ย่าสุดทนหอบลูกหลานร้อง ‘ปวีณา’ โรงงานแท็งก์น้ำบาดาลสร้างมลพิษ
เมื่อวันที่ 14 ก.ค.2568 นางเอม (นามสมมุติ) อายุ 53 ปี พร้อมลูกชายและหลานชาย ได้เดินทางจากจ.เพชรบูรณ์ เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ที่มูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี หลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากโรงงานผลิตแท็งก์น้ำบาดาลที่ตั้งอยู่ข้างบ้าน
นางเอม เล่าว่า เป็นคนพื้นเพ อำเภอหนองไผ่ และอาศัยอยู่มาอย่างสงบสุขตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย แต่กว่า 5 ปีที่ผ่านมา ต้องทนทุกข์ทรมานจาก โรงงานผลิตแท็งก์น้ำบาดาล ที่มาเช่าที่ดินข้างเคียงประกอบกิจการ โดยโรงงานส่ง เสียงดัง จากการเคาะเหล็กตลอดทั้งวัน และสร้าง มลพิษ ทั้ง กลิ่นเหม็นจากสารเคมี และ ทินเนอร์ รวมถึง ฝุ่นละอองที่คละคลุ้ง ตั้งแต่เช้าจรดเย็น ทำให้คนในบ้านทั้ง 5 ชีวิต เจ็บป่วยเป็นประจำ และ สภาพจิตใจย่ำแย่ เพื่อนบ้านและญาติหลายคนถึงกับต้องย้ายหนีไปเพราะทนไม่ไหว แม้กระทั่งป้าซึ่งเป็นหญิงชราป่วยติดเตียงอยู่บ้านใกล้กันที่เคยร้องขอความเป็นธรรมด้วยกันก็เสียชีวิตไปแล้ว แต่ปัญหาก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข
นางเอม กล่าวว่า เคยร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีความคืบหน้า โดยก่อนหน้านี้เคยมีหน่วยงานเข้ามาตรวจสอบ แต่ทางโรงงานกลับรู้ล่วงหน้า จึงลดเสียงการผลิตและดูดฝุ่นไม่ให้ฟุ้งกระจาย แต่พอเจ้าหน้าที่กลับไป ก็กลับมาสร้างความเดือดร้อนเหมือนเดิม ต่อมาเดือนกันยายน 2567 ได้ร้องทุกข์ไปยัง ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอหนองไผ่ ซึ่งทางอำเภอได้เรียกตนและผู้ประกอบการโรงงานดังกล่าวมาไกล่เกลี่ยกัน โดยมีข้อสรุปว่า ตนจะยอมย้ายไปอยู่ที่อื่น และทางโรงงานตกลงจะซื้อบ้านพร้อมที่ดินของตนในราคา 900,000 บาท ภายใน 1 เดือน กำหนดตั้งแต่วันที่ 1-31 ต.ค. 2567 หากไม่สามารถซื้อได้ จะต้องย้ายสถานประกอบกิจการออกนอกพื้นที่
อย่างไรก็ตาม เวลาล่วงเลยมาเกือบปีแล้ว คู่กรณีก็ยังไม่ซื้อบ้านของตนและยังไม่มีการย้ายออกไป ซ้ำยังทำเป็นนิ่งเฉย ทำให้ตนและลูกหลานต้องใช้ชีวิตอย่างทุกข์ทรนต่อ และไม่รู้ว่าจะต้องเดือดร้อนไปอีกนานแค่ไหน จึงตัดสินใจมาร้องขอความช่วยเหลือจาก มูลนิธิปวีณาฯ
หลังจากรับเรื่อง นางปวีณา ได้แสดงความเห็นใจนางเอม และครอบครัว โดยเฉพาะเด็กเล็กๆ เป็นอย่างยิ่ง พร้อมกับได้ประสานไปยัง นายศรัณยู มีทองคำ ผวจ.เพชรบูรณ์ เพื่อขอให้ตรวจสอบว่าโรงงานดังกล่าวได้รับอนุญาตประกอบกิจการถูกต้องหรือไม่ และสร้างมลภาวะที่เป็นพิษหรือส่งเสียงดังเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ผู้เสียหาย
นอกจากนี้ นางปวีณา ยังได้ประสาน นายมาโนชญ์ คงรัตนชาติ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อลงพื้นที่ไปเยี่ยมบ้านดูแลสภาพจิตใจของครอบครัวนางเอม และจะพาผู้เสียหายไปพบ ผวจ.เพชรบูรณ์ในวันที่ 24 กรกฎาคมนี้ โดยเจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ ก็จะร่วมเดินทางไปด้วย มูลนิธิปวีณาฯ ยืนยันว่าจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป.