โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

อสังหาริมทรัพย์

โนเบิล เผยครึ่งปีแรกรายได้ 3,402.1 ล้าน Backlog 25,200 ล้านรับรู้รายได้ ต่อเนื่อง 4 ปี

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 14 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา

แม้ตลาดอสังหาริมทรัพย์เผชิญแรงกดดันเศรษฐกิจ แต่ในทางกลับกันยังสร้างผลการดำเนินงานเติบโต เช่นเดียวกับ บมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ หรือ “NOBLE” งบครึ่งปีแรก รายได้ 3,402 ล้านบาท กำไร 27 ล้านบาท แต่ยอดโอนโครงการแนวราบยังเติบโตได้ และสามารถปิดการขาย 3 โครงการใหญ่รวมมูลค่า 4,700 ล้านบาท เตรียมพร้อมโอน 4 โครงการสร้างเสร็จมูลค่า Backlog กว่า 8,600 ล้านบาทในครึ่งปีหลัง เสริมกลยุทธ์รุกตลาด พร้อมขยายฐานลูกค้าต่างประเทศ

นายธงชัย บุศราพันธ์ รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ “NOBLE” ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โครงการที่อยู่อาศัยในทำเลชั้นนำของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เปิดเผยผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2568 โดยบริษัท ฯ มีรายได้รวม 3,402.1 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 27.2 ล้านบาท ลดลง 23.1% และ 86.6% ตามลำดับเมื่อเทียบกับปีก่อน

สาเหตุหลักมาจากการปรับกลยุทธ์ด้านราคาเพื่อกระตุ้นยอดขาย ทำให้รายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปรับลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าอีกทั้งยังไม่มีโครงการคอนโดสร้างเสร็จใหม่ในช่วงครึ่งปีแรก อย่างไรก็ดี ยอดโอนของโครงการแนวราบ (รวมคอนโดมิเนียมไม่เกิน 8 ชั้น) ยังคงแข็งแกร่งและมียอดขายต่อเนื่อง โดยมียอดโอนกรรมสิทธิ์แนวราบรวม 1,524 ล้านบาท เติบโต 25.2% จากปีก่อนหน้า

คอนโดมิเนียมหรูโนเบิล

ส่วนใหญ่มาจากโครงการแนวราบที่ได้รับการตอบรับอย่างดีอย่าง โครงการโนเบิล เทอร์รา พระราม 9 – เอกมัย และ โนเบิล เอควา ริเวอร์ฟร้อนท์ ราษฎร์บูรณะ ขณะที่ยอดขาย (Presale) ครึ่งปีแรกอยู่ที่ 2,289.3 ล้านบาท จากหลายโครงการเด่น อาทิ นิว เอปิค อโศก – พระราม 9, ดิ เอ็มบาสซี ไวร์เลส และ นิว โคสต์ คูคต สเตชัน

ในช่วงครึ่งปีหลัง NOBLE ตั้งเป้าการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก โดยได้รับแรงหนุนจากทั้งโครงการแนวราบที่ยังคงมีทิศทางบวก และการโอนกรรมสิทธิ์โครงการคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จใหม่ 4 โครงการ มูลค่า Backlog รวมกว่า 8,600 ล้านบาท ได้แก่ นิว อีโว อารีย์ ซึ่งจะเริ่มโอนสิ้นเดือนสิงหาคมนี้, โนเบิล ฟอร์ม ทองหล่อ, โนเบิล ครีเอท ที่จะเริ่มโอนสิ้นเดือนกันยายน และ นิว ริเวอร์เรสต์ ราษฎร์บูรณะ โดยทุกโครงการมีความคืบหน้างานก่อสร้างแล้วกว่า 95% และอยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณภาพอย่างเข้มงวด

เพื่อให้ส่งมอบได้ตามมาตรฐานสูงสุดของบริษัท พร้อมกันนี้บริษัทฯ ยังเดินหน้ากลยุทธ์การตลาดเชิงรุกเพื่อกระตุ้นยอดขายอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้เปิดตัวแคมเปญ “Flash Nue จ่ายครึ่งเดียว อยู่ได้เลย” ใน 3 โครงการ ได้แก่ นิว คอนเน็กซ์ คอนโด ดอนเมือง, นิว ซี-สแควร์ สวนหลวง สเตชั่น และ นิว เมกา พลัส บางนา เพื่อตอบสนองความต้องการของทั้งผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงที่มองหาที่อยู่อาศัยในราคาที่คุ้มค่า และนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ต้องการสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าปกติจากการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์คุณภาพ

ด้าน นายศิระ อุดล ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กล่าวเสริมว่า แม้ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมยังชะลอตัวและกำลังซื้อในประเทศเผชิญแรงกดดันจากค่าครองชีพและมาตรการสินเชื่อที่เข้มงวด แต่ NOBLE ยังคงรักษาศักยภาพในการดำเนินงานและสร้างยอดโอนได้อย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2568 บริษัทสามารถปิดการขายโครงการหลักครบ 3 แห่ง

ได้แก่ นิว โนเบิล เซ็นเตอร์ บางนา ซึ่งโอนกรรมสิทธิ์ครบตั้งแต่ไตรมาส 1, นิว โนเบิล รัชดา – ลาดพร้าว และ นิว ครอส คูคต สเตชัน (เฟสแรกของ “คูคตมหานคร”) ซึ่งมีการโอนกรรมสิทธิ์ครบ 100% ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยโครงการนิว ครอส คูคต สเตชัน บริษัทฯ เป็นผู้บริหารโครงการให้กับพันธมิตรหลังจากมีการขายไปตั้งแต่ปี 2566 การปิดโครงการทั้ง 3 แห่งรวมมูลค่ากว่า 4,700 ล้านบาท

ไม่เพียงสะท้อนถึงประสิทธิภาพในการบริหารโครงการและส่งมอบงานตามแผน แต่ยังช่วยรักษาระดับกระแสเงินสดและสร้างความมั่นใจให้กับผู้ถือหุ้นและนักลงทุน ขณะเดียวกันยังตอกย้ำความสามารถของบริษัทในการปรับตัวต่อสภาวะตลาด พร้อมต่อยอดความสำเร็จสู่การพัฒนาเฟสถัดไปอย่างต่อเนื่อง รวมถึงโครงการใหม่ในอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้น

ด้านสถานะทางการเงิน NOBLE ยังคงมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยได้ชำระคืนหุ้นกู้และเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินครบตามกำหนดในครึ่งปีแรก ส่งผลให้ในครึ่งปีหลังไม่มีแรงกดดันด้านสภาพคล่อง อีกทั้งหลังจากโครงการหลักอย่างนิว อีโว อารีย์, โนเบิล ฟอร์ม ทองหล่อ, โนเบิล ครีเอท และ นิว ริเวอร์เรสต์ ราษฎร์บูรณะ เริ่มทยอยโอนกรรมสิทธิ์ จะช่วยเสริมสภาพคล่องและเพิ่มความยืดหยุ่นทางการเงินอย่างมีนัยสำคัญ

นอกจากการบริหารโครงสร้างทางการเงินอย่างรอบคอบแล้ว บริษัทฯ ยังเดินหน้าขยายฐานลูกค้าต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยคงความแข็งแกร่งในตลาดหลัก ได้แก่ ไต้หวัน จีน และเมียนมา ควบคู่กับการรุกเข้าสู่ตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสูง เช่น รัสเซีย และ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) เพื่อรองรับความต้องการลงทุนและอยู่อาศัยในประเทศไทยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นอีกแรงขับเคลื่อนสำคัญในการสร้างรายได้และกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจในระยะยาว

ธงชัย บุศราพันธ์
ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ฐานเศรษฐกิจ

Smart SME EXPO 2025 สร้างเงินสะพัด 474 ล้าน ธุรกิจสะดวกซักมาแรง

10 นาทีที่แล้ว

ดูบอลสด ลีดส์ พบ เอฟเวอร์ตัน ถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีก 02.00 น.

17 นาทีที่แล้ว

‘TCP’ เปิดโรดแมปสู่องค์กรยั่งยืน เจ้าตลาดเครื่องดื่มสู่ผู้นำนวัตกรรมสีเขียว

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ป.ป.ช. ประกาศผล ITA 68 'สตง.' คว้าอันดับ 1 องค์กรอิสระ โปร่งใสสูงสุด

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...