“ภท.” ผิดหวัง “วันนอร์” ชิงปิดประชุม บอกเตรียมสะท้อนปัญหาปชช.ชายแดนไทย-กัมพูชา พ้อเสียงเสียงเบาไปหน่อย
วันที่ 7 ส.ค.2568 15.45 น.ที่รัฐสภา พรรคภูมิใจไทย นำโดย นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย แถลงกรณีประธานสภาฯ สั่งปิดการประชุมภายหลังวาระการเลือกรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง วันนี้พวกเราเตรียมตัวกันมาตั้งแต่เช้า โดยเฉพาะสส.ที่อยู่บริเวณจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ได้รับผลกระทบในหลายจังหวัด ซึ่งเราก็คือผู้ที่ได้รับผลกระทบ และอยู่หน้างานจริงๆ ที่สัมผัสกับประชาชนตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ และเราตั้งใจรวบรวมเอาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนมาสะท้อนปัญหาสู่ผู้บริหารในสภา เมื่อเช้านี้ ยังดีใจที่เห็นรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย มาตอบกระทู้ถามสดเรื่องการแก้ไขปัญหาชายแดน
"พวกผมรู้ปัญหานี้ และตั้งใจสะท้อนปัญหานี้ บอกกับรัฐมนตรีตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว น่าเสียดายที่เสียงของพวกเราดังเบาน้อยไปหน่อย อาจไม่ถึงตัวรัฐมนตรี และอาจคิดว่าเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ ว่าทุกสิ่งที่พวกเราพูดนั้น เป็นประเด็นด้านการเมือง ที่จะมาโจมตีรัฐบาล ซึ่งไม่ใช่" นายกรวีร์ กล่าว
นายกรวีร์ กล่าวต่อว่า ยังมีจังหวัดอื่นที่มีปัญหาในการดูแลประชาชนอีก จึงคิดว่าเวทีสภาฯ ควรเป็นปากเป็นเสียงให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ ตนกล้าพูดว่า ไม่มี สส.ที่ไหน ที่จะรู้ดีไปกว่าพวกตนที่ยืนตรงนี้ เพราะเราขลุกในพื้นที่ตั้งแต่วันแรกถึงวันนี้ เราเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่า หากมีโอกาสในการเสนอญัตติด่วน นำเอาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนนำเสนอสู่รัฐบาล เพื่อให้เวลาที่เหลือนี้ รัฐบาลจะนำไปแก้ไขอย่างเร่งด่วน ไม่ใช่แก้ไขที่ปลายเหตุ ด้วยการไปย้ายผู้ว่าฯ เมื่อพบปัญหา ตนคิดว่ารัฐมนตรีในกำกับ ในกระทรวงที่ดูแล เมื่อรู้ปัญหาแล้ว ก็ควรเอาปัญหาไปแก้ไขให้กับประชาชนโดยด่วน นอกจากนั้น ก็ยังมีเรื่องของบทเรียน ที่พวกเราคิดว่า ทดสอบความสามารถของรัฐบาล ในการรับมือกับภัยพิบัติ หรือวิกฤตการณ์ต่างๆ ของประเทศ เพราะอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ก็มีการคาดการณ์ว่า จะมีฝนใหญ่ และอาจเจอปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากเหมือนทุกปี ในการรับมือกับวิกฤตประเทศ
“ผมคิดว่ารัฐบาลควรใช้บทเรียนตรงนี้ทบทวน เพื่อวางมาตรการต่างๆ ในการใช้จ่ายงบประมาณกรณีฉุกเฉิน รวมถึงการปรับปรุงวิธีการทำงาน เพื่อสร้างสถานที่ ทั้งการอพยพ และการดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ ผิดหวังครับ ผิดหวังที่ สส.เราเตรียมกันไว้ ทั้งที่ผมก็มีการลุกขึ้นเสนอ ก่อนที่จะมีการลงมติเลือกรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่งเสียอีก เราเสียเวลาไปอีกสัปดาห์ ต่อไปก็ไม่รู้ว่าความเดือดร้อนของประชาชนจะเป็นอย่างไร พวกเราจึงอยากใช้โอกาสนี้ หากประธานสภา ปิดตอน 1-2 ทุ่ม ก็เข้าใจได้ แต่ปิดตอนบ่ายสามโมงกว่า เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยากจริงๆ เสียดายโอกาสตรงนี้ ที่จะได้นำเสนอข้อเท็จจริงสู่คณะรัฐมนตรีต่อไป" นายกรวีร์ กล่าว