NEWS UPDATE: อาจารย์จุฬาฯ เตือนภัยโรคบาดทะยัก เด็ก 8 ขวบป่วยหนักหลังฉีดวัคซีนไม่ครบ
อาจารย์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กเตือนว่า โรคบาดทะยักยังไม่หายไปจากประเทศไทย พร้อมยกเคสเด็กชายวัย 8 ขวบที่ป่วยหลังไม่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ ย้ำผู้ปกครองอย่าชะล่าใจ เพราะโรคนี้อาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้รายงานจากเพจน้องหมอมีเคส ระบุว่า เด็กชายมีอาการปวดกราม กลืนน้ำลายไม่ได้ อ้าปากไม่ได้ ปวดหลัง เดินแข็งเกร็ง ตรวจพบภาวะกล้ามเนื้อแข็งเกร็งทั่วร่าง โดยเฉพาะบริเวณกรามและหลัง ซึ่งเป็นอาการเด่นของโรคบาดทะยักโรคบาดทะยัก (Tetanus) เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Clostridium tetani ที่เข้าสู่ร่างกายผ่านบาดแผล โดยผู้ป่วยมักเริ่มแสดงอาการเกร็งที่ใบหน้าและกรามก่อนจะลามไปยังคอ หลัง และแขนขา อาการรุนแรงสามารถทำให้หลังแอ่น หายใจลำบาก และเสียชีวิตได้เคสนี้พบว่าผู้ป่วยไม่ได้รับวัคซีนบาดทะยักครบตามเกณฑ์ ซึ่งตามกำหนดของประเทศไทย เด็กควรได้รับวัคซีนเมื่ออายุ 2, 4, 6 เดือน จากนั้นกระตุ้นอีกครั้งเมื่ออายุ 18 เดือน 4-6 ปี และควรมีการกระตุ้นซ้ำทุก 10 ปีตลอดชีวิตอาจารย์เจษฎาเน้นย้ำว่า บาดทะยักยังไม่หายไปไหน และเป็นโรคที่อันตราย พร้อมเตือนให้ผู้ปกครองพาบุตรหลานไปฉีดวัคซีนให้ครบตามเกณฑ์ อย่าปล่อยให้ความเข้าใจผิด หรือกระแสต่อต้านวัคซีนมาทำให้ลูกต้องเสี่ยงกับโรคร้ายที่สามารถป้องกันได้ง่ายๆ ด้วยการฉีดวัคซีนเท่านั้นอ้างอิงJessadaDenduangboripant