โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ใครจ่าย? ใครรอด? เมื่อ “ภัยพิบัติ” กำลังเขย่า ตลาดประกันภัยโลก

TNN ช่อง16

เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ภัยพิบัติทางธรรมชาติกำลังเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าของธุรกิจประกันภัยทั่วโลก เมื่อครึ่งแรกของปี 2025 มูลค่าความเสียหายจากไฟป่าและพายุถล่มพุ่งแตะระดับหลายล้านล้านบาท สหรัฐอเมริกาได้รับผลกระทบหนักที่สุด ในขณะที่บริษัทประกันภัยต้องเร่งปรับตัวรับมือกับความเสี่ยงที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมาเร็วขนาดนี้

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โลกได้เผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรงและถี่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นไฟป่า น้ำท่วม พายุ หรือคลื่นความร้อน ซึ่งหลายกรณีมีสาเหตุเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโดยตรง ปรากฏการณ์เหล่านี้ไม่ได้ส่งผลกระทบเพียงแค่ชีวิตและทรัพย์สินของผู้คนเท่านั้น แต่ยังเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของอุตสาหกรรมประกันภัยทั่วโลกอย่างมหาศาล

หนึ่งในผลกระทบหลักคือการเพิ่มขึ้นของความถี่และความรุนแรงของภัยพิบัติ ซึ่งทำให้บริษัทประกันภัยต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนในระดับที่สูงกว่าที่เคยเป็นมา ความสูญเสียที่ไม่อาจคาดการณ์ได้เหล่านี้ส่งผลให้ต้นทุนในการดำเนินธุรกิจของบริษัทประกันภัยพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้น เพื่อลดความเสี่ยงและรักษาเสถียรภาพทางการเงิน บริษัทประกันภัยจึงจำเป็นต้องปรับขึ้นเบี้ยประกันภัย แต่การขึ้นราคาดังกล่าวในบางกรณีกลับทำให้ลูกค้าจำนวนหนึ่งไม่สามารถเข้าถึงบริการประกันภัยได้ หรือเลือกที่จะไม่ต่อสัญญา นอกจากนี้ ในหลายพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ชายฝั่งทะเล พื้นที่ที่เกิดไฟป่าบ่อย หรือพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก บริษัทประกันภัยบางแห่งได้ตัดสินใจถอนตัวออกจากตลาด เนื่องจากประเมินว่าไม่สามารถรับมือกับความเสี่ยงได้อีกต่อไป

สถานการณ์นี้นำไปสู่สิ่งที่เรียกว่า “ความเป็นจริงใหม่ทางตลาด” (New Market Reality) ซึ่งหมายถึงการที่อุตสาหกรรมประกันภัยไม่สามารถดำเนินธุรกิจแบบเดิมได้อีกต่อไป บริษัทต่าง ๆ ต้องหันมาใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เพื่อประเมินความเสี่ยงได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น และพัฒนาแบบประกันภัยใหม่ ๆ ที่ยืดหยุ่นและเหมาะสมกับความเสี่ยงเฉพาะของแต่ละบุคคลหรือองค์กร

ในบางประเทศ รัฐบาลและบริษัทเอกชนเริ่มมีการจัดตั้งกองทุนร่วมรับความเสี่ยง หรือพัฒนาโมเดลการประกันภัยรูปแบบใหม่เพื่อให้ยังสามารถให้ความคุ้มครองแก่ประชาชนได้ แม้ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง

อย่างในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2025 โลกเผชิญกับภัยธรรมชาติรุนแรงอย่างไฟป่าและพายุ ซึ่งส่งผลให้บริษัทประกันภัยทั่วโลกต้องรับมือกับความเสียหายสูงเป็นประวัติการณ์ โดยมีมูลค่าความเสียหายจากการประกันภัยรวมกว่า 3.02 ล้านล้านบาท (ประมาณ 84,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ตามรายงานของบริษัทนายหน้าประกันภัย Gallagher Re ตัวเลขนี้นับเป็นครึ่งปีแรกที่มีความเสียหายสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2011 ซึ่งในปีนั้นยอดความเสียหายทั้งปีแตะระดับ 4.9 ล้านล้านบาท (ประมาณ 136,000 ล้านดอลลาร์)

แค่เฉพาะไฟป่าที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ เมื่อเดือนมกราคม 2025 ก็มีมูลค่าความเสียหายกว่า 1.44 ล้านล้านบาท (ประมาณ 40,000 ล้านดอลลาร์) ซึ่งคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของยอดรวมทั้งหมดทั่วโลก หนึ่งในเหตุการณ์ที่รุนแรงที่สุดคือ “ไฟป่าพาลิเซดส์” ที่ลุกลามตลอดถนนแปซิฟิกโคสต์ไฮเวย์ในรัฐแคลิฟอร์เนีย จนทำให้ชาวบ้านหลายหมื่นคนต้องตัดสินใจว่าจะสร้างบ้านใหม่หรือย้ายออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย

ด้านบริษัท State Farm General ซึ่งเป็นผู้ให้บริการประกันภัยรายใหญ่ที่สุดของรัฐแคลิฟอร์เนีย เปิดเผยว่าได้รับการเคลมมากกว่า 8,700 รายการ และได้จ่ายเงินชดเชยไปแล้วกว่า 36,000 ล้านบาท (ประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์) ส่งผลให้บริษัทต้องยื่นขอปรับขึ้นค่าเบี้ยประกันบ้านเฉลี่ย 22% ต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐอย่างเร่งด่วน

นอกจากนี้ พายุทอร์นาโด ลมแรง และลูกเห็บที่พัดถล่มภาคใต้และมิดเวสต์ของสหรัฐในช่วงกลางเดือนมีนาคม ก็สร้างความเสียหายรวมกว่า 1.18 ล้านล้านบาท (ประมาณ 33,000 ล้านดอลลาร์) โดยเฉพาะช่วงวันที่ 13-16 มีนาคม มีพายุรุนแรงต่อเนื่อง ซึ่งเพียงช่วงเวลาดังกล่าวก็สร้างความเสียหายให้ภาคประกันภัยกว่า 288,000 ล้านบาท (ประมาณ 8,000 ล้านดอลลาร์) นับเป็นเหตุพายุที่สร้างความเสียหายมากเป็นอันดับ 4 ในประวัติศาสตร์การประกันภัยของสหรัฐ

ในขณะที่สหรัฐแบกรับความเสียหายหลัก รายงานระบุว่าประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกมีมูลค่าความเสียหายจากการประกันภัยต่ำกว่าค่าเฉลี่ย โดยมียอดรวมไม่ถึง 360,000 ล้านบาท (ต่ำกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์) ซึ่งเป็นเพียงครั้งที่สองตั้งแต่ปี 2006 ที่ยอดความเสียหายทั่วโลก (ไม่รวมสหรัฐ) ลดต่ำกว่าหลัก 10,000 ล้านดอลลาร์ เหตุการณ์ที่ใหญ่ที่สุดนอกสหรัฐคือ แผ่นดินไหวในเมียนมาและประเทศไทยเมื่อเดือนเมษายน ซึ่งอาจสร้างความเสียหายสูงถึง 36,000 ล้านบาท (ประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์) หลังการประเมินและจ่ายเคลมเสร็จสิ้น

ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศได้กลายเป็นตัวเร่งสำคัญที่ผลักดันให้ธุรกิจประกันภัยต้องปรับตัวครั้งใหญ่ ทั้งในด้านการบริหารความเสี่ยง การกำหนดราคา และการให้บริการ ความท้าทายเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องชั่วคราว แต่คือความเป็นจริงใหม่ที่ทุกฝ่ายในอุตสาหกรรมต้องเผชิญและหาทางรับมืออย่างยั่งยืน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก TNN ช่อง16

รับมือพายุวิภา! ปภ.แจ้งเตือน Cell Broadcast "17 จังหวัด" เสี่ยงอุทกภัย-ดินถล่ม

18 นาทีที่แล้ว

เตือน! คนชอบกิน "หอยนางรมดิบ" เสี่ยงติดเชื้อในกระแสเลือด จากแบคทีเรีย "วิบริโอ"

34 นาทีที่แล้ว

"เลเซอร์ตุรกี" ทำให้ขีปนาวุธตาบอด ยุคใหม่ของสงคราม พลิกโฉมการรบทางอากาศ

38 นาทีที่แล้ว

WHO เผยอิสราเอลโจมตีที่พักเจ้าหน้าที่ของ WHO 3 ครั้งและจับตัวไปด้วย

39 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

อ.คฑา เตือน 3 ราศี ดวงการงานเสี่ยงพลาดเจอปะทะ ระวังอุบัติเหตุ

มุมข่าว

รัฐบาลเชิญชวนส่วนราชการและประชาชน สวมเสื้อสีเหลืองในเดือนมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

THE STANDARD

เจ้าอาวาสวัด แจงปมตีเณร เหตุทำวัตรไม่ทัน ยอมรับผิด สั่งไม่ให้พระลงโทษแบบนี้อีก

Khaosod

ตำรวจ ตรวจสอบสร้างพุทธอุทยาน-มจร. เอี่ยวเงินวัดนครสวรรค์

คมชัดลึกออนไลน์

บิ๊กเต่า เผย เจ้าอาวาสวัดม่วง ความจำเริ่มดีขึ้น รับเอาทองไปขายเอง

ข่าวช่องวัน 31

มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ มอบเครื่องวัดอุณหภูมิแบบอินฟาเรด แก่สภาสังคมสงเคราะห์ฯ

Khaosod

ครม.รับทราบผลประเมินคุณธรรม-ความโปร่งใสของหน่วยงานภาครัฐปีงบประมาณ 2567

Manager Online

ประวัติ พระราชวัชรพัฒนาทร เจ้าอาวาสวัดม่วง พระเถระผู้ใหญ่ นักธรรมชั้นเอก

Thaiger

ข่าวและบทความยอดนิยม

นาทีชีวิต กู้ภัยสหรัฐฯ ช่วยหญิงกลางน้ำท่วม

TNN ช่อง16

วิกฤตคลื่นความร้อนทางทะเล นักวิทย์ชี้ “สิ่งมีชีวิตเสี่ยงสูญพันธุ์”

TNN ช่อง16

“พายุวิภา” กระทบไทย แนะวิธีเตรียมรับมือน้ำท่วม เมื่อฝนตกหนักต่อเนื่อง

TNN ช่อง16
ดูเพิ่ม
Loading...