‘โบลท์’ เผยคนยุคใหม่ไม่ยึดติด ยอมรับอาชีพ ‘ขับรถผ่านแอป'
ผลสำรวจล่าสุดโดย โบลท์ (Bolt)ร่วมกับ Kantar Insights Thailand ชี้ ผู้ขับขี่ส่วนใหญ่รู้สึกได้รับการยอมรับจากสังคม มีคุณค่าในอาชีพนี้ มีความยืดหยุ่นในการทำงาน และไม่ยึดติดกับภาพจำเดิมของอาชีพขับรถ
ณัฐดนย์ สุขศิริฐานันท์ ผู้จัดการทั่วไปประจำโบลท์ ประเทศไทย (Bolt Thailand) เผยผลสำรวจโดยโบลท์ (Bolt) ร่วมกับ คันทาร์ (Kantar Insights Thailand) ว่า ภาพจำแบบเดิมเกี่ยวกับอาชีพขับรถผ่านแพลตฟอร์ม ride-hailing ไม่สะท้อนความเป็นจริงในยุคปัจจุบันอีกต่อไป
โดยพบว่าผู้ขับที่ทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มดิจิทัลส่วนใหญ่รู้สึกว่าตนเองได้รับการยอมรับจากสังคมมากขึ้น มีอิสระในการกำหนดรูปแบบการทำงานของตนเอง และมองว่าอาชีพนี้เป็นทางเลือกที่สามารถสร้างความมั่นคงได้จริง
ข้อมูลระบุว่า 97% ของผู้ขับบนแพลตฟอร์มดิจิทัลรู้สึกว่าตนเองได้รับการยอมรับจากสังคม อีกทั้งกลุ่มคนที่ทำอาชีพนี้ยังมีความหลากหลายทั้งในด้านภูมิหลังและช่วงอายุ แม้ว่า 56% ของผู้ตอบแบบสอบถามจะเห็นว่าภาพจำของคนทั่วไปยังมองว่างานนี้ “เหมาะกับคนรุ่นใหม่เท่านั้น”
แต่ข้อเท็จจริงกลับสะท้อนตรงกันข้าม เพราะมีผู้ขับจำนวนมากที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป และครอบคลุมหลากหลายช่วงวัย ขณะเดียวกัน 43% ของผู้ตอบแบบสอบถามยอมรับว่ายังมีคนบางส่วนที่มองว่าอาชีพนี้เหมาะสำหรับผู้ไม่มีทักษะหรือการศึกษา แต่ในความเป็นจริง พบว่าผู้ขับจำนวนมากมีประสบการณ์จากงานประจำ หรือเคยประกอบอาชีพที่ต้องใช้ทักษะเฉพาะทางมาก่อน
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ขับขี่เลือกทำงานผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล คือความยืดหยุ่นและอิสระในการทำงาน ซึ่งผลสำรวจพบว่า 99% ระบุว่างานนี้ช่วยให้พวกเขาสามารถจัดสรรเวลาให้กับเรื่องส่วนตัวหรือครอบครัวได้ดีขึ้น, 88% กล่าวว่า พวกเขาสามารถควบคุมเวลาการทำงานของตนเองได้อย่างเต็มที่หรือในระดับมาก
ส่วนแรงจูงใจหลักที่ผู้ขับเลือกทำงานนี้ ได้แก่ ต้องการหารายได้เสริม (74%) อยากเป็นเจ้านายตัวเอง (53%) และต้องการชั่วโมงการทำงานที่ยืดหยุ่น (51%)
โบลท์มองว่านี่คือโอกาสสำคัญในการทบทวนและวางรากฐานระยะยาวด้านนโยบาย ที่สะท้อนความหลากหลาย ศักดิ์ศรี และมูลค่าทางเศรษฐกิจของอาชีพบนแพลตฟอร์มดิจิทัลอย่างเหมาะสมและทันสมัย
ผลสำรวจนี้สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่า อาชีพบนแพลตฟอร์มไม่เพียงได้รับการยอมรับจากสังคมเท่านั้น แต่ยังเป็นอาชีพที่ช่วยส่งเสริมศักยภาพและความมั่นคงในชีวิตให้กับผู้ขับอีกด้วย
ขณะที่ภาครัฐกำลังวางรากฐานการกำกับดูแลบริการเรียกรถในประเทศไทย สิ่งสำคัญคือการมีกฎระเบียบที่เอื้อต่อความยืดหยุ่นในการทำงาน นวัตกรรม และวิถีชีวิตของผู้ขับขี่หลายแสนรายทั่วประเทศ มากกว่าที่จะสร้างข้อจำกัดให้กับพวกเขา
ที่ผ่านมาผู้ขับจำนวนมากเลือกงานนี้เพราะมอบอิสระและความยืดหยุ่นในการดำเนินชีวิต กฎระเบียบจึงควรส่งเสริมคุณลักษณะเหล่านี้ ควบคู่ไปกับการสร้างความเชื่อมั่นในเรื่องความปลอดภัยให้กับสาธารณชน