โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

‘เท้ง’ กลัวข่มเหงเขมร

ไทยโพสต์

อัพเดต 6 สิงหาคม 2568 เวลา 4.20 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ยังคงเป็นประเด็นต่อเนื่อง

เรื่องกอดหลักการของพรรคส้ม

วานนี้ (๕ สิงหาคม) “หัวหน้าเท้ง” แก้ข่าวเรื่องไปด่าโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ที่ไม่รับรักษาคนเขมร

“…ในช่วงเวลานี้ ตนอยากให้กำลังใจประชาชนทุกคน เพราะตนและพรรคประชาชนมีความรู้สึกที่รักประเทศนี้ รักชาติไทยไม่ได้ต่างจากทุกๆ ท่าน

เพียงแต่ในการดำเนินการทุกอย่างของประเทศ ต้องเป็นไปตามหลักสากลด้วย เราไม่ได้ยืนอยู่ประเทศเดียว แต่เรายืนอยู่ในเวทีโลก และสิ่งที่จะทำให้เราได้เปรียบกัมพูชาในเวทีโลก

ในขณะที่เขาปล่อยข้อมูลข่าวสารที่ไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง สิ่งที่จะเอาชนะคำหลอกลวงได้ คือความจริง รวมถึงการยึดหลักกติกาสากล…”

“…เขาทำอะไรไม่ดีกับเรา เรามีหน้าที่ในการป้องกันประเทศอย่างเข้มแข็ง อย่าทำตัวเองให้เสียเปรียบ

ในขณะเดียวกัน เราคงไม่ใช้อำนาจที่เหนือกว่า กองทัพที่เหนือกว่าไปข่มเหง เพราะเมื่อไหร่ที่เราทำแบบนั้น เราจะขาดการยอมรับจากเวทีนานาอารยประเทศ…”

มึนกับพรรคส้มจริงๆ ครับ

ในขณะที่ทหารไทย ข้าราชการไทย โรงพยาบาลไทย ล้วนยึดหลักสากล

เป็นหลักสากลในยามสงคราม

แต่ “หัวหน้าเท้ง” พูดราวกับ ทหารไทย ข้าราชการไทย โรงพยาบาลไทย ทำตัวเป็นนักเลงโต พร้อมที่จะชกใต้เข็มขัดกับเขมร

เหตุสงครามย่อมๆ นี้ ทหารไทยเป็นสุภาพบุรุษที่สุดแล้วครับ

ใช้กำลังทหารที่ทันสมัยกว่าในแง่อาวุธ วิธีคิด และระเบียบวินัย เพื่อปกป้องตัวเอง และประชาชน จากการรบแบบบ้าคลั่งของทหารเขมร แต่ “หัวหน้าเท้ง” พูดราวกับเราไปข่มเหงเขมร

มันมีวิธีพูดวิธีสื่อสารเยอะแยะครับ แต่ "หัวหน้าเท้ง" เลือกที่จะพูดเหมือนทหารจะไปทำร้าย หมอจะไปแค้นคนเขมร ข้าราชการไทยไปรังเกียจคนกัมพูชา

ถ้าวางความรู้สึก “พูดแล้วเท่” ลงไปสักนิด คำพูดของ “หัวหน้าเท้ง” จะน่าฟังกว่านี้เยอะ

ไม่ต้องไปสอนทหารหรอกครับว่าต้องรบแบบไหน

เรื่องข้อมูลไปฟ้องชาวโลก ทหารเขาเก็บกันละเอียดยิบ วันที่คณะทูตและสื่อต่างประเทศลงพื้นที่ก็เห็นกันแล้วว่าเสิร์ฟข้อมูลข้อเท็จจริงล้วนๆ

เรื่องรักชาติตอบไม่ได้จริงๆ ว่านักการเมืองในพรรคส้มรักมากหรือน้อยกว่าคนอื่น

แต่พฤติกรรมที่แสดงออกว่ารักชาตินั้น ยังเป็นคำถามตัวโตๆ ครับ

ในโซเชียลเขาแซวกันบ่อยว่า สส.พรรคส้ม รักโรฮีนจา รักเมียนมา รักเขมร มากกว่ารักคนไทย

บางรายอัดคลิปตัวเองร้องไห้เพราะสงสารชาวปาเลสไตน์

ทีชาวบ้านตายในเซเว่น เพราะเขมรอัปรีย์ใช้อาวุธสงครามถล่มพลเรือนไทย ไม่เห็นน้ำตาสักหยด

ยังไม่เห็นพรรคส้มตั้งโต๊ะแถลงข่าวเป็นเรื่องเป็นราวแสดงความโศกเศร้าเสียใจ ร้องไห้น้ำตานองจากเหตุการณ์ทหารเขมรฆ่าคนไทยผู้บริสุทธิ์เลย

มีแต่แถลงสำบัดสำนวนเอาเท่ห์เอาหล่อ

ที่จริงคนไทยทุกคนรักชาติตัวเองทั้งนั้นครับ ยกเว้นพวกด่าประเทศกูมี แล้วอยากย้ายไปอยู่ต่างประเทศ คนพวกนี้มองประเทศไทยเป็นแค่ทางผ่าน ไร้ค่า ไร้ความสำคัญ

มันไม่อยากเกิดเป็นคนไทยด้วยซ้ำ

พูดถึงเวทีโลก ในความหมายของ “หัวหน้าเท้ง” คืออะไร

คืออเมริกาขายอาวุธสงคราม เอาไปใช้กันทั่วโลก ฆ่ากันไปเท่าไหร่แล้ว

อิสราเอลถล่มโรงเรียน โรงพยาบาลในซีเรีย ในปาเลสไตน์ เด็กๆ ตายไปเท่าไหร่แล้ว โลกว่าไงบ้าง

หลักการกอดได้ครับ แต่อย่าเอามาตัดสินใจในทุกสถานการณ์

นี่ถ้า "พิธา" เป็นนายกฯ พรรคส้มเป็นแกนนำรัฐบาล ไม่รู้ว่าทหารไทยต้องตายเท่าไหร่ เพราะมัวแต่ห่วงว่าทหารไทยจะไปข่มเหงทหารเขมร

จะยิงปืนใหญ่สักนัดต้องขออนุญาตก่อน

เผลอๆ เอฟ-๑๖ กริพเพน จอดตาย ไม่ได้ขึ้นบินไปทิ้งไข่หรอกครับ

เพราะพรรคส้มจะเป็นรัฐบาลที่มีความเชื่อว่า การใช้กำลังที่เหนือกว่าคือการข่มเหง

ครับ…นั่นคือเรื่องของทัศนคติ กอดหลักการที่ยืดหยุ่นไม่ได้ ไม่เข้ากับสถานการณ์ โชคดีที่พรรคส้มเป็นฝ่ายค้านในช่วงที่ชาติวิกฤต

ตั้งแต่เรื่องวัคซีนโควิด-๑๙ มาแล้ว

เป็นโชคดีของประเทศไทยจริงๆ

ที่ประชุม ครม.วานนี้ มีมติเห็นชอบในการจัดซื้อเครื่องบินกริพเพน ๑ ฝูงบิน จำนวน ๔ เครื่อง พร้อมเรือดำน้ำ ตามที่กองทัพอากาศและกองทัพเรือเสนอ

ผ่านไปง่ายๆ ดีครับ พรรคฝ่ายค้านเองก็ไม่ค้าน ทั้งๆ ที่ต่อต้านหัวชนฝากับการซื้ออาวุธของกองทัพมาโดยตลอด เป็นตัวตั้งตัวตีตัดลดงบประมาณของกระทรวงกลาโหม

ตัดได้เมื่อไหร่เอาไปโม้เป็นผลงานยันหลานบวช

แต่เรื่องนี้ “หัวหน้าเท้ง” พูดแล้วดูหล่อราวสมบัติ เมทะนี บวก กรุง ศรีวิไล

“ผมและพรรคประชาชน เราไม่เคยต่อต้านการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีความจำเป็น แต่ต้องพิจารณาเป็นเรื่องต่อเรื่อง ชิ้นต่อชิ้นไป

ที่ผ่านมา อย่างเรือฟริเกต และกริพเพน เราก็สนับสนุนมาก่อนหน้านี้แล้ว ตั้งแต่ปีงบประมาณก่อนๆ ด้วยซ้ำ

ดังนั้น ไม่อยากให้มองว่า เรื่องนี้เป็นกระแสที่เกิดขึ้นจากภัยความมั่นคงของประเทศ แล้วทำให้อยู่ดีๆ สส.ของพรรคประชาชนปรับหลักคิดหันมาสนับสนุน ยืนยันว่า ที่ผ่านมา เราไม่เคยคัดค้านการซื้ออาวุธที่จำเป็น แต่ดูเป็นรายกรณีไป

อย่างล่าสุดที่ผมพูดในจังหวัดตราด ก็ได้รับเสียงสะท้อนมาจากในพื้นที่ ว่าตอนนี้มีภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ที่ผมเองก็ไม่สามารถไปตอบได้ว่า ยุทโธปกรณ์อะไร เหมาะสมหรือไม่เหมาะสม ต่อภัยความมั่นคงในปัจจุบัน เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่จำเป็นต้องเสนอเข้ามาในสภาผู้แทนราษฎร…”

ลองไปดูการพิจารณางบประมาณปีก่อนๆ สิครับ พรรคก้าวไกลในขณะนั้น ตั้งท่าตัดงบอะไรของกระทรวงกลาโหมไปบ้าง โดยเฉพาะงบซื้ออาวุธ

มันก็ทัศนคติเดียวกับคำว่า “มีทหารไว้ทำไม” นั่นแหละครับ

พอมีการสู้รบก็แถไปอีกเรื่อง

มันติดเป็นสันดานไปแล้วครับ.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยโพสต์

‘กระรอก’จะเห็นโพรงไหม?

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ไม้เด็ดพิชัย หลอกตาทรัมป์

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม