รีวิว Volvo EX30 Cross Country ไม่เกี่ยง EV แต่ชื่อนี้ต้องมีลุย

มาถึงยุคสมัยใหม่ของรถยนต์ไฟฟ้า EV เราเห็นชื่อ Cross Country กลับมาอีกครั้งกับเอสยูวีรุ่นเล็ก EX30 ซึ่งเมืองไทยนำเข้าจากจีนมาเปิดตัวในเดือนกรกฎาคมปีนี้

Volvo EX30 Cross Country มาในรุ่นมอเตอร์คู่ Performance ราคา 1.89 ล้านบาท ซึ่งเขาก็ตั้งราคาเท่ากับรุ่นปกติของ EX30 ตัวท็อป Twin Performance

ในแง่การขายเวอร์ชัน Cross Country ยอดอาจจะไม่เยอะเมื่อเทียบกับ Volvo EX30 รุ่นปกติ แต่ก็ถือเป็นรุ่นที่นำมาเพิ่มทางเลือก และสานต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ กับตระกูล Cross Country ที่คราวนี้มากับคอมแพกต์เอสยูวีพลังงานไฟฟ้า

เมื่อเทียบกับ Volvo EX30 รุ่นปกติ พบว่า Cross Country มี Ground Clearance สูงขึ้น 19 มม. ซึ่งมาจากการปรับตัวสปริง-แชสซีส์ 12 มม. และ 7 มม. มาจากสัดส่วนของยาง กล่าวคือในรุ่นปกติใช้ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้วเหมือนกัน แต่ใช้ยาง 245/45 R19 ส่วนรุ่น Cross Country เป็น 235/50 R19

นอกจากความสูงแล้ว วิศวกรสวีเดน ยังเพิ่มความโดดเด่นด้วยการแต้มแต่งสีดำให้รับกับความทะมัดทะแมงในหลายๆ จุด ทั้ง กระจังหน้า กันชน ขอบซุ้มล้อน้อยๆ ล้ออัลลอย และแผงประตูหลัง

ในส่วนกระจังหน้าสีดำด้าน ยังเซาะลายกราฟิกแสดงภาพภูมิประเทศของเทือกเขาเค็บเนอไคเซ ทางตอนเหนือของสวีเดน พร้อมตำแหน่งละติจูด ลองติจูด แสดงถึงความใส่ใจในรายละเอียดเพิ่มขึ้นไปอีก (ดังนั้น ซื้อรถไปแล้วก็ควรหาโอกาสขับไปที่เทือกเขานี้ด้วย)

สำหรับผมเอง คงไม่มีโอกาสไปถึงเทือกเขาเค็บเนอไคเซ แต่ได้ลองขับ Volvo EX30 Cross Country แถวๆ ร่มเกล้า สุวินทวงศ์ และเข้าไปเจิมสนามออฟโรดแบบปิดที่ทีมงานวอลโว่ คาร์ เนรมิตขึ้นมา

เอสยูวีความยาวแค่ 4.23 เมตร มีความคล่องตัว เรี่ยวแรงเหลือเฟือ เมื่อยกสูงขึ้นมาอีกเกือบ 2 เซนติเมตร เพิ่มระยะต่ำสุดจากพื้นเป็น 190 มิลลิเมตร พร้อมล้อ 19 นิ้ว ซีรีส์ยางเพิ่มขึ้น อาจจะพอเผื่อเหลือเผื่อขาด เวลาปีนผ่านอุปสรรคต่างๆ ไปจนถึงการลุยน้ำท่วมระดับหนึ่ง

EX30 Twin Performance Cross Country ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ โดยตัวหน้าให้กำลัง 156 แรงม้า หลัง 272 แรงม้า เป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อ และมีโหมดใหม่เข้ามาคือ Range ที่จะสั่งให้รถขับเคลื่อนล้อหลังเป็นหลัก เพื่อประหยัดพลังงานสูงสุด หรือก็เหมือนโหมด ECO ที่จะคอยควบคุมระบบแอร์ และการตอบสนองของคันเร่งด้วย

การลองขับในช่วงแรกบนถนนคอนกรีต สลับทางลาดยาง EX30 ถือเป็นเอสยูวีสมรรถนะสูง ยิ่งในโหมด Performance ปลดปล่อยพละกำลังมาให้เต็มๆ ตรรกะคือส่งแรงไปที่เพลาหลังมากกว่า เพลาหน้า เพื่อเสถียรภาพในการควบคุม ขณะที่อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ทำได้ 3.7 วินาที (EX30 Twin Performance รุ่นปกติ 3.6 วินาที)

อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกของผมยังชอบบาลานซ์ของ EX30 รุ่นปกติมากกว่า ทั้ง แรง แน่น ไดนามิกดี แต่พอเป็นรุ่น Cross Country แม้พลังยังดุดัน แต่การตอบสนองของช่วงล่างอาจจะยวบๆ กระโดกกระเดกไปนิด

สำหรับยาง Goodyear EfficientGrip Performance SUV 234/50 R19 ที่ติดมากับรถ เป็นยาง Highway Terrain แท้ๆ ครับ ช่วงขับทางดำ เนียบ กริ๊ป แต่พอเข้าไปสนามออฟโรด อาจจะโชคร้ายไปนิด เพราะจากแผนเดิมที่จะเจอกับทางลูกรัง ฝุ่นบางๆ แต่กลายเป็นวันนั้น โดนฝนกระหน่ำฉุ่มฉ่ำตั้งแต่เช้า จึงกลายเป็นทางโคลน ไม่ได้ใช้ประสิทธิภาพสูงสุดในสภาพแบบนี้

แต่ด้วยสมรรถนะและความฉลาดของรถ เขาก็พยายามทำให้เราผ่านทุกอุปสรรคไปได้ ซึ่งในความเป็นจริงอาจจะน้อยคน ที่ซื้อเอสยูวีวอลโว่ EV ราคาเกือบๆ 2 ล้านบาท ลงมาคลุกฝุ่น ลุยโคลน เพียงแต่การได้มาลองในลักษณะนี้ ทำให้เห็นว่ารถมันไปของมันได้ เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่จำเป็น

ขณะที่ชุดแพกแบตเตอรี่ NMC ความจุ 65 kWh ชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้งวิ่งได้ระยะทาง 490 กม. (NEDC) ซึ่งน้อยกว่า EX30 Twin Performance รุ่นปกติ ที่เคลมไว้ 520 กม.

รวบรัดตัดความ…สานต่อรถตระกูล Cross Country ที่เป็นไอคอนของแบรนด์วอลโว่ ด้วยเอสยูวีรุ่นเล็ก พลังงานไฟฟ้า 100% สมรรถนะสุดโหด มากับรูปโฉมที่ดุดัน การมาถึงของยุคสมัยใหม่ฉีกได้ทุกตำรายานยนต์จริงๆ ครับ

รีวิว Volvo EX30 Cross Country : กรกิต กสิคุณ