3 โบรกฯ คาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งออกข้าง สหรัฐเตรียมปรับขึ้นภาษีกดดันตลาด
#ทันหุ้น-บล.ฟินันเซีย ไซรัส คาดว่าดัชนีหุ้นไทยจะแกว่ง Sideways ในกรอบ 1,110-1,120 จุด โดยภาพรวมยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน ตลาดยังจับตาดูพัฒนาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศต่างๆ รวมถึงไทย ก่อนถึง Deadline วันที่ 1 ส.ค.นี้ ล่าสุดทรัมป์ยืนยันว่าจะไม่ขยายเส้นตายออกไปอีก และขู่เก็บภาษีทองแดง 50%และการนำเข้ายา 200% ขณะที่ท่าทีของญี่ปุ่นก็มีแนวโน้มไม่ยอมประนีประนอมกับทรัมป์ง่ายนัก ทำให้ปัจจัยเรื่องภาษีการค้ายังคง Overhang ตลาดอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะมีพัฒนาการเชิงบวกเพิ่มเติม กรณีแย่ที่สุดหากไทยไม่สามารถลดอัตราภาษีลงได้จะส่งผลให้ประมาณการจีดีพีไทยปีนี้อาจโตต่ำเพียง 1% หรือน้อยกว่า ขณะที่ EPS มีโอกาสถูกปรับลงจาก 89.5 บาท ในปัจจุบันเหลือ 80-84 บาท
ด้านปัจจัยในประเทศล่าสุด ครม.มีมติถอนร่างกฏหมายสถาบันเทิงครบวงจรออกจากการพิจารณาในสภา แต่จะผลักดันกฏหมายนิรโทษกรรมแทน โดยภาพรวมคาดดัชนียังเคลื่อนไหวจำกัดระยะสั้น
ฝ่ายวิจัยแนะนำเก็งกำไรกลุ่มส่งออกช่วงปรับลงแรงจากความคาดหวังว่าท้ายที่สุดไทยจะสามารถเจรจากับสหรัฐและปรับลดอัตราภาษีลงได้ ขณะที่กลุ่ม Domestic และ Defensive Play คาดว่าจะเคลื่อนไหวได้แข็งแรงกว่าตลาด โดยเฉพาะหุ้นที่มีแนวโน้มกำไรไตรมาส 2/68 ถึงครึ่งหลังปีนี้ แข็งแกร่ง ซึ่งปัจจุบันอยู่ในช่วงเริ่มทยอย Preview ผลประกอบการ
บล.กสิกรไทย คาดดัชนีหุ้นไทยวันนี้มีแนวโน้มแกว่งตัว Sideway down อยู่ในกรอบ 1,000-1,120 จุด จากตลาดหุ้นไทยยังแวดล้อมด้วยปัจจัยลบ หลังสหรัฐได้ประกาศขึ้นอัตราภาษีกับไทยมากกว่าเพื่อนบ้าน และภาษีจะเริ่มมีผลในวันที่ 1 ส.ค.นี้ ในขณะเดียวกันการเมืองในประเทศยังคงไม่แน่นอนแม้ว่าเสร็จสิ้นการตั้งครม.ชุดใหม่ขึ้นมา แต่เสียงในสภาค่อนข้างปริ่มน้ำ อาจขส่งผลกระทบกับการพิจารณาร่างกฏหมายงบประมาณประจำปี 2569 ในขณะเดียวกัน ครม.มีมติเห็นชอบให้ถอนร่าง พ.ร.บ.สถาบันเทิงครบวงจร ตามข้อเสนอของกระทรวงการคลัง หลังมีการปรับครม.ใหม่โดยที่พรรคภูมิใจไทยได้ถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาลและแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วย ปัจจัยลบดังกล่าวอาจจำกัดการฟื้นตัวของดัชนีหุ้นไทย
ในส่วนของกลยุทธ์การลงทุน แนะนำหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะและพื้นฐานแกว่งอย่าง TRUE ซึ่งให้ราคาพื้นฐานที่ 13.16 บาท และหุ้น CPN ให้ราคาพื้นฐานที่ 65.00 บาท
บล.ดาโอ(ประเทศไทย) คาดตลาดหุ้นไทยวันนี้ดัชนีแกว่งกรอบแคบ ตลาดกำลังรอดูผลการพิจารณาของสหรัฐในเรื่องมาตรการภาษีกับไทย ขณะเดียวกันจีนเตือนสหรัฐอย่าชุดชนวนสงครามการค้า ด้านรมว.คลังสหรัฐ เตรียมเดินหน้าเจรจาการค้ากับจีนและญี่ปุ่นภายในไม่กี่สัปดาห์จากนี้ ซึ่งฝ่ายวิจัยจะให้ความสนใจกับการเจรจาการค้าของสองประเทศนี้ เนื่องจากผลจองการเจรจาจะมีบวกลบมาถึงการเจรจาของไทย และบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกด้วย
ขณะที่สถานการณ์ทางการเมืองของไทย ยังมีความไม่แน่นอนเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ลดทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุน และแรงซื้อยังไม่กลับเข้าตลาด ส่วนราคาน้ำมันกำลังเผชิญแรงกดดัน จากสงครามการค้าจะทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว ซึ่งจะเป็นปัจจัยจำกัดการปรับขึ้นของราคาจากความกังวลด้านอุปสงค์
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้