ไม่ใช่เที่ยงคืนตรง! สะดุ้งผลวิจัย "นอนหลังเวลานี้" เสี่ยงตับแข็งพุ่ง 2 เท่า โรคร้ายรออยู่เพียบ
เตือนภัยคนชอบนอนดึก! นักวิจัยพบ “เสี่ยงโรคตับ” พุ่ง 2 เท่า หากเข้านอนหลังเที่ยงคืนครึ่ง
งานวิจัยล่าสุดจากวารสาร Health Data Science เผยข้อมูลชวนสะดุ้ง! การนอนหลับหลังเวลา 00:30 น. อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรค "ตับแข็ง" (Cirrhosis) ถึง 2.57 เท่า เมื่อเทียบกับผู้ที่เข้านอนในช่วงเวลา 23:00 – 23:30 น.
งานวิจัยเจาะลึกโดยนักวิทยาศาสตร์จีน การศึกษานำโดยมหาวิทยาลัยปักกิ่ง และมหาวิทยาลัยทหารการแพทย์จีน โดยวิเคราะห์พฤติกรรมการนอนของกลุ่มตัวอย่างจำนวน 88,461 คน เป็นระยะเวลากว่า 6.8 ปี เพื่อตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างเวลาเข้านอนกับความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ
ผลลัพธ์ชัดเจน
ผู้ที่เข้านอนหลัง 00:30 น. มีแนวโน้มเป็นโรคตับแข็งสูงกว่ากลุ่มนอนก่อนถึง 2.57 เท่า
กลุ่มที่นอนผิดเวลาเป็นประจำ ยังพบความเสี่ยงโรคอื่นเพิ่มขึ้น เช่น
พาร์กินสัน
โรคหัวใจและหลอดเลือด
เบาหวานชนิดที่ 2
โรคอ้วน
ปัญหาต่อมไทรอยด์
ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ ศาสตราจารย์ Shengfeng Wang หัวหน้าคณะวิจัย กล่าวว่า “เวลาเข้านอนมีผลต่อสุขภาพมากกว่าที่เราคิด พฤติกรรมนอนดึกทำให้วงจรนาฬิกาชีวิตรวน ส่งผลให้เกิดการอักเสบในร่างกาย และนำไปสู่ความเสี่ยงด้านสุขภาพในระยะยาว”
ในอดีตการนิยาม “การนอนหลับที่ดี” มักเน้นแค่จำนวนชั่วโมง แต่เขาเน้นว่าควรขยายความเข้าใจใหม่“ไม่ใช่แค่นอนให้พอ แต่ต้องนอนให้ตรงเวลา เพื่อให้นาฬิกาชีวิตทำงานสมดุล”
แล้วควรเข้านอนเมื่อไหร่? ศาสตราจารย์ Abhinav Singh จากองค์กร Sleep Foundation (แม้จะไม่ได้มีส่วนร่วมในงานวิจัยนี้) แนะนำว่า “ผู้ใหญ่ควรเข้านอนระหว่างเวลา 22:00 – 23:00 น. ซึ่งเป็นช่วงเหมาะสมที่สุดในการเข้าสู่ ‘ช่วงหลับลึกแบบ non-REM’ ที่ช่วยฟื้นฟูร่างกายและซ่อมแซมเซลล์ต่างๆ”
นอกจากนี้ เขายังเน้นว่าการเข้านอนและตื่นในเวลาเดิมทุกวัน เป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญในการรักษานาฬิกาชีวิต และลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง
การนอนดึก ไม่ใช่แค่เรื่อง "พักผ่อนไม่พอ" แต่เป็นพฤติกรรมที่อาจเร่งให้ร่างกายเสียสมดุล ก่อให้เกิดโรคเรื้อรังร้ายแรงโดยไม่รู้ตัว หากคุณอยากดูแลสุขภาพในระยะยาว อย่ารอให้ร่างกายเตือนก่อน เริ่มจาก “เข้านอนให้ตรงเวลา” ได้เลยคืนนี้