อาเซียนเร่งเจรจาลดภาษีตอบโต้สหรัฐฯ ก่อนเส้นตาย 1 ส.ค. ลุ้นรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจ
ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย และกัมพูชา คือกลุ่มประเทศที่ยังอยู่ระหว่างการเจรจาอย่างเข้มข้นในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ขณะที่เพื่อนบ้านอย่าง เวียดนาม อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ได้บรรลุข้อตกลงล่วงหน้าแล้ว
หากการเจรจาไม่สำเร็จภายในกำหนด ไทยและกัมพูชาอาจเผชิญภาษีสูงถึง 36% มาเลเซีย 25% และสิงคโปร์อย่างน้อย 15%
ความคืบหน้าในแต่ละประเทศ
• ฟิลิปปินส์ ลดภาษีจาก 20% เหลือ 19% พร้อมรับคำชื่นชมจากอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ในฐานะประเทศที่มอบ “ภาษีศูนย์” ให้กับสหรัฐฯ
• อินโดนีเซีย ตกลงลดภาษีนำเข้าหลายรายการ ส่งผลให้ภาษีตอบโต้ลดลงจาก 32% เหลือ 19%
• เวียดนาม เจรจาสำเร็จเช่นกัน โดยลดภาษีตอบโต้เหลือ 20% แม้ยังต้องเผชิญภาษีสูงถึง 40% สำหรับสินค้าขนส่งผ่าน
• สิงคโปร์ แม้เป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่ขาดดุลการค้ากับสหรัฐฯ แต่ยังต้องเผชิญความเสี่ยง หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงก่อนกำหนด อัตราภาษีจะเพิ่มจาก 10% เป็นอย่างน้อย 15% โดยรองนายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์กำลังเจรจาขอข้อยกเว้นเฉพาะกลุ่มสินค้าเภสัชภัณฑ์
• ไทย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคลังระบุว่าได้ยื่นข้อเสนอสุดท้ายแล้ว หวังลดภาษีตอบโต้เหลือ 20% สำหรับการส่งออกมูลค่า 5.5 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 18% ของการส่งออกทั้งหมดของไทยในปี 2024
• มาเลเซีย ยังอยู่ระหว่างการเจรจา โดยโฟกัสที่กลุ่มอุตสาหกรรมสำคัญอย่างอิเล็กทรอนิกส์ เซมิคอนดักเตอร์ และชิป
• กัมพูชา เผชิญความเสี่ยงสูง เนื่องจากส่งออกกว่า 40% ของมูลค่าทั้งหมดไปยังสหรัฐฯ หากไม่สามารถลดภาษีได้ อาจมีการย้ายฐานผลิตออกนอกประเทศ ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว ความยากจนเพิ่มขึ้น และเกิดการว่างงานในวงกว้าง
นักวิเคราะห์จากหลายฝ่ายเตือนว่า การเจรจาแบบรายประเทศอาจบั่นทอนเอกภาพของอาเซียน และกระทบต่อการค้าในภูมิภาคโดยรวมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
การเจรจาในช่วงสุดท้ายก่อนเส้นตาย 1 สิงหาคมนี้ จึงกลายเป็นบททดสอบสำคัญของพลังต่อรองของแต่ละประเทศ และความสามารถในการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจในภูมิภาค