ทีมสุดซอยบุกค้นโรงงานในจังหวัดฉะเชิงเทรา ซุกกากพิษ 50,000 ตันฝังดิน พบข้อมูลจ่ายส่วยให้ข้าราชการ-นักการเมืองท้องถิ่น
วันนี้ (18 กรกฎาคม) เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้มอบหมายให้ ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และหัวหน้าชุดตรวจการณ์สุดซอย หรือ ทีมสุดซอย กระทรวงอุตสาหกรรม ลงพื้นที่ตรวจสอบ บริษัท เค.เอส.ดี. รีไซเคิล จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 83 หมู่ที่ 7 ตำบลหนองแหน อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งประกอบกิจการคัดแยกวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว โดยขยายผลจากกรณีลักลอบฝังขยะอุตสาหกรรมกว่า 50,000 ตัน
พร้อมลงพื้นที่ร่วมกับ กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ผู้แทนมูลนิธิบูรณนิเวศ และเจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา
เอกนัฏกล่าวว่า จากการขยายผลกรณีลักลอบฝังขยะอุตสาหกรรมจำนวนมาก ที่สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านที่อำเภอแปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทรา พบว่ามีการเชื่อมโยงมายังบริษัทฯ แห่งนี้ ซึ่งเป็นของบุคคลในครอบครัวเดียวกัน จึงส่งทีมงานมาตรวจสอบอย่างเร่งด่วน
ด้านฐิติภัสร์กล่าวว่า จากการตรวจสอบโรงงานพบเครื่องจักร และกองกากอุตสาหกรรมทั้งบนดินและฝังดิน มีลักษณะการประกอบกิจการคล้ายกับ จุดที่อำเภอแปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทรา คือเปิดบริษัทรีไซเคิลรับกำจัดกากอุตสาหกรรม แต่ไม่นำกากอุตสาหกรรมไปกำจัดให้ถูกต้อง ใช้วิธีกองเก็บไว้ และฝังกลบไว้ในที่ดินของตนเอง
จากการสอบสวนพบว่าเจ้าของบริษัทแห่งนี้ เป็นพ่อของเจ้าของที่ดินที่อำเภอแปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ขุดพบขยะพิษเกือบ 50,000 ตันไปก่อนหน้านี้ด้วย
อีกทั้งยังพบข้อมูลบัญชีการจ่ายเงินให้กับบุคคลต่างๆ ซึ่งรวมถึงนักการเมืองท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ตำรวจท้องถิ่น และข้าราชการ โดยจะทำการตรวจสอบเพิ่มเติมว่ามีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายสีเทาอื่นๆ อีกหรือไม่
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินคดีและแจ้งข้อหา ตั้งประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมเก็บตัวอย่างดินและน้ำในพื้นที่ส่งตรวจวิเคราะห์ หากผลปนเปื้อนเข้าข่ายเป็นของเสียที่เป็นวัตถุอันตราย เจ้าหน้าที่จะดำเนินคดีเพิ่มเติมข้อหาครอบครองวัตถุอันตราย
ฐิติภัสร์กล่าวว่า สิ่งที่น่าสังเกต คือ การที่ครอบครัวเดียวกันมีการประกอบกิจการที่ผิดกฎหมายเหมือนกัน จึงต้องเร่งสืบหาความเชื่อมโยงว่ามีเครือข่ายอื่นใดอีกหรือไม่ และมีการเชื่อมโยงกับเครือข่ายที่ลักลอบฝังหรือขนย้ายกากอุตสาหกรรมก่อนหน้านี้ด้วยหรือไม่ ที่สำคัญคือพบว่ามีหลักฐานการจ่ายส่วยอย่างชัดเจน ที่ต้องเร่งเอาผิดและจัดการกับผู้เกี่ยวข้อง ทั้งนักการเมือง ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ที่คอยปกป้องผู้กระทำผิดเหล่านี้เพื่อไม่ให้มีการเอาเยี่ยงอย่างในการช่วยเหลือผู้ประกอบการสีเทาเหล่านี้