หนุ่มสุดช้ำระแวงเพื่อนสนิทรองผอ.วิทยาลัยดัง ตีท้ายครัวแอบติดกล้องวงจรปิด เจอหลักฐานคาตา เตรียมร้องวินัย
อาจารย์วิทยาลัยดังสุดช้ำสงสัยภรรยาเป็นชู้รอง ผอ.แอบตั้งกล้องวงจรปิดเจอหลักฐานเด็ด เตรียมนำหลักฐานปรึกษาทนาย พร้อมเข้าร้องเรียนวินัยต้นสังกัด ฟ้องศาล
เมื่อเวลา 14.00 น วันที่ 1 สิงหาคม 68 ที่มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ถนนแจ้งวัฒนะ ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี นายเอ อายุ 52 ปี อาจารย์ ระดับ.ซี 8 สอนแผนกไฟฟ้า วิทยาลัยเทคนิคสุพรรณบุรี นำเอกสารหลักฐานต่างๆรวมทั้งภาพจากกล้องวงจรปิด เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ประธานมูลนิธิ เพื่อขอให้ช่วยเหลือ ให้ความเป็นธรรม หลังภรรยาของตนเองเป็นชู้กับรอง ผอ. ในวิทยาลัยที่ตนเองสอนหนังสือ ตนเสียใจ บางครั้งอยากคิดสั้นฆ่าตัวตาย หรือเอาปืนไปยิงรอง ผอ. คนนี้ที่เป็นเพื่อนรักและสนิทสนมกันมาหลายสิบปี แต่ด้วยความเป็นห่วงคุณแม่ของตนที่อายุเยอะแล้ว และลูกสาวอีก 3 คน ทำให้ตนต้องเก็บความกล้ำกลืนฝืนทนมานานหลายปี จึงตัดสินใจเดินทางมาร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากทางมูลนิธิ
นายเอ เล่าด้วยเสียงสั่นเครือว่า ตนเองอยู่กินจดทะเบียนสมรสกับภรรยามานานหลายสิบปีจนมีลูกสาวด้วยกัน 3 คน คนโตมีครอบครัวแล้ว คนรองกำลังเรียนหนังสืออยู่ในระดับมหาลัย ส่วน คนเล็ก อายุเพียง 10 ขวบเศษ มาเมื่อปี 65 ภรรยาตนมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปไม่ค่อยกลับบ้าน โดยภรรยาจะเปิดร้านขายของชำอยู่ภายในสหการของวิทยาลัยแห่งนี้ ตนสงสัยว่า รอง ผอ. ซึ่งเป็นเพื่อนรักกันสนิทกันมาหลายสิบปี น่าจะมีพฤติกรรม ที่มีความสัมพันธ์เกินเลยกับภรรยาของตน เพราะเห็นทั้งคู่มักพูดคุยสนิทสนม ตนจึงแอบติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ในร้านสหการขายของชำที่ภรรยาเปิดขายอยู่ในวิทยาลัย
จนกระทั่งพบว่าเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 68 รอง ผอ.รายนี้ ได้เข้ามาหาภรรยาของตนภายในร้านขายของชำ โดยมีพฤติกรรมที่เห็นในกล้องวงจรปิดคือ ทั้งสองคนพยายามหยอกล้อพูดคุย ต่อมาภรรยาได้เดินไปดูหน้าประตู ไม่เห็นว่ามีลูกค้าเป็นนักศึกษาเข้ามาใช้บริการ ภรรยาของตนเองจึงเดินมาหารอง ผอ.รายนี้ ก่อนเปิดเสื้อให้ดูหน้าอก แล้วทั้งสองคนเดินเข้าไปในมุมอับ จากนั้นรอง ผอ.ได้กอดจูบขยำก้นภรรยาตนเอง ซึ่งในคลิปใครเห็นก็รู้ว่าทั้งสองคน ต้องมีความสัมพันธ์เกินเลยกว่านี้อย่างแน่นอน
หลังเกิดเหตุตนพยายามคาดคั้นภรรยาซึ่งก็บอกว่าเป็นการหยอกล้อเล่นกัน ตนได้นำเรื่องไปร้องที่สำนักนายกรัฐมนตรี รวมทั้ง สำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา (สอศ.) แต่เรื่องก็เงียบหายเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตนเคยเข้าร้องเรียนกับ ผอ. ก็พูดแต่เพียงว่าให้ไปร้องหน่วยงานโดยตรง เพราะเรื่องที่เกิดขึ้น มันเสื่อมเสียกับทางวิทยาลัย ทุกวันนี้ตนกินไม่ได้นอนไม่หลับนอนร้องไห้ทุกคืน อยากเอาปืนไปยิงรองผอ.เพื่อนรักรายนี้ บางครั้งก็อยากคิดฆ่าตัวตาย สงสารเพียงลูกสาว 3 คน และแม่ของตนที่ยังแก่อายุ 80 กว่า จึงต้องเก็บความช้ำกล้ำกลืนมาตลอด ตั้งแต่ปี 65 จนอยากให้หน่วยงานต้นสังกัดลงโทษ รองผอ.รายนี้ ตามระเบียบวินัยของทางราชการ เพราะไม่อยากให้เขาไปทำแบบนี้กับคนอื่น ทั้งๆที่เขาก็มีภรรยาจดทะเบียนสมรสแต่ไม่มีลูกด้วยกัน อาจารย์เอ กล่าว
ขณะที่ทนายรณณรงค์ เผยว่า พฤติกรรมในลักษณะนี้ ไม่เพียงแต่กระทบศักดิ์ศรีของวิชาชีพครู แต่ยังส่งผลเสียต่อความเชื่อมั่นของประชาชนต่อระบบการศึกษา โดยเฉพาะเมื่อผู้บังคับบัญชา เพิกเฉย ไม่ยอมดำเนินการตามหน้าที่ ซึ่งอาจเข้าข่าย ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ส่วนผู้เสียหายคืออาจารย์ท่านนี้สามารถดำเนินเรียกร้องสิทธิ์ตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1516 ฟ้องชู้เรียกเงินค่าเสียหายได้เลยเยอะๆ เป็นถึงรอง ผอ.คงมีเงินแหละ ส่วนอีกเรื่องเราจะดำเนินคดีในเรื่องของวินัยข้าราชการครูเพราะเขาไปร้องเรียนเอาผิดทางวินัยแต่คณะกรรมการที่ตรวจสอบกับนิ่งทั้งๆที่ผ่านมา 3 เดือนแล้วไม่รู้ช่วยกันหรือเปล่าอาจารย์เขาก็ไม่ไหว อาการเขาแย่มากตอนนี้ มูลนิธิจะดำเนินการ 2 อย่างคือ 1.ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายส่วนแพ่งเรื่องเป็นชู้ที่ศาลครอบครัวจังหวัดสุพรรณบุรี 2. ดำเนินคดีเรื่องวินัยให้มีผลไล่ออกทันที ตนอยากให้หน่วยงานที่เป็นผู้บังคับบัญชาต้องมีคำสั่งออกมาอย่างใดอย่างหนึ่ง มูลนิธิฯ จึงขอเรียกร้องให้ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) กระทรวงศึกษาธิการ เร่งรัดการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยร้ายแรง และดำเนินการโดยเคร่งครัด เพื่อฟื้นฟูศรัทธาต่อระบบการศึกษาของไทยเรา
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO