‘ปอ อรรณพ’ ผันตัวเป็นพ่อค้า ท้าชนวิกฤติเศรษฐกิจ ไม่หวั่นงานละครหด โอดรัก ‘แจ็คกี้’ ต้องลุ้นหนัก!
ผันตัวจากนักร้องนักแสดงสู่พ่อค้ามือใหม่เป็นที่เรียบร้อย สำหรับศิลปินหนุ่มอารมณ์ดี “ปอ อรรณพ” ที่ผันตัวมาเปิดร้านอาหารให้กับคุณพ่อได้โชว์ฝีมือในสิ่งที่รักอย่างเต็มที่ พร้อมลุยงานค้าขายแบบสุดตัว จนหลายคนอยากรู้เรื่องความรักว่า มีครบทุกอย่างแล้วและเมื่อไหร่จะมีหวานใจ
ล่าสุด หนุ่มปอ มาร่วมงาน งาน ลิ้นติดโปรแฟร์ ’68 อิ่มหนำสำราญ Food Hero ก็ได้เปิดใจถึงการหันมาทำธุรกิจอาหาร ขายขนมจีนแกงใต้ พร้อมเผยถึงงานในวงการบันเทิงที่เจอวิกฤตละครไทย รวมถึงอัปเดตความรักและความสัมพันธ์กับ “แจ็คกี้ ชาเคอลีน”
“วันนี้มาขายของ ก็เป็นพ่อค้ามือใหม่ครั้งแรกเลยมาเปิดร้านขาย ขนมจีนแกงใต้ เป็นสูตรของคุณพ่อ ซึ่งชื่อร้าน “ลุงแดงแกงใต้” คือตอนนี้เรามีรักอาหารใต้อยู่เปิดให้คุณพ่อทำแล้วอันนี้เป็นการออกบูธครั้งแรกของร้านเลยก็ชุลมุนอยู่บ้าง ก็เตรียมของมาขายวันแรกพอมาถึงเห็นบูธคนอื่นเขาสวยหมด ของเราคือหม้อกับขนมจีนแล้วก็แกงเท่านั้นเลย ก็เดี๋ยวค่อยๆ พัฒนาเดี๋ยวพรุ่งนี้เอาของมาเติมเพิ่ม”
การออกบูธครั้งนี้ตื่นเต้นมากเพราะจัดเตรียมไม่ทัน ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยได้ไปออกบูธที่ไหน ไม่เคยทำบูธขายของมาก่อนเลย กลัวว่าจะขายไม่ได้ก็เลยไม่กล้าทำมาเยอะ ถ้าใครมาเจอเราก็ช่วยซื้อกันได้ ปกติเราทำที่ร้านอย่างเดียวไม่เคยเดลิเวอรี่ ไม่เคยไปออกบูธที่อื่น อันนี้ก็เป็นครั้งแรกที่ร้านอาหารได้มาตามบูธตามห้าง ถามว่าคาดหวังแค่ไหน ก็ถือว่าเป็นการโปรโมตร้านไปในตัวด้วย ให้คนได้รู้ว่าเรามาทำตรงนี้แล้ว มีธุรกิจเกี่ยวกับอาหาร ก็หวังว่าทุกคนจะชอบฝีมือรสชาติอาหารฝีมือคุณพ่อเราครับ
ธุรกิจที่ร้านตอนนี้ก็ดีนะครับ ก็ทำมาประมาณ 4 เดือน ก็เต็ม 90 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าโอเค หลายๆคนก็ติดตามคุณพ่อแข่งมาสเตอร์เชฟ ลุงแดงใครจำพ่อเราได้ ลุงแดงแข่งมาสเตอร์เชฟ ตอนนี้ลุงแดงมาทำอาหารที่ร้านเรา ร้าน อรรณพ bkk สามารถตามไปกินที่ร้านได้ด้วย ก็จองโต๊ะไปได้ ซึ่งการบริหารยากมาก เราบอกเลยใครจะทำธุรกิจร้านอาหารคิดดีๆ ก่อน
ถามว่ารู้สึกไหมพอเราเปิดมา 4 เดือน ในช่วงที่เศรษฐกิจมันเริ่มถดถอยลงไปมากกว่าเดิม คือเปิดร้านอาหารในยุคนี้ เราว่าโจทย์มันก็ยากเหมือนกัน แต่เรายังประคองได้เพราะว่า เราก็ค่อนข้างจะเต็มที่กับมัน ช่วงแรกๆ มันยังวัดอะไรไม่ได้ ก็ต้องรอดูระยะยาวด้วยสำหรับ 4 เดือนนี้ มันก็ค่อนข้างดีเลย เพราะว่าอาจจะมีแรงซัพพอร์ตจากคนรู้จัก เพื่อนๆ ในวงการ จากพี่ๆ น้องๆ หลังจากนี้ก็ต้องรอดูว่าสุดท้ายแล้วระยะยาวเป็นยังไง แต่ว่าถ้าเราหากลุ่มลูกค้าตัวเองเจอ มีธีมชัดเจน มีรสชาติที่อร่อย มันก็จะเกิดการบอกต่อ คือ 4 เดือน คืนทุนยังไม่ได้ครึ่งนึงเลย เพราะว่าเรารีโนเวทร้านไปเยอะมาก ก็คิดว่าทำระยะยาว 5 ปี 10 ปี ก็เลยอาจจะยังไม่ได้คืนทุนในปีแรก ก็คิดไว้สัก 2 ปีคืนทุนก็โอเคแล้ว ของพ่อหลายล้านอยู่ ก็เป็นหลักล้านแต่ไม่ถึง 10 ล้าน”
หนุ่มปอ เผยต่อว่า "ถามว่าเรามองอันนี้คือธุรกิจในอนาคต คือจริงจังมาก แล้วนอกจากร้านข้างบนก็จะเป็น Rooftop bar เป็นบาร์ด้วยมันก็เลยอาจจะเยอะนิดนึง คุณพ่อทำแกงใต้ข้างล่าง คุณลูกก็เปิดบาร์อยู่ข้างบน ลูกก็เมาอยู่ข้างบนเลย ก็จะเป็น Cocktail bar ก็จะเป็นตรีมใต้เหมือนกัน เอาวัตถุดิบใต้มาทำ อย่างมะม่วงเบาเอามาทำเป็นค็อกเทล แกงเหลืองเอามาทำเป็นค็อกเทล ก็ต้องลองไปดูเพราะว่าเรามีความทำครีมให้มันลิ้งค์กับอาหาร ฝากร้าน อรรณพ bkk ก็เป็นร้านอาหารใต้สูตรคุณพ่อเรา ตั้งใจทำมากอยู่แถววัดบวร อยู่ตรงแยกสะพานวันชาติ ใกล้ๆ กับโรงเรียนสตรีวิทย์ ถนนพระสุเมรุเลย คือต่อจากวัดบวรที่จะไปออกผ่านฟ้า
การเปิดร้านในเศรษฐกิจแบบนี้ มันเป็นการท้าทายมากแล้วคู่แข่งเยอะด้วย มันก็เตรียมใจประมาณนึง แต่เราก็หาทางออกไว้คือ ด้วยเศรษฐกิจแบบนี้ประเทศไทยเป็นเมืองแห่งอาหาร นึกอะไรไม่ออกก็เปิดร้านอาหารเต็มไปหมด ก็พยายามจะประคองให้ได้ทำให้มันแตกต่าง แต่เศรษฐกิจนี้ก็ค่อนข้างยากเหมือนกัน เพราะว่าบางทีลูกค้าถามมาเยอะมากเลย แต่ว่าจะจองไม่ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ บางคนเขาก็คิดเยอะนิดนึงในเรื่องของการจับจ่ายใช้สอย แล้วถ้าเปิดร้านแต่ไม่มีลูกค้ามาท้อสิ ถ้าเปิดร้านแล้วไม่มีลูกค้ามาก็เครียดอยู่ ช่วงนี้ก็ยังถือว่ามีลูกค้าเข้ามาเรื่อยๆ ก็ยังโอเคเดี๋ยวต้องดูระยะยาวนิดนึง แต่ก็ไม่อยากให้ว่างมากันเรื่อยๆ เลย"
ศิลปินหนุ่ม เผยต่ออีกว่า "ตอนนี้ละครแต่ละช่องก็ไม่ค่อยได้เปิด ถามถึงผลกระทบต่อเรา คือเราไม่มีแล้วนะตอนนี้ ไม่มีถ่ายละครเลย ละครเป็นศูนย์เลย ก็เพิ่งจบไปเมื่อ 2 เดือนที่แล้วเรื่องหนึ่ง แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีเรื่องอะไรมาต่อ แล้วก็ยังไม่มีวี่แววด้วย ถามว่ารายได้เดือนนี้มีไหมจากวงการบันเทิง เดือนนี้มีรายได้ คือเรายังโชคดีที่เรามีรายการประจำ ยังมีอีเวนท์ร้องเพลงบ้าง แล้วยังมีออกรายการต่างๆ ที่แบบต่อเนื่อง คือถามว่าเยอะเท่าเมื่อก่อนไหมก็ไม่ เราก็ไม่ได้ถึงขั้นแบบไม่มีงานเลย
อย่างเมื่อก่อนตอนพีคๆ เดือนนึงก็เป็นล้านๆ ในช่วงที่แบบร้องเพลงเยอะๆ เศรษฐกิจดีๆ ลูกค้าจ้างไปงานบริษัท แต่ตอนนี้บางบริษัท อย่างเช่นงานเลี้ยงภายในเขาจะปีละ 2 ครั้ง เดี๋ยวนี้ก็ปีละครั้งหรือบางทีก็ไม่จัดเลย จากหลักล้านบางทีมันก็ลดลงไม่ถึงล้าน (เดือนนี้ถึงแสนไหม?) ถึงแสนๆ อย่างบางคนบอกไม่มีงานในวงการบันเทิงเลย เขาพูดเล่นหรือเปล่า แต่เขามีธุรกิจอื่นไง แต่งานบันเทิงถือว่าน้อยลง ต้องยอมรับว่ามันเป็นยุคที่ดาราก็ต้องไปหาทำอย่างอื่น ทำคอนเทนต์ออนไลน์เพิ่มขึ้น ทำธุรกิจต่างๆ ก็รู้สึกไม่ค่อยมั่นคงเท่าไหร่
ถามถึงความมั่นคง ตอนแรกคิดว่ามั่นคงไหมเข้ามาใหม่ๆ คือคิดว่าก็ประมาณนั้นพอได้ เพราะมีงานเรื่อยๆ เราไม่เคยหายไป 15 ปีแล้ว ไม่เคยไม่มีช่วงที่ไม่มีงานเลย แต่ปีนี้ละครก็น้อยแล้วไม่มี ก็แปลกๆ เพราะงานในห้างเดี๋ยวนี้ก็ไม่ค่อยจัดอีเวนท์หรือผลิตภัณฑ์ก็น้อยลง ก็แปลกๆ อยู่ช่วงนี้ ก็ต้องประคับประคองตัวเองหาอะไรทำอย่างอื่น ต้องสู้ถ้าไม่สู้ก็อดตาย ถามว่ายากไหมกับการอยู่วงการบันเทิงในเศรษฐกิจแบบนี้ เราว่ายากนะแต่ว่ามันก็ต้องไปให้ได้ ก็รู้สึกว่าไม่เครียดแต่วางแผนมากขึ้นในการใช้เงินในการจะซื้อนู่นนี่นั่น เหมือนเมื่อก่อนที่เราอยากได้อะไรก็ซื้อ เดี๋ยวนี้ก็คิดมากขึ้นจำเป็นไหม ถ้าไม่จำเป็นก็พักก่อน หรือว่าลงทุนทำอะไรถ้ายังไม่ชัวร์กับมันก็อย่าเพิ่งลงทุน เราก็มีการเตรียมตัวมาประมาณนึง เราอยากเปิดหลายอย่างมาก อย่างเปิดคาเฟ่ แต่ว่าเดี๋ยวรอดูปีนี้ก่อน รถไฟใต้ดินไม่รู้จะเสร็จเมื่อไหร่"
หนุ่มปอ เล่าต่อว่า "ส่วนเรื่องความรัก ไม่ได้บอกว่าพักแต่ยังไม่มีเข้ามา แล้วคือวันนั้นที่นักข่าวสัมภาษณ์ “แจ็คกี้ ชาเคอลีน” เขาบอกว่า อีกปีหนึ่งเขาจะแต่งงาน เขาบอกก็มีชื่อเราอยู่ในลิสต์ คือถ้ามันไม่มีใครก็เดี๋ยวว่ากัน ก็เดี๋ยวลองแตะๆ ดูก่อน ถามว่ากลัวไหมผีผลัก ถ้าผลักก็ผลักไปนานแล้ว มันชินแล้วด้วยความที่มันเป็นเพื่อนสนิทกันรู้ไส้รู้พุงกันหมด ต้องผีระดับยมทูต ผีทั่วไปไม่ได้แล้ว แต่ถ้าวันนึงโสดด้วยกันทั้งคู่แล้วหันมามองกันมันจะได้ไหม อันนี้เดี๋ยวต้องรอดูตอนนั้น ก็พยายามผลักหลังตัวเองกันอยู่ แต่มันเหมือนต้านมันยังยึกๆยักๆ เป็นสเต็ปที่เขาบอกไงเป็นลีลาศ ก็เป็นเพื่อนกัน”
คือต้องให้ลุ้นต่อไปหรือว่ายังไง แรงเชียร์มันมีผลไหม ถามจริงๆ ก็คือไม่ได้ฟังเสียงรอบข้างแล้วกัน สุดท้ายแล้วถ้าจะคบกันจริงๆ คนรอบข้างไม่ได้มาเสียใจด้วย ไม่มาเจ็บด้วย ดังนั้นก็ค่อยๆ ใช้เวลา เรารู้สึกว่าถ้าคนที่จะคบต่อไป มันอยากให้เป็นคนสุดท้ายหรือคบนานๆ ดังนั้นมันอาจจะอยากระยะยาวแล้ว ไม่อยากคบแล้วเลิก เดี๋ยวคนก็นั่งสมน้ำหน้าอีก บริหารธุรกิจไปด้วยกัน”