงเส้นทางบินไปประเทศจีนมีทั้งหมด 5 เมือง ซึ่งแต่ละเมืองมีแค่วันละ 1 ไฟล์ทบิน ซึ่งเป้าหมายผู้โดยสารหลัก เป็นกลุ่มนักธุรกิจส่วน จำนวนผู้โดยสารที่เป็นนักท่องเที่ยวนั้น มีสัดส่วนที่น้อยมากหรือมีสัดส่วนรายได้เพียง 5% ของรายได้รวม จึงทำให้ได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวจีนไม่มาก

ส่วนผลประกอบการทั้ง 2568 คาดว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยในครึ่งปีแรกสามารถทำได้ตามเป้าหมาย ส่วนครึ่งปีหลังพบว่ายอดจองเที่ยวบิน (Booking)ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงไฮซีซั่นปกติแล้วการบินไทยมีกำไรมาตลอดในช่วง 10 ไตรมาสติดต่อกัน ไม่ว่าจะเป็นช่วงโลซีซั่นหรือไฮซีซั่น จากช่วงก่อนหน้านี้ที่บริษัทไม่สามารถทำกำไรได้โดยเฉพาะช่วงไตรมาส 2-3 ซึ่งประสบปัญหามาโดยตลอด

ขณะเดียวกันบริษัทยังเดินหน้าในการขยายฝูงบินคาดวาปี 2576 จะมีจำนวนเครื่องบิน 150 ลำตามแผน รวมถึงวางเป้าหมายเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ในสนามบินสุวรรณภูมิเป็น 35% ภายในปี 72 จากปัจจุบันที่อยู่ระดับ 26% ดังนั้นคาดว่ารายได้จะทำได้ถึงระดับ 400,000 ล้านบาทในปี 2576 สำหรับเรื่องภาษีนำเข้าเครื่องบินนั้นปกติ เครื่องบินจะได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าอยู่แล้ว มีการได้รับสิทธิประโยชน์จาก BOI จากทุกประเทศ ดังนั้นแผนการสั่งเครื่องบินก็ยังเดินหน้าตามแผน โดยเครื่องบินแอร์บัส (Airbus) ลำตัวแคบจำนวน 32 ลำ ส่วนเครื่องบินโบอิง (Boeing) ลำแรกจะเริ่มเข้ามาในปี 2571 ซึ่งตั้งเป้าสัดส่วนเครื่องบินโบอิงจะเป็น 60% และ 40% เป็นเครื่องบินแอร์บัส ภายในปี 76 จากจำนวนฝูงบินทั้งหมด 150 ลำ

ด้านความคืบหน้าโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน (MRO) ที่สนามบินอู่ตะเภา ว่า ขณะนี้บริษัทได้รับจดหมายตอบรับจากสำนักงานเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยบริษัทพร้อมตอบรับเข้าร่วมลงทุนในโครงการดังกล่าวอย่างแน่นอน โครงการนี้มีมูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ภายในปี 2570 เนื่องจากยังต้องดำเนินการในส่วนของการออกแบบอาคารและจัดหาผู้รับเหมาก่อสร้างก่อน

สำหรับความร่วมมือกับบริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA ในพื้นที่โครงการ MRO ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือในหลายรูปแบบ ซึ่งอาจเป็นการใช้พื้นที่ร่วมกัน เนื่องจากพื้นที่รวมทั้งสิ้นราว 220 ไร่ โดย BA จะใช้พื้นที่ประมาณ 30 ไร่ ขณะที่ส่วนที่เหลือจะเป็นของการบินไทย ซึ่งมีฝูงบินจำนวนมากกว่า ทั้งนี้ โครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่สามารถใช้งานร่วมกันได้ แต่ในส่วนของรายได้จะมีการแยกดำเนินงานอย่างชัดเจนตามสัดส่วนการใช้งานของแต่ละบริษัท

รายงานโดย : ณัฏฐ์ชญา ปุริมปรัชญ์ภัทร บรรณาธิการข่าว Hoonvision